"ส.ส.แนน"ยันไม่มีส่วนรู้เห็นตบทรัพย์! อ้างไม่ได้ยินอธิบดีกรมน้ำบาดาลแฉ

 

"ส.ส.แนน" ยันไม่มีส่วนรู้เห็น อ้างไม่ได้ยินอธิบดีกรมน้ำบาดาลแฉถูกตบทรัพย์ เหตุห้องประชุมเสียงดังมาก แต่ยินดีให้สอบ ขณะที่ "อนุกมธ.งบแผน 2" โวยสื่อจะให้ขึ้นหน้าหนึ่งอีกหรือ ขณะที่ "ศิริพงษ์ รัศมี" ส.ส.พปชร. ท้าเปิดชื่อ ส.ส. โทรตบทรัพย์แลกผ่านงบประมาณ ด้าน "ประธาน กมธ.งบฯ64"  จ่อเรียกอนุฯแผน 2 แจงปมตบทรัพย์ อธิบดีกรมน้ำฯแจง

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่รฐสภา น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย หรือแนน ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวถึงกรณีที่นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุมีอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 เรียกเงินจำนวน 5 ล้านบาทว่า ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็น 

ตนทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมตลอดทั้งวัน แต่เมื่อถึงช่วงที่เป็นปัญหานั้น เสียงในที่ประชุมดังมาก จึงไม่แน่ใจว่า อธิบดีพูดเรื่องถูกเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจริงหรือไม่ ในฐานะที่ตนเป็นประธานอนุกรรมาธิการฯ จะขอให้ที่ประชุม กมธ.งบฯชุดใหญ่ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากต้องการให้เกิดความโปร่งใส เพราะหากให้อนุกรรมาธิการฯเป็นคนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอง เกรงว่าสังคมจะไม่เชื่อถือ เนื่องจากขณะนี้ภาพลักษณ์ของคณะอนุกรรมาธิการฯก็ออกมาในเชิงลบแล้ว

น.ส.บุญย์ธิดา กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดและข้อเท็จจริง ขอให้รอกมธ.งบฯชุดใหญ่ เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามรายละเอียด และให้ กมธ.งบฯชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสินใจว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯตั้งกรรมการสอบด้วยตนเองหรือไม่ เพราะหากให้ กมธ.งบฯชุดใหญ่เป็นผู้ตรวจสอบ ก็จะดูเหมือนว่า ตรวจสอบกันเอง ส่วนที่พบว่ามีคณะอนุกรรมาธิการฯชุดอื่นก็มีปัญหาลักษณะคล้ายกันนั้น ตนไม่ขอก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพบรรยากาศการประชุม หลังเกิดกระแสข่าวอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุว่ามีอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 เรียกเงิน 5 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า มีอนุกรรมาธิการฯบางคนแสดงสีหน้าไม่พอใจที่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ามาบันทึกภาพ ถึงขั้นมีบางคนเอ่ยปากกลางห้องประชุมในทำนองว่า  "จะให้ถ่ายภาพอะไรอีก เมื่อวานนี้(9 ส.ค.) ก็เป็นข่าวหน้าหนึ่งไปแล้ว วันนี้จะให้หน้าหนึ่งอีกเหรอ" 

ซึ่งในขณะนั้น อยู่ระหว่างการเชิญเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมเข้ามาชี้แจงงบประมาณต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ นอกจากนี้ ยังพบว่า อนุกรรมาธิการฯบางคนมีสีหน้าเคร่งเครียดระหว่างการประชุม ก่อนจะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม โดยไม่อนุญาตให้เข้าฟังแต่อย่างใด

"ศิริพงษ์ รัศมี"ท้าอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดชื่อ ส.ส. 

นายศิริพงษ์ รัศมี ส.ส.กทม. เขตหนองจอก พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564  กล่าวว่า  ต้องการเรียกร้องให้อธิบดีกรมน้ำบาดาลเปิดเผยชื่อบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเรียกรับเงิน หรือหากอนุกรรมาธิการคนใดที่มีข้อมูลก็ให้ออกมาเปิดเผยข้อมูลและเปิดเผยรายชื่อต่อสื่อมวลชน อย่าหลบอยู่ข้างหลัง เพราะจะทำให้ประชาชนคลางแคลงใจ ซึ่งประชาชนเป็นผู้เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. เข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องก็ต้องว่าตามนั้น

