วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563
"ดร.กนก"แนะ"รัฐบาล"เตรียมนโยบายรับแรงงานคืนถิ่นหลังโควิด-19
วันที่ 28 เม.ย.2563 ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงถึงแรงงานเมืองที่กลับคืนสู่ท้องถิ่นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ว่ารัฐบาลควรต้องเตรียมความพร้อมทางนโยบายเพื่อรองรับแรงงานเหล่านี้ในการประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิต ด้วยการเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสของเกษตรชนบท ในการร่วมพลิกฟื้นระบบเกษตรไทย
"ผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด 19 ต่อเศรษฐกิจไทยที่สำคัญเรื่องหนึ่ง คือการเคลื่อนตัวออกจากเมืองของแรงงาน หลังไม่มีงานให้พวกเขาทำ ซึ่งคาดกันว่ามีจำนวนประมาณ 3-5 ล้านคน นั่นเพราะแรงงานกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แล้วมีภูมิลำเนาอยู่ตามต่างจังหวัด มาอาศัยอยู่ที่เมืองใหญ่ด้วยการเช่าที่พักอาศัย เพื่อแลกกับจำนวนรายได้ที่สร้างความพึงพอใจในแต่ละบุคคลล ดังนั้น เมื่อไม่มีงาน ขาดรายได้ การหยุดหรือลดรายจ่ายที่ง่ายที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นการกลับบ้าน เพื่อตัดค่าเช่าบ้าน และลดค่าครองชีพที่สูงลงมา
แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือ เมื่อแรงงานเหล่านี้คืนสู่ท้องถิ่นแล้ว การดำเนินชีวิตต่อไปของพวกเขาควรเป็นไปในแนวทางใด ซึ่งคำตอบที่ผมพอจะมองเห็นตอนนี้ เป็นการเข้าไปประสานกับภาคการเกษตรของชนบท ในการยกระดับระบบเกษตรไทยให้สามารถสร้างมูลค่าทั้งด้านรายได้และผลผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ"
อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ยังได้แนะนำให้รัฐบาลบริหารจัดการกับเงื่อนไข 2 ประการเพื่อยกระดับ "เกษตรชนบท" ให้กลายเป็น "เกษตรมูลค่าสูง" ดังนี้
1. จัดหาแหล่งน้ำและที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรในชนบท เพราะน้ำคือชีวิตของเกษตรกร ถ้าไม่มีน้ำทุกอย่างก็จะผูกไว้กับน้ำฝนตามธรรมชาติที่ไม่มีความแน่นอน ส่วนที่ดินเพื่อการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ เป็นปัจจัยการผลิตที่เกษตรกรไม่มีไม่ได้
2. ระบบขนส่ง (logistic) และเครือข่ายโทรคมนาคมที่มีศักยภาพสูง (5G) เพราะการทำเกษตรมูลค่าสูงนั้นต้องใช้เทคโนโลยีกำกับตลอดกระบวนการผลิตจนไปถึงมือผู้บริโภค ดังนั้น โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีต้องมีเสถียรภาพ และค่าใช้จ่ายต้องไม่เป็นภาระต่อเกษตรกร
"นี่คือส่วนประกอบสำคัญของการเกษตรไทยรูปแบบใหม่ที่ "ทำน้อย ได้มาก" ด้วยเทคโนโลยี และระบบการจัดการที่ทันสมัย กับความหลากหลายทางชีวภาพ และทักษะอันเฉพาะตัวของชนบท ซึ่งก็คงต้องไปสู่คำถามต่อมาว่า แล้วจะทำอย่างไรให้ "แรงงานในเมือง" กับ "เกษตรกรชนบท" ทำงานร่วมกันได้ เพราะนี่คือต้นทางของการเพิ่มผลผลิต (Productivity) และการสร้างมูลค่าใหม่ (Value Creation) ทางการเกษตร ทั้งในแง่กระบวนการและผลลัพธ์ ที่อาจบอกได้ว่าเป็นการ "พลิกฟื้นระบบเกษตรไทย" ในสายตาของผม"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
สูตรลับพลับพลา ซีฟู๊ดไชยา พลวัตเศรษฐกิจฐานราก
วิเคราะห์ความพิเศษของร้านพลับพลา ซีฟู๊ด อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี: มิติทางนิเวศวิทยาวัฒนธรรม พลวัตเศรษฐกิจฐานราก และสุนทรียศาสตร์แห่งรสชาติ บทค...
-
พระปิดตายันต์ยุ่งมหาอุตโม หลวงปู่ทิม อิสริโก จัดสร้างเพื่อหารายได้ สร้างหอฉันอุตตโม ออกแบบโดยช่างเกษม มงคลเจริญ ประกอบด้วย เนื้...
-
หลวงพ่อหอม จันทโชโต วัดซากหมาก อ.บ้านฉาง จ.ระยองถือว่าเป็นอดีตพระเกจิอาจารย์ดังรูปหนึ่ง "พระครูภาวนานุโยค" หรือที่ช...
-
กระบวนการพัฒนาศาสนทายาทในหลักสูตรสันติศึกษา มจร เป็นแบบอย่างที่สำคัญในการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพและจิตใจที่มั่นคงในสังคมไทย การผสมผสานระหว่าง...

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น