“ธนาธร” ชี้ปัญหา “รัฐราชการรวมศูนย์” ทำประเทศไม่พัฒนา ชูธงให้อำนาจ “ท้องถิ่น” เก็บแบ่งสัดส่วนภาษีใหม่ ลั่นต้องเป็นอิสระ -ศักดิ์ศรีทัดเทียมส่วนกลาง
วันที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมวงเสวนา “Next Station ประชาธิปไตยไทย ปักหมุดเลือกตั้งท้องถิ่น” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันพระปกเกล้า โดยนายธนาธรได้กล่าวถึงความสำคัญของท้องถิ่นและการปฏิรูประบบราชการรวมศูนย์ รวมถึงเป้าหมายในการเลือกตั้งท้องถิ่นของพรรคอนาคตใหม่ที่จะเกิดขึ้นว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของท้องถิ่นมาก เพราะเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศที่สำคัญที่สุด ซึ่งเราละเลยมานาน เชื่อว่าถ้ากลับมาพัฒนาอีกครั้งประเทศไทยเราจะไปได้ไกลมาก
“ถ้าทุกท่านติดตามดูการประชุมสภาที่ผ่านมา สิ่งที่จะเห็นใน 1-2 ชั่วโมงแรก ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระคือการปรึกษาหารือ เฉพาะเมื่อวานมี ส.ส.จาก จ.กาญจนบุรีและ จ.จันทบุรี พูดเรื่องช้างป่า มี ส.ส.จาก จ.ลพบุรีพูดเรื่องขอให้รัฐบาลช่วยขุดลอกคูคลองในแม่น้ำลำคลอง มี ส.ส.จาก จ.ราชบุรีขอให้รัฐบาลช่วยซ่อมตลิ่งที่พังในแม่น้ำแม่กลอง มี ส.ส.จาก จ.อุดรธานีพูดเรื่องภัยแล้ง มีเรื่องการขอขุดบ่อน้ำบาดาลใน จ.ตรัง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ส.ส.ทำไม่ได้ แต่ถ้าท้องถิ่นจะทำจะต้องแจ้งเรื่องไปที่นายอำเภอ ไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วค่อยไปถึงผู้มีอำนาจในส่วนกลาง แล้วจึงวกกลับลงมาที่ท้องถิ่น เรื่องค้างกองอยู่บนโต๊ะกว่าจะมีคำสั่งลงมาได้ปัญหาหลายอย่างก็ผ่านไปแล้ว การตั้งข้อหารือในสภาจึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของการออกแบบรัฐที่ไม่ตอบสนองประชาชน เรื่องทุกอย่างที่ตนพูดถึงไปข้างต้นนั้น ไม่ควรเป็นอำนาจส่วนกลาง และเพราะอำนาจที่รวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลางแบบนี้เอง ที่ทำให้ปัญหาในประเทศไทยมีจำนวนมากมายไปหมด และไม่ได้รับการแก้ไข” นายธนาธร กล่าว
แจงเหตุผล “อนาคตใหม่” ลุยเลือกตั้งท้องถิ่น
นายธนาธรกล่าวต่อว่า เหตุผลที่พรรคอนาคตใหม่จะลงการเมืองท้องถิ่น อย่างแรกคือ เราไม่ได้มาจากการต้องการฐานเสียง แต่มาจากความต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น มาจากความต้องการที่จะปฏิรูประบบราชการรวมศูนย์ อันดับที่สอง เราต้องการสร้างประชาธิปไตยจากพื้นฐาน ทำให้ประชาชนเห็นว่าอำนาจ งบประมาณ ประชาธิปไตย และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเป็นเรื่องเดียวกัน และสุดท้ายเราอยากจะสร้างเมืองดีๆ จังหวัดที่น่าอยู่ บ้านเกิดที่น่าอยู่ให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งทุกวันนี้ยังมีความเข้าใจผิดอีกเยอะมาก ตนไปที่ไหน พี่น้องมักจะมาถามว่าเลือก ส.ส.คนนี้มาแล้วทำไมบ้านเมืองไม่ดีขึ้นเลย ถ้าใครทำการเมืองระดับชาติไปเดินตลาด จะเจอคำถามนี้ทุกคน คำตอบง่ายๆ ส.ส.กับประชาชนนี่ไกลกันมาก เพราะความจริง ส.ส.ไม่ได้มีหน้าที่บริหารพื้นที่ อยู่ๆ ส.ส.จะไปสั่งหน่วยงานต่างๆไม่ได้ ส.ส.คือฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้า ส.ส.จะทำ วิธีที่ทำได้คือการไปตั้งกระทู้ถามหรือตั้งข้อปรึกษาหารือในสภา มันต้องขึ้นไปถึงตรงนั้นถึงจะลงไปถึงจังหวัดของตัวเองได้
