วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ปลัด มท. หารือร่วม 10 หน่วยงานนำระบบ AI ต่อยอดเชื่อมโยงข้อมูล"ศูนย์ดำรงธรรม"



ปลัด มท. หารือร่วม 10 หน่วยงานบูรณาการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ประชาชน มุ่งต่อยอดเชื่อมโยงข้อมูล “ศูนย์ดำรงธรรม” เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครอบคลุมทุกมิติการให้บริการอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566  เวลา 09:30 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กับหน่วยงานภาครัฐ 10 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และกรุงเทพมหานคร เพื่อต่อยอดการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายธนิต ภูมิถาวร ผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ นายณรงค์วิทย์ พบพาน ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย นายปวเรศ รัฐขจร ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม ผู้แทนส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในด้านการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของทุกกระทรวงดำเนินการแก้ไขปัญหาให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามระเบียบกฎหมาย โดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้เกิดการบริหารจัดการข้อมูลด้านการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน และสอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ซึ่งกำหนดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ดำเนินการเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนได้รวดเร็วขึ้น 

“ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ในภาพรวมของประเทศ ซึ่งมีศูนย์ดำรงธรรมกระจายอยู่ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศ จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงการบรูณาการความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ 7 หน่วยงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความเป็นธรรมแก่ ประชาชน  รวมถึงได้มีการประชุมหารือหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด กรุงเทพมหานคร ในการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งล่าสุด คือ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยในปีที่ผ่านมาได้มีหน่วยงานนำร่องเชื่อมโยงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการข้อมูลทางทะเบียนราษฎร ของสำนักบริหารการทะเบียน กรมที่ดิน กรมการปกครอง ทะเบียนทรัพย์สิน  เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กระทรวงมหาดไทยได้รับการสนับสนุนจาก กสทช. และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ผลักดันให้ศูนย์ดำรงธรรมพัฒนาสู่ระบบ AI ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งถือว่าเป็นการดีที่ทุกหน่วยงานจะได้หารือกันในการทำข้อตกลงที่ชัดเจนที่จะนำข้อมูลจากทุกจังหวัด ใน 878 อำเภอ เชื่อมโยงข้อมูลและสามารถส่งต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ เรื่องการกรองข้อมูล การส่งต่อข้อมูลแบบอัตโนมัติ ที่ต้องคำนึงถึงข้อมูลส่วนบุคคล ในการคัดแยกส่งต่อให้หน่วยงาน ที่นอกเหนือจากการใช้ระบบ AI แล้ว จำเป็นต้องมีระบบ Manual โดยเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมีความปลอดภัยและส่งต่อไปหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง ไม่เกิดความคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติงาน เช่น เรื่องยาเสพติดที่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องในหลายมิติ อาจยังจำเป็นที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง เป็นต้น และอีกประการหนึ่ง คือ ความปลอดภัยในด้านการปกปิดข้อมูลความลับส่วนบุคคล ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีความเชื่อมั่นว่า ทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือนั้น มีความพร้อมความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมได้ และกระทรวงมหาดไทยก็มีความยินดีที่จะรับข้อมูลจากทุกหน่วยที่เป็นเรื่องในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทยเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป” ปลัด มท. กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ทุกท่านบูรณาการร่วมมือกันเพื่อบริหารจัดการให้การเชื่อมโยงข้อมูลเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่เราลงนามร่วมกัน ให้เร็วที่สุดบนหลักการที่สำคัญ คือ “ความถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และการรักษาความลับของประชาชนหรือบุคคลที่สามไม่ให้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหาย” ดังนั้น ทุกหน่วยงานจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูล ที่ต้องวิเคราะห์และรักษาความปลอดภัยระบบหลังบ้าน คอยคัดกรองข้อมูลด้วยความรอบคอบ ก่อนที่จะส่งข้อมูลเชื่อมโยงไปให้หน่วยงานอื่น และสำหรับหน่วยงานที่ไม่มีระบบเชื่อมโยงข้อมูล (API) เมื่อดำเนินการพัฒนาระบบบริหารจัดการแล้วขอให้ได้แจ้งกลับมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลในอนาคตต่อไป และขอยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยมีความยินดีอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำการบูรณาการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและระบบบริการประชาชนในการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของประชาชนทุกระดับ ด้วยบุคลากรของศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการร่วมกับทุกส่วนราชการและทุกหน่วยงานเพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชน ดังปณิธาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” สร้างประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ต่อพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ อย่างยั่งยืน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์กรรมฐานยกระดับคุณภาพชีวิตสร้างสันติภาพภายในให้เป็นคุณลักษณะของนิสิตยุคเอไอ: ความเป็นมาและสภาพปัญหา หลักการ อุดมการณ์ วิธีการ แผนยุทธศาสตร์ โครงการ อิทธิพลต่อสังคมไทย ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

บทนำ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในทุกมิติของชีวิต การพัฒนาคุณลักษณะของนิสิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสันติภ...