วันที่ 19 ส.ค.2563 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เข้าชี้แจงรายละเอียดของงบประมาณในส่วนของกองทัพ ต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่เป็นงบของกองทัพบก จำนวน 107,600 ล้านบาทเศษ ว่ากองทัพมีแนวทางการปฏิรูปที่ชัดเจนมีการพิจารณาของโดยจัดหายุทโธปกรณ์ที่มีความทันสมัย และใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริม แทนการใช้กำลังพลที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งได้ปรับลดอัตรากำลังพลลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้แก้ไขระเบียบที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ทั้งนี้ยอมรับว่าในอดีต ผบ.ทบ.บางคน อาจจะไม่เด็ดเดี๋ยวพอ จึงไม่กล้าปรับเปลี่ยน แต่เมื่อกมธ.ฯ ได้ให้ข้อคิดเห็นต่างๆไป ตนก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง เช่น กรณีสวัสดิการบ้านพัก ที่ได้ปรับแก้ให้บุคคลที่เกษียณอายุแล้ว ต้องออกจากบ้านพักทหาร
ขณะที่กรรมาธิการ ได้ซักถามกรณีธุรกิจภายในกองทัพ รวมถึงแนวทางการปฏิรูปที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงอยากให้กองทัพนำไปปรับแก้ไข เพื่อให้งบประมาณที่ได้รับไปสอดคล้องกับความเป็นจริงด้วย
ทั้งนี้ในประชุม พ.ต.อ.ทวี สอดส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะกมธ. ได้สอบถามความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพล.อ.อภิรัชต์ ชี้แจงว่า ได้พูดกับผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ ว่าเราเป็นทหารที่มีประชาธิปไตย เราต้องคิดใหม่ ต้องค่อยๆเปลี่ยนวัฒนธรรมของเรา ยืนยันว่าไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับประชาชน เพราะทหารก็ถือเป็นประชาชนคนหนึ่ง เพราะเมื่อเรากลับไปบ้านก็เจอกับครอบครัวที่เป็นประชาชน จึงทำให้เข้าใจถึงความเป็นประชาธิปไตยตั้งแต่ภายในถึงภายนอก แม้มีบางครั้งอาจจะมีวาทะหรือคำพูดบางอย่างออกไป ก็ถือเป็นบทบาทหน้าที่ และในฐานะประชาชนและข้าราชการ
"ผมไม่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกลไกทางการเมือง ที่สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเสนอผ่านกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ยินดีที่จะเปิดให้มีการแก้ไขเป็นไปตามกฏหมาย"
พล.อ.อภิรัชต์กล่าวด้วยว่า เป็นการหารือกันระหว่างผู้บัญชการเหล่าทัพทั้งหมดว่าเราถูกตั้งเป็นส.ว. เราต้องปฏิบัติในฐานะหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เราคุยกันว่าไม่ควรรับเงินเดือน 2 ทาง ในฐานะข้าราชการประจำเพราะเป็นคำสั่ง นอกจากไม่รับยังคืนเงิน และยังชักเนื้อ1,000-2,000 บาท เก็บเงินเข้าสวัสดิการ ส.ว. เราในฐานนะประชาชนและข้าราชการ เราก็ยินดี ไม่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีท่านก็พูดออกมาเอง ท่านก็ยินดีตามกระบวนการ จะตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมา ตนเรียนให้กรรมาธิการทราบเมื่อถามมาในฐานะส่วนตัวก็ตอบส่วนตัวแบบนี้
วิปรบ.มีมติแก้รธน.ไม่แตะหมวด 1-2 พร้อมตั้ง ส.ส.ร.
นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า ที่ประชุมมีมติจะแก้รัฐธรรมนูญ ปี 60 โดยไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 และให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ส่วนมาตราอื่นๆจะแก้ไขหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการหารือ นอกจากนี้ วิปรัฐบาลจะได้มีการออกแบบโครงสร้างของส.ส.ร.ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งอาจประกอบไปด้วยตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ และอาจเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย เช่น สถาบันพระปกเกล้า หรือทางสำนักงานกฤษฏีกา เป็นต้น โดยคาดว่าเรื่องนี้จะได้ข้อสรุปเร็วที่สุด ก่อนที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะเสนอรายงาน โดยจะยื่นแบบเอกภาพเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อถามว่าทางฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องนี้ไปแล้ว ฝ่ายรัฐบาลก็ควรจะยื่นตามเลยหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องยื่นตามฝ่ายค้าน และหากถามว่าฝ่ายรัฐบาลยื่นช้าไปหรือไม่ ก็ต้องขอถามกลับว่าฝ่ายค้านยื่นเร็วไปหรือไม่ เพราะยื่นโดยที่ไม่รอผลการศึกษาจากคณะกมธ.วิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น