วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2562
"ไฮบริด วอร์แฟร์"นวัตกรรม? "บิ๊กแดง"ยกลากไส้ "บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ"
"ไฮบริด วอร์แฟร์"นวัตกรรม? "บิ๊กแดง"ยกลากไส้ "บิ๊กการเมือง-นักวิชาการ" : สำราญ สมพงษ์รายงาน
คำว่า "ไฮบริด วอร์แฟร์" (Hybrid Warfare) ผุดขึ้นกลางห้องประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก ในการบรรยายพิเศษของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” โดยมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้นำองค์กร ผู้นำมวลชน สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหาร ข้าราชการทหาร ตำรวจ อดีตตุลาการศาล รวมทั้งศิลปินดารา อาทิ นก สินจัย เปล่งพานิช นายฉัตรชัย เปล่งพานิช ตลอดจนสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างไรนั้นจะไม่ระบุ แต่จะขยายความคำว่า "ไฮบริด วอร์แฟร์" เท่านั้น
คำว่า"ไฮบริด วอร์แฟร์" นี้ พล.อ.อภิรัชต์นำมาขยายความคำว่า "ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ประกอบ" โดยอธิบายคำว่า "ไฮบริด วอร์แฟร์" หรือสงครามลูกผสม คือ สงครามที่ใช้วิธีการผสมผสานกันของเครื่องมือ ทั้งจากสงครามตามแบบและสงครามไม่ตามแบบ ที่ประกอบด้วย กองกำลังทหารปกติ กำลังทหารรบพิเศษ กองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น มวลชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ การสนับสนุนจากประชาชนในท้องถิ่น สงครามข้อมูลข่าวสาร และการโฆษณาชวนเชื่อ การทูต การโจมตี ด้านไซเบอร์และ สงครามเศรษฐกิจ
"ที่ผมกำลังพูดเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ มันเป็นทฤษฎี ที่เรียกว่า ไฮบริด วอร์แฟร์ มันไม่ใช่เรื่องถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ศึกษาทำเป็นทฤษฎี จากประสบการณ์ที่ประเทศต่างๆล่มสลาย ว่ามันเกิดเหตุอะไรบ้าง ไฮบริด วอร์แฟร์ คือ สงครามลูกผสม คือสงครามที่ใช้การผสมผสานกันของเครื่องมือทั้งสงครามตามแบบและสงครามไม่ตามแบบ สงครามตามแบบคือ คือการใช้กำลังทหารป้องกันปราบปราม การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทั้งในประเทศและร่วมกับมิตรประเทศ หน่วยที่ 2 เป็นหน่วยพิเศษ ใช้ในการต่อต้านการก่อการร้าย และปฎิบัติการรบในสงครามนอกแบบ
"ไฮบริดวอร์แฟร์" มีความสำคัญอย่างไร เริ่มตั้งแต่กองกำลังที่ไม่ใช่ทหาร เช่น กลุ่มก่อการร้าย การก่ออาชญากรรม มวลชนที่ต่อต้านอำนาจรัฐ กลุ่มยาเสพติด ไอ้ชุดดำ เช่น กลุ่มที่เข้ามาวางระเบิดใน กทม.8จุด และไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร ผมไม่ได้พูดเพื่อท้าทาย แต่ผมเชื่อว่าหลังผมพูดไปแน่นอนทางโซเชียลมีฟีดแบ็คถึงผมแน่ แต่อย่าทำร้ายประเทศ พวกที่ไม่พอใจ ผมอยากจะให้ทุกคนได้รู้ทัน ว่า ไฮบริด วอร์แฟร์ มันเกิดขึ้นแล้ว ในประเทศไทย" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว แต่ไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจนเพียงบอกว่า "มันเกิดขึ้นแล้ว" เป็นประโยคอดีต
