เมื่อเวลา10.15น.วันที่ 3 ม.ค.2561 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย แถลงข่าวการฟ้องคดีดำเนินคดีการปล่อยภาพลับของนายวัฒนา กับ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยนายวัฒนา แถลงว่าที่เพิ่งออกมาพูดและยังไม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี เพราะต้องการให้สังคมได้ตั้งสติกับเหตุการณ์ดังกล่าว เรื่องนี้มีเป้าหมายคือเรื่องการเมือง เพราะปล่อยคลิปคืนวันที่ 20 ธ.ค. 2561 ก่อนพรรคเพื่อไทยจะประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และมีการแปะโลโก้พรรคในภาพที่ปล่อยออกมา มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เขาต้องการให้เหยื่อเกิดความอับอาย ถ้าเหยื่ออับอายก็จะเข้าทางเขาแต่ตนไม่ยอมตกเป็นเหยื่อ ตนเป็นคู่ต่อสู้ เพราะรู้อยู่แล้วเป้าหมายคือการทำลายทางการเมืองด้วยวิธีสกปรกที่มนุษย์พึงคิดได้มาจัดการ และคนทั่วไปไม่สามารถติดตามดักฟังโทรศัพท์จนรู้ว่าตนจะเดินทางไปที่ไหนอย่างไรได้ จึงไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะกลัวจะมีการช่วยเหลือกัน จะเห็นว่ากระบวนยุติธรรมไม่ได้อยู่ข้างคนที่อยู่ตรงข้ามเผด็จการ เราจึงต้องฟ้องเองโดยจะฟ้องเองและมอบหมายให้ดำเนินคดีทั้งหมด 4 กลุ่ม
ไล่ฟ้องทั้งหมด 4 กลุ่ม เจ้าของโรงแรงเจอถอนใบอนุญาต
นายวัฒนา กล่าวว่า กลุ่มที่หนึ่ง คือ เจ้าของโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ที่ปล่อยให้ใครแอบถ่ายหรือทำเองก็แล้วแต่ เพราะถือเป็นการก่ออาชญากรรมละเมิดความเป็นส่วนตัวตามรัฐธรรมนูญ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานอนาจาร โดยจะร่างคำฟ้องเอง และมอบให้ทนายความไปยื่นฟ้องศาลอาญาภายในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อโรงแรม เพราะอาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้ บอกได้แต่เพียงย่านรัชดา หลังจากฟ้องเป็นคดีแล้วชื่อก็จะปรากฏในคำฟ้อง กลุ่มที่สอง จะการฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อเจ้าของโรงแรม เพราะเมื่อมีความผิดทางอาญาเกิดขึ้นแล้ว การกระทำนั้นก็นำมาสู่ความผิดทางละเมิด กลุ่มที่สามร้องต่อกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนให้เพิกถอนใบอนุญาตโรงแรมดังกล่าว เพราะไม่มีจรรยาในการประกอบวิชาชีพ และกลุ่มสุดท้ายจะ การดำเนินคดีโดยแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่เผยแพร่คลิปต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก. ปอท.) ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ส่วนนี้จะมอบหมายให้ทนายความจากสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เป็นผู้ดำเนินการ
ยันไม่กระทบเดินหน้างานการเมือง
นายวัฒนา กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่กระทบการทำงานการเมืองของตน เพราะผู้ใหญ่ในพรรคเข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันตนยังเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางแค พรรคเพื่อไทย วันที่ 5 ม.ค.นี้ ตนก็จะลงพื้นที่หาเสียงพร้อมกับบุตรสาว และเรื่องดังกล่าว นายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้ให้กำลังใจและเห็นด้วยที่ตนจะเดินหน้าฟ้องร้องเอาผิด หลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้วตนจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ส่วนประเด็นที่ถูกโยงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเชื่อมโยงกันนั้น ยืนยันว่าเรามีเป้าหมายเดียวกันเพื่อประชาธิปไตย แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน และไม่เคยกล่าวหา ผบ.ทบ. หรือกองทัพเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ แต่ก็ร้อนตัวออกมาปฏิเสธ เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับโรงแรมหลังเกิดเหตุหรือไม่ นายวัฒนา ตอบว่าหลังเกิดเหตุตนรอดูความรับผิดชอบของโรงแรมแต่ก็ไม่ติดต่ออะไรมา เขาคงคิดว่าผู้มีอำนาจช่วยเขาได้ แต่อย่าลืมว่าคนมีอำนาจไม่สามารถอยู่ในอำนาจได้ตลอด ทั้งยอมรับว่าเคยใช้บริการโรงแรมดังกล่าวหลายครั้งและเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ด้วย
ทนายกร้าวต้องเอาคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้
ด้านนายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังแสวงหาข้อเท็จจริงคือใครทำ มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัด ความผิดทางอาญาใครทำต้องนำคนผิดดำเนินคดีต่อให้ได้ การฟ้องก็จะระบุชื่อโรงแรมชัดเจน กระบวนการต่างๆ ที่ทำเรื่องนี้มีหลากหลายทั้งการถ่าย การโพสต์คอมเม้นต์ ไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะ ทำไมเอาเรื่องส่วนตัวมาก้าวล่วงจนเบี่ยงเบนประเด็น ขอฝากสั้นๆ ว่าอย่าทำเลย จะผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปดูการเลือกตั้งเลื่อนไม่เลื่อนเป็นประโยชน์สาธารณะกว่า อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการยื่นฟ้องจะเริ่มต้นที่คดีอาญาในสัปดาห์หน้า ส่วนคดีแพ่งยังไม่ได้กำหนดวันเวลา รวมทั้งมูลค่าความเสียหาย ซึ่งจะต้องรอให้นายวัฒนา พิจารณาด้วยตนเองก่อน ส่วนการไปยื่นร้องต่อกรมการปกครองเพื่อขอเพิกถอนใบอนุญาตนั้น อาจจะต้องรอการดำเนินคดีทางอาญาก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น