วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

"มีแต่ดงกล้วย"เรียนออนไลน์ไม่ได้ ส.ส.พลังประชารัฐชี้สะท้อนเหลื่อมล้ำ



"กัลยา"ส.ส.พลังประชารัฐ  ชี้ปัญหาเรียนออนไลน์ สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทั้งการเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต-อุปกรณ์ แนะ กสทช. เร่งโครงการ uso net ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมวางโครงสร้างโทรคมนาคมอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กมธ.ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการเปิดระบบทดลองเรียนออนไลน์ ว่า เสียงสะท้อนของประชาชนต่อเรื่องนี้พบว่าว่ามีปัญหาและอุปสรรคอยู่หลายเรื่อง หลายครอบครัวที่เป็นคนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีอุปกรณ์ในการรองรับการเรียนออนไลน์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ต คอมพิวเตอร์ การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งโทรทัศน์ เพราะบางครอบครัวนั้น มีลูกหลายคน พ่อแม่ต้องออกไปทำงานทำให้ดูแลเรื่องการเรียนในระบบออนไลน์ไม่ได้ หรืออย่างกรณีที่ยายและหลานต้องแคะกระปุกจูงมือกันไปหาซื้อสมาร์ทโฟนราคาถูก เพื่อให้หลานได้เรียนผ่านออนไลน์ เพราะกลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อนๆ เห็นแล้วก็สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในเรื่องนี้ บางครอบครัวกว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทต้องทำงานหนักมาก

น.ส.กัลยา กล่าวอีกว่า การคิดและริเริ่มการเรียนออนไลน์เป็นสิ่งที่ดี แต่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจะต้องบูรณาการทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต เรื่องอุปกรณ์ การจัดสรรเวลาการเรียน ความพร้อมของครู และการดูแลเด็กๆ ซึ่งเรามีโครงการ uso net ก็ต้องฝากไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะต้องเริ่งให้ผู้ดำเนินโครงการจัดทำเป็นศูนย์อินเตอร์เน็ตชุมชน ให้ทั่วถึงทุกชุมชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต วันนี้โครงสร้างพื้นฐานทางอินเตอร์เน็ตของประเทศไทยยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ในต่างจังหวัดหลายๆแห่งอย่าว่าแต่อินเตอร์เน็ตเลย น้ำและไฟฟ้าบางที่ยังไม่มีใช้ด้วยซ้ำ ตนอยากฝาก กสทช.ต้องเร่งทำให้ ประชาชนทุกคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่าทั่วถึงและเท่าเทียม

"ปัญหาการเรียนออนไลน์ สะท้อนปัญหาหลายอย่างของประเทศไทย ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ดังนั้นวันนี้เราต้องมาดูว่าการบริหารจัดการต่างๆ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือยัง และเราควรต้องวางแผนในการจัดการเรื่องต่างๆเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึง รวมทั้งเป็นการวางโครงสร้างทางระบบโทรคมนาคมเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในด้านอื่นๆในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตด้วย" น.ส.กัลยา กล่าว


ส.ส.เพื่อไทยแนะ ศธ.ทบทวนผู้ปกครองครวญอาหารกลางวันยังต้องไปฝากท้องที่โรงเรียน

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อนโยบายการเรียนออนไลน์ของกระทรวงศึกษาธิการสรุปว่า  หัวใจสำคัญสูงสุด คือ ความไม่พร้อมของผู้ปกครอง เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง ที่พอแก้ไขได้ อย่าลืมว่า 5 - 6 ปี ที่ผ่านมาก่อนมีไวรัสโควิด -  19 ระบาด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องได้ ส่งผลให้ตัวเลขคนจนพุ่งพรวด เห็นได้จากมีผู้ไปจดทะเบียนคนจน กว่า 14 ล้านคน
            
หลังโควิดมา ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหา ได้เกิดความบกพร่องในการบูรณาการแผนงานปิดเมือง และการปิดกิจการบางประเภท ระหว่างเมืองกับชนบท ส่งผลให้เกิดคนจนเฉียบพลัน ตัวเลขคนที่เดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจขอเงินเยียวยาพุ่งพรวดไปถึง 30 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ประชาสัมพันธ์เอง ดังนั้น จากสภาพการณ์ความยากจนของผู้ปกครองภายใต้การบริหารของรัฐบาลนี้ก่อนโควิดมา และมาถูกกระหน่ำซ้ำเติมจากพิษโควิดซ้ำอีก ต้องยอมรับความจริงว่า
ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่ย่ำแย่ ไม่พร้อมในการสนับสนุนการเรียนออนไลน์ของเด็กนักเรียน ลำพังผู้ปกครองจะประคับประคองชีวิตให้ครอบครัวพออยู่ พอกิน ยังลำบากดังนั้น นโยบายการเรียนออนไลน์จึงเสมือนกับการผลักภาระให้ผู้ปกครองรับภาระมากขึ้นโดยปริยาย
              
"อยากจะเรียนว่า หลายครอบครัวจำนวนมาก หวังให้ลูกฝากท้องไว้กับโครงการอาหารกลางวันที่โรงเรียน ดังนั้น สิ่งที่สังคมควรฉุกคิด ช่วยกันพิจารณาว่า ทำอย่างไรเปิดเทอมที่จะถึงนี้ โครงการอาหารกลางวันถึงจะมีคุณภาพ เด็ก ๆ ได้รับประทานอาหารครบหมู่ การเรียนถึงจะมีคุณภาพ ผู้ที่มีฐานะพอจะแบ่งปันให้ลูก หลานของเราได้มีอาหารกินอิ่มท้องในช่วงโรงเรียนเปิด โปรดช่วยกันหาแนวทางไว้ด้วย โดยเฉพาะศิษย์เก่าแต่ละโรงเรียน เมื่อมีความพร้อม ควรจะกลับมาดูแลรุ่นน้อง ๆ ได้บ้าง อย่างไร หรือไม่ ส่วนการเรียน การสอน ขอให้กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดตามปกติ โดยควรกระจายอำนาจให้โรงเรียนพิจารณาโดยความเห็นชอบของ สคบ.จังหวัด พิจารณาเปิดสถานศึกษาตามความเหมาะสม หากเปิดการเรียนออนไลน์ เปิดบ้าง ไม่เปิดบ้าง ตามความพร้อมของแต่ละสถานศึกษา ความเหลื่อมล้ำจะยิ่งมากขึ้น ๆ จึงขอได้โปรดทบทวนนโยบายการเรียนออนไลน์ เพราะผู้ปกครองในชนบทจำนวนมากยังไม่พร้อม"  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กกต.เตือนผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกเป็น สว. ศึกษาและทำความเข้าใจระเบียบการแนะนำตัวให้เป็นไปตามกฎหมาย

   เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567  ด้วยปรากฏว่ามีบุคคล กลุ่มบุคคล ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเล...