ปี2561ที่ผ่านมานับได้ว่าเป็นปีแห่งการทบทวนชีวิตหลายๆด้าน หลังจากได้ผชิญชีวิตอย่างแสนสาหัสในปลายปี 2560 ทอดยาวมาปี 2561 ที่หลวงพ่อมรภาพ บวกกับสภาพแวดล้อมทางสังคมและการเมือง และหน้าที่การงานที่เกี่ยวพันกัน ทำให้แผนการเรียนปริญญาเอกที่ผ่านมาต้องบอกว่าช็อต เพราะส่วนหนึ่งมีความคิดว่า จะต้องเข้าไปมีส่วนแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะเป็นปัจจัยเพียงน้อยนิด อย่างน้อยก็เป็นขวัญกำลังใจให้กับสถานบันที่มีพระคุณ
ตลอดระยะเวลาในปี 2561 นั้นได้ทบทวนชีวิตตามกรอบของหลักภาวนา 4 ประการคือ
1.กายภาวนา ทั้งทางด้านการเป็นอยู่และการกิน การเป็นอยู่นั้นเหมือนกับเป็นกบจำศีลเพราะไม่ต้องการที่จะออกไปไหนทำงานตามหน้าที่ที่ใจรัก ก็สบายดี อยู่ในห้องแคบ ตื่นขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวทำงานตามปกติอยู่ในโลกเสมือนจริงเช่นนี้ทุกวัน ไม่ต้องออกไปเผชิญกับสังคมแห่งความเป็นจริง ส่วนเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าจะซักอาทิตย์หนึ่งต่อครั้ง ซึ่งเสื้อผ้าเพื่อนก็ดูแลเป็นอย่างดี
ส่วนทางการกินนั้น ก็เป็นอย่างอย่างเรียบง่ายตื่นเช้า กาแฟหนึ่งแก้ว ขนมนิดหน่อย ตอนกลางวันเพล ก็รับประทานอาหารที่แม่บ้านที่ทำงานจัดจำหน่าย ตกตอนเย็นเพื่อนก็เป็นคนจัดหาหรือมีพิเศษเข้ามาบ้าง ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นพระ และช่วงวันหยุดนี้เองเป็นจุดที่ต้องทำอาหารรับประทานเอง ก็จะทำแบบง่ายๆที่มีอยู่ในตู้เย็น มีห้องข้าวสารพัดประโยชน์มีอะไรก็จับโยนใส่เอาน้ำใส่ เดือดก็รับประทานได้แล้วไม่ต้องมีการปรุงอะไรมาก จึงได้เห็นภาพการต้มผักอยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้รู้วิธีการกินอย่างง่ายๆอีกประการหนึ่ง ทั้งนี้คงเป็นเพราะนิสัยติดมาจากการเป็นพระก็เป็นได้
2. สีลภาวนา ที่เป็นพื้นฐานที่การอยู่ร่วมกับสังคม ในประเด็นนี้เมื่อไม่ขยับกายไปไหนจึงทำความปกติมีอยู่ แต่จะมีความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์และหน้าที่การงานเสียมากกว่า หรือลักษณะการโพสต์ในเฟซบุ๊กอาจจะเป็นการระบายอารมณ์ไปบ้าง ก็คงเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่ยังมีกิเลสอยู่
3.จิตภาวนา ต้องยอมรับว่าสภาวจิตมีไม่นิ่งบ้างเครียดบ้าง แต่ก็ได้การฝึกเจริญจิตภาวนาด้วยการนั่งเจริญสติปัฏฐานทุกวันก่อนก่อน ทำให้ผ่อนครายความเครียดไปได้ แต่ก็ยังติดอยู่กับธรรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ผ่าน
4.ปัญญาภาวนา ทำให้ทราบตัวเองว่าที่ผ่านมนั้นยังขาดทักษะทั้ง 3 ด้านคือด้านสุตมยปัญญาหรือ Big Data ด้านการเก็บข้อมูลบริหารข้อมูล ด้านจินตามยปัญญาด้านการวิเคราะห์ข้อมูล และภาวนามยปัญญา คือการสังเคราะห์แล้วทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการปลูกฝักการท่องจำและกอบปี้ไม่มีการประยุกต์หรือบูรณาการ จึงทำให้ได้ทราบตัวตนของตัวเองมากขึ้น
ส่วนปีี 2562 นั้นได้คาดการณ์ว่าจะต้องผจลกับภาวะทางสังคมและการเมืองที่ค่อนข้างจะรุนแรงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงบประมาณสำหรับบริหารประเทศจะเอามาจากไหนเพราะแจกไปเยอะแล้ว การแก้ปัญหาแรงงานที่เกิดจากการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ในภาคอุตสาหกรรมส่งผลให้เกิดแรงงานตกงานมายิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสื่อจะส่งผลกระทบอย่างเช่นปี 2561 อยู่เช่นเดิม เมื่อภาพใหญ่มีปัญหาเช่นนี้ย่อมจะส่งผลกระทบในภาคส่วนเล็กอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อตกงาน บ้าน รถ ผ่อน ไม่มีเงินส่งในที่สุดก็ถูกยึดกลับไปภูมิลำเนาไม่มีรายได้ แล้วจะทำอะไรในที่สุดก็เกิดปัญหาสังคมต่างๆ ตามมา
แต่ตลอดขะยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาได้ทดสอบและได้เตรียมพร้อมกับ Disruption เกิดขึ้นได้ระดับหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นอยู่และการกินแบบง่าย ไม่ต้องถึงขึ้นกินบ้านกินเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น