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมในคณะอนุกรรมาธิารฯ  ซึ่งในที่ประชุมได้มีการซักถามข้อมูล และตนเองได้ยินอธิบดีตอบคำถามของอนุกรรมาธิการ โดยมีบางช่วงที่อธิบดีก็แสดงความไม่พอใจบ้าง เนื่องจากอธิบดีก็เป็นคนที่ตั้งใจงานเพื่อประชาชนแต่ตนเองตอบไม่ได้ว่ากรณีที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่หากเป็นจริงก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับ ส.ส. ที่ประชาชนเลือกเข้ามาแล้วทำให้เกิดความเสียหาย รวมถึงทำให้คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับความเสียหายทั้งคณะ จึงขอย้ำให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเปิดเผยรายชื่อให้ชัดเจน โดยเฉพาะกับเรื่องที่อ้างว่าได้มีการบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่เรียกรับเงินไว้ ไม่เช่นนั้น ส.ส.รุ่นใหม่ จะเสื่อมเสียกันหมด แต่ตนเองก็ไม่ได้บอกว่า ส.ส. รุ่นเก่าที่เป็นผู้กระทำเรื่องนี้

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องประชุมจนนำไปสู่การพักการประชุมระหว่างการพิจารณางบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนั้น ในที่ประชุมก็ได้มีการโต้แย้งกันบ้างระหว่างอนุกรรมาธิการบางคนกับอธิบดีและรองอธิบดีของกรม ซึ่งเมื่อประธานในที่ประชุมเห็นว่าบรรยากาศไม่ดีก็สั่งพักการประชุมและประชุมต่อในช่วงบ่าย ซึ่งในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องการตบทรัพย์ อธิบดีบอกเพียงแต่ว่ามีการบันทึกเสียงไว้แต่ไม่ได้บอกว่าบันทึกเสียงใครและบันทึกเสียงไว้ว่าอย่างไรบ้าง บอกเพียงแต่ว่ามีการบันทึกเสียงไว้ จากนั้นอธิบดีก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป ยืนยันว่าตนเองไม่ทราบรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับข่าวการตบทรัพย์ และในฐานะที่เป็น ส.ส. ใหม่ จึงอยากเรียกร้องให้ ส.ส. ที่อยู่ในคณะอนุกรรมาธิการและอธิบดีเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่กระทำในเรื่องดังกล่าว อยากเรียนอธิบดีว่าความจริงคือสิ่งไม่ตาย ถ้ามีข้อมูลก็ออกมาพูดเลยเพื่อให้ประชาชนหายสงสัยและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือก ส.ส. ในครั้งต่อไป

ส่วนการที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จะตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร และตนเองพร้อมให้ข้อมูล เพราะเป็นคนที่ไม่มีอะไร โดยส่วนตัวได้ซักถามอธิบดีถึงรายละเอียดเรื่องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ในการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลแต่ละบ่อว่าต้องใช้ประมาณกี่หมื่นบาท จะปรับลดได้อย่างไร โดยทางอธิบดีแจ้งว่ามีเครื่องที่ใช้สำหรับการขุดเจาะอยู่แล้วประมาณ 80 เครื่อง กรมจึงอยากทำการขุดเจาะเอง แต่อนุกรรมาธิการบางคนก็ให้เปรียบเทียบราคาระหว่างการขุดเจาะเองกับการจ้างบริษัทรับเหมา หลังจากนั้นก็ได้พักการประชุมโดยยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องส่วนต่างของราคา ส่วนใครจะได้ประโยชน์จากการขุดเจาะน้ำบาดาลหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ

"ประธาน กมธ.งบฯ64" จ่อเรียกอนุฯแผน 2 แจง 

ทางด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น กมธ.งบฯ จะเรียกอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าวเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงก่อนพิจารณาว่าจะมีการตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้หรือไม่ แต่ส่วนตัวขอชี้แจงว่า คณะอนุกรรมาธิการฯไม่มีอำนาจตัดลดงบประมาณ และไม่ใช่แหล่งผลประโยชน์ มีเพียงหน้าที่ตรวจสอบความเหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณของแต่ละหน่วยงานเพื่อเสนอ กมธ.งบฯชุดใหญ่เท่านั้น ดังนั้นอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดจึงอยู่ที่ กมธ.งบฯชุดใหญ่เท่านั้น และจะเริ่มปรับลดงบประมาณในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ ทั้งนี้ ในการพิจารณาของ กมธ.งบฯชุดใหญ่ จึงไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่หน่วยงานต้องเอาใจอนุกรรมาธิการฯ

เมื่อถามว่า จะสามารถให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ใน กมธ.งบฯชุดใหญ่ นายสันติ กล่าวยืนยันว่า การพิจารณาในชั้นกมธ.งบฯชุดใหญ่ มีการเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายร่วมกันแสดงความคิดเห็น และมีการถ่ายทอดสดการประชุมทุกครั้ง ตั้งแต่มีการประชุมมา ยังไม่เคยมีการประชุมลับ จึงมั่นใจว่า การพิจารณาเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นภาษีของประชาชน กมธ.ฯต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ไม่ได้มีแค่คณะอนุกรรมาธิการฯชุดนี้แค่ชุดเดียวที่มีการเรียกเงินนั้น นายสันติ กล่าวว่า จะเชิญอนุกมธ.ฯทุกคณะมาสอบเช่นกัน