ต่อจากนั้นพล.อ.อภิรัชต์ ได้ระบุถึงสงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทั่วโลกทุกคนแต่ในประเทศไทยหนัก หนักมากจริงๆ น่าเป็นห่วง การโฆษณาชวนเชื่อ"
คำว่า "การโฆษณาชวนเชื่อ" นี้นับได้ว่าเป็นทฤษฎีการสื่อสารประการหนึ่งหรือเรียกว่า"ทฤษฎีเข็มฉีดยา" ซึ่งพล.อ.อภิรัชต์ระบุถึงคนที่นำทฤษฎีนี้มาใช้คือกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ไม่ได้กลับใจ คนกลุ่มนี้อายุประมาณ 70-72 รุ่นนี้ไม่ออกตัวแต่เป็นมาสเตอร์มาย เป็นนักวิชาการ ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น แล้วผนึกกำลังร่วมกับพวกอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไร้จรรยาบรรณ
"พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เด็กก็ต้องเชื่อ เพื่อสร้างการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วนำแนวความคิดของตัวเองนั้นผ่านโซเชี่ยล ทั้งเฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์ ไลน์ สิ่งพิมพ์ ออกข่าวลวง เฟกนิวส์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ ทุกคนมีมือถือกันหมด ข่าวเฟสนิวส์ทุกวันนี้ หรือข่าวโฆษณาชวนเชื่อทุกวันนี้มันขึ้นมา ป๊อปอัพเร็วเหลือเกิน เร็วกว่าเรื่องดีๆ สงครามข้อมูลข่าวสารการโฆษณาชวนเชื่อไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านั้น ยังสร้างสัญลักษณ์ ดูทั่วโลกแล้วย้อนมาดูประเทศไทย การสร้างสัญลักษณ์ เช่น เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อดำ เสื้อสีรุ้ง สร้างสัญญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว นี่คือการสร้างสัญลักษณ์เพื่อให้เกิดการจดจำว่าถ้าทำแบบนี้คือพวกเดียวกัน ผมบอกแล้วนะครับว่าเหตุการณ์ที่ผมพูดไปไม่ใช่เหตุบังเอิญ" พล.อ.อภิรัชต์ ระบุและว่า
สิ่งที่หนักไปกว่านั้นคือ ไซเบอร์แอทแทค (Cyber attacks) หรือการโจมตีทางไซเบอร์ เรื่องนี้ก็คือ การใช้ “บิ๊กดาต้าอนาลิติก” (Big data analytics) ทุกครั้งที่ท่านใช้โทรศัพท์มือถือ กดไลน์ ซื้อของ ไปเที่ยว ทำอะไรก็ตามที่แสดงพฤติกรรมผ่านมือถือ ระบบพวกนี้จะถูกรวบรวม เอาไว้ในบิ๊กดาต้า ความคิดเห็นของท่าน คอมเม้นต์ ทั้งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ท่านด่าใคร รักใคร ชอบใคร ทุกอย่างถูกรวบรวมไว้ในบิ๊กเดต้า ถ้าลงเฟสบุ๊คแล้วมันไปเร็วมาก "บิ๊กดาต้าอนาลิติก" ถูกทำขึ้นมาเพื่อใช้รวบรวมพฤติกรรม ของลูกค้า แต่มีการเอาไปใช้ผิดๆ เพื่อเอามาหวังผลทางการเมือง เพื่อจะทำให้รู้ว่าเด็กชอบอะไร ผู้ใหญ่วัยนี้ชอบอะไร
สุดท้ายพล.อ.อภิรัชต์ ได้ระบุสงครามเศรษฐกิจ หรือ Economic warfare โดยยกตัวอย่างสงครามการค้าที่เรารู้กันว่าขณะนี้จีนกับสหรัฐอเมริกา
สรุปแล้วการบรรยายพิเศษของพล.อ.อภิรัชต์นั้นมีสงครามของ 3 ประเภทคือ สงครามไฮบริด วอร์แฟร์ สงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อและสงครามเศรษฐกิจ
สำหรับสงครามไฮบริด วอร์แฟร์หรือสงครามลูกผสมหรือสงครามไม่ตามแบบนี้เป็นคำใหม่หรือเป็นนวัตกรรมหรือไม่