“กลไกที่ ส.ส.จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนไกลมากและไม่ตอบสนองกับปัญหาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า แต่สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน มีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ แต่อาชีพนี้ในปัจจุบันต้องไปรายงานนายอำเภอ รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นี่คือรูปแบบของรัฐที่ทำงานไม่ได้ ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นถึงปัญหาของรัฐราชการรวมศูนย์ กรณีทะเลน้อย จ.พัทลุง-สงขลา เป็นทะเลสาบน้ำจืด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือวัชพืชในทะเลสาบเต็มไปหมด คนที่มีครื่องจักรจะจัดการได้คือกรมโยธาธิการและผังเมือง แต่เข้าไปทำไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ในสังกัดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอำนาจงบประมาณอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย คุณจะแก้ปัญหาทะเลน้อยสุดท้ายแล้วต้องกลับไปที่กรุงเทพฯ ผ่านกรมโยธาฯ ไปกระทรวงทรัพย์ฯ ไปมหาดไทย ฯลฯ จะจัดการปัญหานี้เรื่องเดียวต้องวิ่งผ่านกี่กระทรวง แล้วกระทรวงทุกวันนี้มาจากคนละพรรคกันไม่เคยคุยกัน สุดท้ายคนที่มีอำนาจในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีแต่นายกรัฐมนตรีสั่งการได้ นี่คือปัญหาที่มาจากการออกแบบสถาปัตยกรรมทางการเมืองที่รวมศูนย์ทุกอย่างไว้ที่ส่วนกลาง” นายธนาธร กล่าว
ลั่นความสัมพันธ์ “ส่วนกลาง-ท้องถิ่น” ต้องเท่าเทียม
นายธนาธร กล่าวว่า อีกตัวอย่างหนึ่งที่อยากยกขึ้นมาคือเรื่องการคมนาคม ทุกวันนี้ท่านที่มาจากต่างจังหวัดย่อมทราบดี การเดินทางจากสนามบินไปแหล่งท่องเที่ยวไม่มีการขนส่งสาธารณะ รถตู้โรงแรม รถทัวร์ รถแดงก็แพงมหาศาล รถขนส่งจาก บขส. ไปที่พัก ไปโรงแรม ไปสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่มี แล้วทั่วประเทศเป็นอย่างนี้ทั้งหมด ทุกท่านรู้ไหมว่าคนต้องขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่อายุ 12-13 ผิดกฎหมาย ทุกคนรู้หมด แต่ห้ามไม่ได้ เพราะถ้าไม่ให้ขี่มอเตอร์ไซต์จะให้ชาวบ้านเขาเดินทางอย่างไร ทั้งนี้ การคมนาคมคือการเข้าถึงโอกาส การคมนาคมที่ดีทำให้คนไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อรถส่วนตัว ถ้ามีการคมนาคมสาธารณะที่ดี ค่าใช้จ่ายของประชาชนจะลดลงได้มาก แต่ท้องถิ่นจะทำขนส่งสาธารณะเองก็ทำไม่ได้ ท้องถิ่นต้องทำเรื่องขอไปที่กรมการขนส่งทางบก กลับไปที่ขนส่งจังหวัด ไปต่อที่กระทรวงคมนาคม แต่ถ้าเรื่องนี้กลับไปอยู่ที่เทศบาล อยู่ที่ อบจ. ปล่อยให้เขาออกแบบขนส่งสาธารณะของตัวเองได้ เชื่อมโยงท่ารถ สนามบิน ตลาด โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนจะลดลงขนาดไหน
