วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2563

"ศรีสุวรรณ"จ่อร้องผู้ตรวจฯ ค่าไฟแพงหูฉี่ ซ้ำเติมปชช.ให้อยู่บ้านเพื่อชาติสู้"โควิด-19"




เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าออกมาบ่นและร้องเรียนว่าค่าไฟฟ้าในเดือนรอบบิลที่ผ่านมา ทำไมจึงมีราคาแพงแบบก้าวกระโดด ทั้งๆที่รัฐบาลออกพระราชกำหนดฉุกเฉินขอให้ประชาชนอยู่กับบ้าน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ควรที่จะหันมาดูแลเอาใจใส่ต่อปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ทำได้แค่ลดค่าไฟให้ 3 % เท่านั้นนั้น
          
กรณีดังกล่าว เป็นความผิดพลาด ล้มเหลวของการบริหารจัดการระบบพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบของรัฐบาล ตั้งแต่การฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญโดยให้เอกชนมาผลิตไฟฟ้ามากเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดเกินกว่า 70% ไปแล้วโดยมีการทำสัญญาซื้อขายถาวรล่วงหน้าทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาได้ เพราะโรงไฟฟ้าของรัฐผลิตได้ไม่ถึง 30% นั่นเอง ทำให้ขณะนี้มีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้ามากถึง 43,372 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อมาจากเอกชน ขณะที่ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 28,338 เมกะวัตต์ (สถิติใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดเมื่อปี 62 เพียง 32,272 เมกะวัตต์) ทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้เหลือทิ้งเป็นปริมาณที่สูงมาก ทำให้ภาครัฐต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมฉกเงินจากกระเป๋าผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนโดยผ่านค่า FT ไปจ่ายให้เอกชนตลอดเวลา รวมทั้งการคิดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันไดคือใช้จำนวนมากก็เสียค่าไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งๆที่ควรเรียกเก็บตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าตามจำนวนหน่วยต่อเดือนจากปริมาณการใช้จริง ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ต้องมีคำตอบ
          
ก่อนหน้านี้รัฐบาลโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าทั้งหลายทั้ง กฟผ. - กฟน. และ กฟภ. ลดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสุทธิที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วลงอีก 3% ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ตั้งแต่บิลค่าไฟฟ้างวดเดือน เม.ย.-มิ.ย. รวม 3 เดือน แต่นั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการช่วยเหลือประชาชนแบบจิ๊บๆเท่านั้น แต่ทำมาเป็นคุยโวเสียใหญ่โตว่าได้ช่วยประชาชนในยุคโควิด-19 แล้ว ทั้งๆที่ควรจะลดค่าไฟฟ้าให้ทุกครัวเรือน 50% ในยามที่ต้องอยู่บ้านหนีภัยโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนในระยะยาวต้องเร่งลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าเอกชนลงมาให้ได้ 50%จึงจะชอบ
          
การที่หลายบ้านได้รับบิลค่าไฟฟ้าแพงมหาโหด ทั้งๆที่เทียบกันเดือนต่อเดือนแล้วไม่น่าจะแพงขนาดนั้นและได้ส่วนลด 3% แล้วก็ยังแพงอยู่ดีนั้น เรื่องนี้อาจมีกลเล่ห์ฉลที่ซ่อนเงื่อนงำไว้อีกมากที่รัฐบาลโดยหน่วยงานไฟฟ้า และผู้กำกับไฟฟ้า ไม่ได้บอกความจริงต่อประชาชนทั้งหมด โดยเฉพาะการเตรียมการการจ่ายโบนัสให้พนักงานเจ้าหน้าที่กันอย่างมากมายแบบอูฟู่ บนความเดือดร้อนของประชาชนในยุคโควิด-19 และรวมทั้งการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์การผลิต การส่ง การบำรุงรักษาไฟฟ้าที่ราคาแพงเว่อร์ๆ ซึ่งเป็นต้นทุนของการไฟฟ้าที่ผลักภาระมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนช่วยรับผิดชอบทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจะนำหลักฐานไปร้องเรียนให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบในเร็วๆนี้

"เทพไท"กระทุ้งรบ.ลดปัจจัย 4 ค่าครองชีพตอบแทนปชช.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์ และประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อต้องการไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของประชาชน อยากให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ว่า คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดี แต่ใช้วิธีการทำงานอยู่กับบ้าน (work from home) จึงทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งรัฐบาลควรจะต้องดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นการตอบแทนในความร่วมมือ เมื่อประชาชนส่วนใหญ่หยุดพักอาศัยอยู่กับบ้าน ก็ทำให้เกิดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน หรือรายจ่ายในครอบครัวเพิ่มขึ้นกว่าปกติเป็นทวีคูณ รัฐบาลก็ต้องช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนด้วย
          
นายเทพไทกล่าวว่า จึงขอเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือในปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน คือ 1.ค่าอาหารการกินในแต่ละวัน รัฐบาล มีโครงการเยียวยาให้คนละ 5000 บาทต่อเดือนไปบ้างแล้วแล้ว
          
2.ค่าน้ำประปารายเดือนฟรี 500บาท ส่วนเกินลด 50%ทุกครัวเรือน
          
3.ค่าไฟฟ้ารายเดือนฟรี 1,000 บาท ส่วนเกินลด50%เฉพาะมิเตอร์ประเภทบ้านอยู่อาศัย 4.ค่าบริการรายเดือนของโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ลด50%ทุกเลขหมาย ไม่ต้องกดสมัครใช้สิทธิ์หรือแสดงตน และฟรีอินเตอร์เน็ต 10 กิกะไบต์ทุกเลขหมาย โดยไม่ต้องกดลงทะเบียนเพิ่มเติม อยากให้รัฐบาลซึ่งมีแนวความคิดจะช่วยเหลือประชาชนอยู่ในขณะนี้ กล้าตัดสินใจ หรือใจกล้าๆหน่อย ฟันธงทันที นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อมีมติช่วยเหลือ ลดค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ลงครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งประชาชนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ถือว่าเป็นการช่วยกันคนละครึ่ง การที่รัฐบาลได้ประกาศลดค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า แค่ 3% ถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก เพราะเมื่อประชาชนช่วยประเทศชาติ ประเทศชาติก็ต้องช่วยประชาชนด้วยเมื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วธ.ร่วมสืบสานพิธีบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณี ส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567  นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับคณะสงฆ์ ...