ผู้ที่เปิดเผยถึงสงครามไฮบริด วอร์แฟร์นี้เข้าใจว่า "เป็นคนแรก" คือ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ, ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ในการบรรยายเรื่อง "สงครามและสันติภาพ" แก่นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2559
ในครั้งนี้ พล.อ.เอกชัย ได้ลงความเห็นว่า "ปัจจุบันนี้สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นแล้ว" โดยให้คำจำกัดความหรือลักษณะว่า เป็น "สงครามแบบไร้ตัวตน" หรือ "สงครามหลบใน" เนื่องจากสงครามโลก 2 ครั้งที่ผ่านมานั้นมีรูปแบบของการก่อการอย่างชัดเจน ดังนั้น จากการเรียนการสอนวิชาแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับสันติศึกษา ของนิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มจร ที่ผ่านมา ผู้เขียนจึงได้กำหนดหัวข้อในการประมวลเป็นองค์ความรู้คือ “พุทธสันติวิธียุติสงคราม(ครั้งที่3)แบบไร้ตัวตน” ภายใต้คำถามที่ว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 แบบไร้ตัวตนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากเกิดขึ้นจริงแล้วกรอบแนวคิดเกี่ยวกับความขัดแย้ง ความรุนแรง สงคราม สันติภาพและสันติวิธีที่มีอยู่เดิมจะสามารถยุติสงครามโลกครั้งที่ 3 แบบไร้ตัวตนได้หรือไม่อย่างไร และพุทธสันติวิธีจะสามารถยุติสงครามโลกครั้งที่ 3 แบบไร้ตัวตนได้หรือไม่อย่างไร
ดังนั้น การที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้นำเหตุการณ์สงครามไฮบริด วอร์แฟร์ในการบรรยายครั้งนี้จึงเป็นการยืนยันความคิดของพล.อ.เอกชัย เพราะเข้าใจว่า" สงครามไฮบริด วอร์แฟร์หรือสงครามลูกผสมหรือสงครามไม่ตามแบบ" นี้ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับ "สงครามแบบไร้ตัวตน" หรือ "สงครามหลบใน" ตามความคิดของพล.อ.เอกชัย
ทีนี้จะระงับสงครามไฮบริด วอร์แฟร์ทำให้เกิดสันติภาพสงบสุขอย่างไร หรือจะปล่อยให้สังคมไทยตกอยู่ในสภาพ "สันติภาพหลบใน" ด้วยวิธีการหรือทฤษฎีใด ในที่นี้ขอเสนออริยสัจโมเดล เพราะว่า "สงครามไฮบริด วอร์แฟร์" ก็เป็นลักษณะของทุกข์ในอริยสัจประการหนึ่ง แล้วจะแก้ทุกข์ให้เกิดสันติภาพหรือนิโรธอย่างไร นั้นจะต้องเดินตามมรรคมีองค์แปด เริ่มตั้งแต่คิดชอบ พูดชอบทำชอบ เป็นต้นเป็นนักรบพุทธสันติวิธี หากยังไม่เดินตามมรรค สังคมไทยก็คงอยู่ในสภาพ "สันติภาพหลบใน" ต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
พรรคพลังประชารัฐปรับโลโก้ เพิ่มริ้วสีส้มสื่อไร้ขัดแย้ง สู่อนุรักษ์นิยมทันสมัย
พลวัตแห่งสัญญะและยุทธศาสตร์การปรับตัว: การวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ต่ออัตลักษณ์ใหม่และแนวคิด "อนุรักษ์นิยมทันสมัย" ของพรรคพลังประชารัฐ ...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
-
หลวงพ่อหอม จันทโชโต วัดซากหมาก อ.บ้านฉาง จ.ระยองถือว่าเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ดังรูปหนึ่ง "พระครูภาวนานุโยค" หรือที่ช...
-
กระบวนการพัฒนาศาสนทายาทในหลักสูตรสันติศึกษา มจร เป็นแบบอย่างที่สำคัญในการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพและจิตใจที่มั่นคงในสังคมไทย การผสมผสานระหว่าง...

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น