วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

พระธรรมทูตไทยเปลี่ยนชีวิตลูกครึ่งสวีเดน-บัลแกเรีย ฟื้นสติสู้ชีวิตด้วยหลักพุทธธรรม



วันที่ 14 พฤษภาคม 2563  พระวิเทศปุญญาภรณ์ (เจ้าคุณสวีเดน) เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม ประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า ได้มีลูกครึ่งสวีเดน-บัลแกเรีย คือ Mr Aset maiticได้เดินทางมาขอพักอาศัยอยู่ที่วัดพุทธาราม โดยเขาแจ้งว่า ไม่มีใครเข้าใจเขา และไม่มีใครชอบเขาเลย จึงต้องการขอพักเพื่อสงบจิตใจที่วัด จึงรับให้พักที่วัดด้วยหลักเมตตาธรรม  พาทำวัตรสวดมนต์ และให้ทำความสะอาดวัด เรียนรู้วัฒนธรรมแบบพุทธ  สอนให้ไม่ยึดติดให้รู้จักปล่อยวาง พอใจในสิ่งที่มี ยินดีสิ่งที่ได้ ทำใจให้รู้จักพอ


"บัดนี้เขามีสติกลับคืนมาแล้ว ตื่นเช้าทอดไข่ทำอาหารถวายอาหารพระ  พร้อมกันนี้รู้ว่าพระไม่ได้ทำงานไม่มีเงินเดือนเหมือนชาวบ้าน และไม่มีเงินช่วยเหลือใดๆ ไม่เหมือนเขาแม้จะลำบากจากการตกงานแต่ก็ยังมีรายได้จากรัฐจำนวน 12,000 โครนต่อเดือน และมีบ้านอยู่แต่ไม่มีความสุข จึงเกิดความสงสารพระจับใจ   ประกอบกับวันนี้เขาได้พบความสุขของชีวิตและเห็นว่าเป็นความสุขที่แท้จริงของมนุษย์คือความสุขอยู่ที่ใจ" พระวิเทศปุญญาภรณ์ กล่าวและว่า

เขาได้แจ้งให้ทราบว่า เขานั้นเกิดที่ประเทศสวีเดนเป็นคนสวีเดน 100% แต่ว่าพ่อแม่เขามาจากประเทศบัลกาเรีย ปัจจุบันนี้พักงานชั่วคราวจากการเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลคนอพยพจากประเทศอัฟกานิสถานที่มาอาศัยอยู่ที่ประเทศสวีเดน หลังจากทำงานได้พบปัญหาต่างๆ มากมายจนไม่สามารถควบคุมสติได้ จนทำให้แพทย์สั่งพักงานไม่มีกำหนดโดยระบุในใบพักงานว่าเป็นคนป่วยทางจิต แต่ได้เงินเดือนในฐานะคนตกงานตามสวัสดิการแบบประเทศสวีเดน

พระวิเทศปุญญาภรณ์ กล่าวด้วยว่า เขาเคยนับคือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม แต่มามาฝึกปฏิบัติที่วัดรู้สึกสบายใจเพราะไม่มีการบังคับให้เขาต้องเปลี่ยนศาสนา ก็สามารถปฏิบัติอย่างเช่นการเดินจงกรม สามารถจากความทุกข์ทรมานมาเป็นความสุขได้ และบัดนี้สติของเขากลับคืนมาแล้ว ได้พบเส้นทางใหม่และกำลังใจใหม่ที่จะดำเนินชีวิตโดยสามารถต่อสู้ต่อไปในวันข้างหน้า 

"วันนี้ผมได้สติแล้วและเข้าใจแล้วว่าความสุขที่แท้ไม่ใช่เงินทองหรือมีทรัพย์มากมาย ความสุขเกิดจากความเมตตาและแบ่งปันกันอยู่แบ่งกันใช้ต่างหาก" ความรู้สึกของลูกครึ่งบัลแกเรียเปิดเผยผ่านพระวิเทศปุญญาภรณ์ และกล่าวว่า

เขาขอบคุณพระเจ้าที่ดลใจให้เขามาพบพระพุทธศาสนา วันนี้เขาพร้อมแล้วที่ออกไปต่อสู้โลกภายนอก แต่จิตใจส่วนหนึ่งเขาเป็นห่วงพระ เพราะเขาไปแล้วใครจะเป็นคนทำหน้าทีนี่แทนเขา จากที่เขามาพึ่งวัด บัดนี้เขาคิดว่าเขาจะช่วยวัดได้อย่างไร  ทุกวันนี้เขาตื่นเช้ามาเพื่อต้มข้าวต้มและทอดไข่ถวายพระกับทำอาหารที่เขาทำได้ อันเป็นงานที่เขาไม่เคยทำมาในชีวิต และคอยดูพระให้ปลอดภัยและช่วยเหลือพระในยามวิกฤตต่อไป เขารอวันเวลาที่เขาจะจากลาวัดแห่งนี้ไปเพื่อเริ่มชีวิตจริงใหม่ ก้าวใหม่อย่างมีสติ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

จะปฏิวัติหรือปฏิรูปการศึกษาไทยยุคเอไอ

การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของปัญญาประดิษฐ์ (AI)...