วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับข้อร้องเรียนจาก สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และจะจัดทำหนังสือยกเลิกการแบนสารพาราควอตถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย แต่ น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่เห็นด้วยกับนายเฉลิมชัย ว่า เรื่องนี้ทำให้เกษตรกรสับสนว่ารัฐบาลจะเอายังไงกันแน่ รมว.ว่าอย่างหนึ่ง ส่วนรมช. ก็จะเอาอีกอย่างหนึ่ง คนที่เดือดร้อนคือพี่น้องเกษตรกร ที่ผ่านมาการยกเลิกสารพาราควอต ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว การที่เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.2563 หากมีใครครอบครองจะต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี ปรับเงิน 1 ล้านบาท ถือเป็นโทษที่รุนแรงมากกว่าคดียาเสพติดเสียอีก นอกจากนี้ยังมีการห้ามนำเข้า ข้าวสาลีและถั่วเหลือง จากประเทศที่ใช้สารพาราควอต หรือจะต้องปลอดจากสารพาราควอต แบบ 100 % ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิตในหลายอุตสาหกรรมอย่างแน่นอน แม้ที่ผ่านมาจะมีการผ่อนผันบ้างแต่หลายสิ่งที่ประกาศออกมาก็ไม่มีความชัดเจนเลย
"วันนี้ทั้ง 2 ท่านต้องไปคุยกันให้ชัดว่าจะเอายังไง อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะประชาชนเขาเดือดร้อน ก่อนหน้านี้ยืนยันหนักแน่นว่าจะแบน พอมีโดนด่ามากๆก็เริ่มเปลี่ยนใจ นายเฉลิมชัยและน.ส.มนัญญา ต้องเอาให้ชัดๆ อย่าเอาดีใส่ตัวแล้วเอาชั่วใส่คนอื่น วันนี้เกษตรกรต้องการความชัดเจน จะได้เตรียมตัวรับมือกันถูก ผมแนะนำว่าหากท่านแก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป แล้วให้คนที่เขามีความสามารถเข้ามาทำงานแทนจะดีกว่า" นายสัมฤทธิ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น