วันที่ 19 สิงหาคม 2563 นายไมเคิล จอร์จ ดี ซอมบรี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยือนพบปะผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดี มจร พร้อมผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับด้านหน้าหอพระไตรปิฎก นำสักการะพระบรมสารีริกธาตุแล้ว นำเอกอัครราชทูตเยี่ยมชมวัดมหาจุฬาลงกรณ์ราชูทิศ กราบพระประทานภายในอุโบสถกลางน้ำ ชมพุทธศิลป์และจิตกรรมฝาผนัง ชมภาพบันทึกเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2547
จากนั้นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ไปยังศาลาคุณหญิงอุไรศรี คณึงสุขเกษม วัดมหาจุฬาฯ เพื่อปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "เสรีภาพทางศาสนา" ว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกามีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และห้ามออกกฎหมายยกย่องศาสนาใดศาสนาหนึ่งเป็นพิเศษ ทั้งห้ามออกกฎหมายห้ามประชาชนนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งด้วย ซึ่งประเทศไทยก็มีการให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาเช่นกัน ซึ่งการให้เสรีภาพการนับถือศาสนานั้น เป็นการสร้างรากฐานแห่งการไว้ใจกัน ประชาชน 8 ใน 10 ของโลกยังขาดเสรีภาพในการนับถือศาสนา ดังนั้นเราต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดเสรีภาพในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาฯ กล่าวต่อไปว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีนโยบายให้ตั้งเครือข่ายเสรีภาพทางศาสนาแล้วเมื่อเดือนก.พ.2563 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการตั้งเครือข่ายในลักษณะดังกล่าวขึ้น ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ก็มีการดำเนินงานของผู้ติดต่อระหว่างประเทศว่าด้วยเสรีภาพการนับถือศาสนาและความเชื่อ ซึ่งขณะนี้มีสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ร่วมดำเนินงานกันอยู่ เพื่อส่งเสริมเสรีภาพการนับถือศาสนาในระดับสากล และกำลังรอประเทศสมาชิกเข้าร่วมดำเนินการเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้การเคารพเสรีภาพในการนับถือศาสนา จะทำให้ทั้งสหรัฐอเมริกา และไทย เป็นประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ เพราะถือว่าเป็นงานไม่ง่าย จึงขอให้ภูมิใจในการทุ่มเททำงานนี้
พระโสภณวชิราภรณ์ (ไสว โชติโก) รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร กล่าวว่า นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี ต้องการศึกษาวัฒนธรรมไทย รากฐานของสังคมไทย จึงได้ประสานมายังมจร ทั้งยังต้องการดูมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของทางมจร ด้วย โดยก่อนหน้านี้ทราบมาว่า นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี ได้เดินทางไปเยี่ยมชมวัดไทยหลายแห่งมาแล้ว
เสร็จแล้วพระราชปริยัติกวีกล่าวอนุโมทนาขอบคุณเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แลกเปลี่ยนของที่ระลึก และร่วมกันถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก เสร็จแล้วนำคณะทูตไปที่หอฉัน เข้าชมนิทรรศการ "มหาจุฬาฯกับ อเมริกา" เดินทางขึ้นไปยังหอฉันชั้น 2 เพื่อร่วมพิธีตักบาตรและถวายภัตตาหารเพลแก่ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ นิสิต มหาจุฬาฯ อธิการบดีกล่าวอนุโมทนา ให้พร คณะทูตกราบลาพระรัตนตรัยก่อนเดินทางกลับจากมหาจุฬาฯโดยสวัสดิภาพ
สาธุครับ อนุโมทนาด้วยครับผม
ตอบลบ