เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิ.ย.2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิฏฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นการเตรียมเรื่องยุทธศาสตร์ของการทำงานแต่ละชุด ซึ่งจะมีการประชุมต่อนเื่องเพื่อให้ได้ข้อยุติ เพื่อที่จะเดินหน้าอย่างเป็นระบบ รูปธรรมและมียุทธศาสตร์ต่อไป แต่จะไม่มีการหารือเกี่ยวกับตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะต้องรอให้มีการโปรดเกล้านายกรัฐมนตรีก่อน จากนั้นนายกฯ หรือพรรคแกนนำจะแจ้งให้ทราบถึงการกำหนดตัวบุคคลที่จะไปร่วมคณะรัฐมนตรีว่าต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อไหร่อย่างไร ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆที่จะเปลี่ยนกระทรวงที่แต่ละพรรครับผิดชอบ ทุกอย่างยังเป็นไปตามที่มีข้อยุติไปแล้ว เห็นแต่จากข่าวซึ่งในข้อเท็จจริงยังไม่เคยมีการประสานงานเปลี่ยนแปลงอะไร
“อย่างไรก็ตามผมไม่ขอใช้คำว่ายืนยันในข้อตกลงเดิม เพราะจะกลายเป็นเหมือนทะเลาะกันไป หาหรือขัดแย้งกันไปมา ซึ่งไม่ใช่ แต่บอกได้ว่านับตั้งแต่วันที่ตกลงกันก็ได้ข้อยุติและไม่มีสัญญาณใดจากแกนนำตั้งรัฐบาลที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่ขอพูดล่วงหน้าว่าหากไม่เป็นไปตามข้อตกลงเดิมแล้วพรรคจะทำอย่างไรเพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยได้ข้อยุติร่วมกัน”
ส่วนข่าวที่ออกมาว่าการคเจรจายังไม่นิ่งเป็นการโพสต์ของนายอุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่าการประสานงานเท่าที่ทำมาตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้ได้ข้อยุติในนาทีสุดท้ายก่อนพรรคมีมติร่วมรัฐบาล ยังไม่มีการประสานมายังพรรคว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งที่ตนพูดก็ถือว่าชัดเจนแล้ว และยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์นิ่งแล้วไม่ได้ต่อรองอะไรอีก เพราะทุกอย่างยุตินานแล้ว แต่รอขั้นตอนการโปรดเกล้านายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯหรือพรรคแกนนำจะแจ้งว่าต้องการให้ส่งรายื่อตัวบุคคล เมื่อไหร่ อย่างไร จากนั้นพรรคจะมีกระบวนการขั้นตอนตามข้อบังคับต่อไป
นายจุรินทร์กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐระบุว่าคนที่เคาะรายชื่อรัฐมนตรีสุดท้ายจะเป็นนายกรัฐฒนตรีว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อครั้งสุดท้ายตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่แต่ไม่อยากคาดเอาอะไร ซึ่งต้องมองด้วยความเป็นธรรมจากความเป็นจริง เพราะเราเคยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลมาหลายครั้ง เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อมาแล้ว นายกฯก็ต้องดูอยู่แล้วว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติถือเป็นงานระจำที่ทำเนียบ เมื่อทุกอย่างถูกต้องนายกฯก็ต้องนำชื่อขึ้นทูลเกล้าเป็นขั้นตอนปกติที่ตนก็ทราบแม้ไม่เคยเป็นนายกฯก็ตามเพราะเราเคยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลมาก่อน
เมื่อถามย้ำว่าตามหลักการในการตั้งรัฐบาลในฐานะที่เคยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลมาก่อน การตรวจสอบของนายกฯจะอยู่แค่เรื่องคุณสมบัติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลที่แต่ละพรรคเสนอไปหากคุณสมบัติครบถ้วนใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าเท่าที่เคยปฏิบัติเป็นแบบนั้น เมื่อถามต่อว่าหากมีการกระทำนอกเหนือจากที่เคยปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่าไม่อยากให้พูดไปก่อนเพราะจะกลายเป็นปัญหาโดยไม่จำเป็น ส่วนยังมีความมั่นใจหรือไม่ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปได้ตามเป้าหมายนั้นตนบอกไม่ได้เพราะอยู่ที่พรรคแกนนำต้องเป็นตัวหลัก และต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้เนื่องจากประชาธิปัตย์เป็นแค่ผู้ร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งเท่านั้น และไม่ขอพูดหรือวิจารณ์ความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคพลังประชารัฐเพราะจะกลายเป็นการให้ความเห็นข้ามพรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น