วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ปชป.เตือนอย่านำผู้พิพากษายิงตัวมาโยงทางการเมือง พท.แนะถึงเวลาสังคายนากระบวนยุติธรรม



วันที่ 7 ตุลาคม 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงกรณีผู้พิพากษายิงตัวเองในศาลจังหวัดยะลาว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ศาลยุติธรรมจะต้องดำเนินการหาข้อเท็จจริงกันต่อไปเป็นเรื่องขององค์กรที่มีขั้นตอนกระบวนการอยู่แล้ว การลงพื้นที่เก็บข้อมูลของเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะข้อมูลทั้งหมดก็จะมีการหยิบยกไปพูดคุยกันในคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมหรือ ก.ต. ทุกอย่างก็เกิดความชัดเจนในข้อมูลทุกฝ่ายควรปล่อยให้เป็นเรื่องผู้มีอำนาจหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ

แต่ที่สำคัญพรรคการเมืองและนักการเมืองอย่าหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นทางการเมืองโดยมีเจตนาให้เกิดความเสียหายและทำลายความน่าเชื่อถือกับอำนาจตุลาการ  ที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่าองค์กรตุลาการเป็นองค์กรที่เป็นหลักให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด มีระบบอย่างชัดเจน หากมีสิ่งใดที่ต้องดำเนินการปรับปรุงหรือว่าแก้ไขก็ให้เกิดขึ้นโดยจิตบริสุทธิ์ที่มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศก็ไม่ควรตั้งต้นพูดโดยจิตที่คิดร้าย ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการคิดโดยมีอคติการแก้ไขปัญหาก็จะไม่ตรงจุด ในฐานะนักกฎหมายที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมยังเชื่อว่ากระบวนการของความเห็นต่างของผู้พิพากษาที่นำไปสู่การทำความเห็นแย้งนั้นคู่ความทุกฝ่ายสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการของคดีได้ การเห็นแย้งภายในองค์กรไม่ถือว่าเป็นการแทรกแซงกระบวนการต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดเป็นการป้องกันการแทรกแซงจากบุคคลภายนอกซึ่งมีรายละเอียดพอสมควร ฉะนั้นพรรคการเมืองและนักการเมืองอย่าใช้ประเด็นนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองเลย

พท.แนะถึงเวลาสังคายนากระบวนยุติธรรม

ที่พรรคเพื่อไทย นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องทบทวนและสังคายนากระบวนการยุติธรรม หลังจาก เกิดกรณีที่ผู้พิพากษา ศาลจังหวัดยะลา ยิงตนเอง โดยได้ทิ้งคำพิพากษา ไว้ให้สังคมทราบว่าถูกกดดันแทรกแซงจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งเชื่อได้ว่าข้อเท็จจริงในคำแถลงนั้นเป็นความจริง ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทุกภาคส่วนต้องหยิบเรื่องนี้มาพิจารณาว่ามีอะไรซ่อนอยู่ใกระบวนการยุติธรรมไทย

“คมกระสุนครั้งนี้เป็นการจุดประกายไฟไม่เพียงในสื่อมวลชนไทยเท่านั้นแต่ทั่วโลกที่ให้ความสนใจ ทุกฝ่ายต้องทำความจริงให้ปรากฏ ให้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง ควรสังคายนาและปฏิวัติ การดำเนินคดีทางการเมืองมีผลกระทบรุนแรง ดังนั้นต้องสังคายนาหาความจริงให้ปรากฏผลของคำวินิจฉัยไม่ว่าจะเป็นคดีทางการเมือง “นายชุมสาย กล่าว


ด้านร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถาบันในองค์กรตุลาการได้มีการออกแบบโครงสร้างให้เป็นองค์กรอิสระอยู่แล้ว เช่น คณะกรรมการกต.มีความเป็นอิสระที่จะพิจารณาคดี สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของตุลาการที่จะสร้างระบบขึ้นมาป้องกันการแทรกแซงจากอำนาจอื่น ปัญหานี้ไม่ควรผลักภาระไปที่กระบวนการยุติธรรมอย่างเดียวแต่ควรร่วมมือกันทุกภาคส่วนในการป้องกันการหาผลประโยชน์โดยใช้การแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม กลไกลสำคัญในกระบวนการยุติธรรมหมายรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ด้วย หากต้องการนำความเชื่อมั่นกลับคืนมาต้องแสดงให้เห็นว่าแต่ละหน่วยงานมีการถ่วงดุลทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือผลประโยชน์ของผู้ใด กระบวนการยุติธรรมต้องมีร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เกิดความเชื่อมั่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นายกฯลาวดวงตาเห็นธรรมพุทธ หวังเสริมแกร่งเป็นฐานพัฒนาประเทศ

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์: นายกรัฐมนตรีลาวกับข้อเรียกร้องให้พระพุทธศาสนามีบทบาทที่แข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ: พลวัตใหม่แห่งรัฐสังคมนิยม...