“ถ้าเราไม่ปฏิรูประบบรัฐราชการที่รวมศูนย์อำนาจจริงๆ ทรัพยากรไม่เคยให้ งบประมาณไม่เคยให้ ความไว้ใจไม่เคยให้ ประเทศเราเดินต่อไปไม่ได้ รูปแบบรัฐปัจจุบันที่รวมอำนาจไว้สู่ศูนย์กลางพาประเทศเราไปไกลกว่านี้ไม่ได้ ผมอยากให้เรากลับมาตรึกตรองว่าอะไรคือความสัมพันธ์ที่ควรจะเป็นระหว่างท้องถิ่นกับรัฐส่วนกลาง ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องควรไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ไม่มีใครอยู่เหนือใคร สถานะเท่ากัน ศักดิ์และศรีเท่ากัน แบ่งงานกันตามที่ตกลงไว้ อะไรที่ไม่ได้เขียนห้ามไว้ท้องถิ่นต้องมีอิสระที่จะทำได้ แต่ทุกวันนี้ ท้องถิ่นต่ำต้อยกว่า ต้องรายงานต่อราชการส่วนกลาง เราต้องต่อสู้ทางความคิดก่อน ว่าท้องถิ่นและส่วนกลางศักดิ์ศรีเท่ากัน เพียงแต่แบ่งงานกันทำ
ชี้ต้องปฏิรูประบบบจัดเก็บภาษี-แบ่งใหม่
นายธนาธร กล่าวว่า ทุกวันนี้ถ้าเรามองในสังคม จะมีข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ข้อเสนอเรื่องกระทรวงท้องถิ่น และมีข้อเสนอเรื่อง พ.ร.บ.จัดการตนเองทีละจังหวัด ซึ่ง 3 ตัวนี้มีปัญหาหมดเลย คือ 1.ข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ถ้าทำได้ก็จะยังคงเกิดความตึงเครียดและขัดแย้งกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อยู่ดี แม้ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้งฯ แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับกฎกระทรวง ถ้าเลือกตั้งผู้ว่าฯอย่างเดียว แต่ไม่เอาอำนาจมาฝั่งนี้ด้วยจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้
2. ข้อเสนอการมีกระทรวงท้องถิ่นยิ่งมีปัญหา สิ่งที่ตนอยากให้คิด คือ เราต้องการอิสระหรือเราต้องการการขึ้นตรงกันแน่ ทุกวันนี้ท้องถิ่นคิดจะทำอะไรต้องให้ส่วนกลางอนุมัติแผน ถามว่าส่วนกลางรู้ไหมว่าบ้านของท่านมีอะไรดี ไม่รู้หรอก ท่านไม่ได้ต้องการการขึ้นตรงต่อ ท่านต้องการอิสระ ในฐานะที่เท่ากัน ท่านมีฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งจากประชาชน ไม่ควรต้องขึ้นตรงต่อใคร การมีกระทรวงจะทำให้ปัญหายิ่งแล้วใหญ่ ท้องถิ่นจึงไม่ควรต้องอยู่ในสายบังคับบัญชาการของหน่วยงานราชการ
และ 3. ข้อเสนอเรื่องจังหวัดจัดการตนเอง ซึ่งตนเชื่อว่าทุกที่มีศักยภาพ วิถีชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติที่แตกต่างสวยงามกันหมด ดังนั้น ไม่มีจังหวัดไหนพิเศษกว่าจังหวัดไหน สิ่งที่คิดกันว่าเป็นความพิเศษคือความปกติ ดังนั้น เป็นอำนาจปกติที่ทุกจังหวัดพึงมีอยู่แล้ว ปัญหาคือ การทำรายจังหวัดจะไม่สำเร็จ ต้องทำเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ไปพร้อมๆกัน เริ่มจากเรื่องง่ายที่สุดคือ เปิดเผยฐานภาษีเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มเท่าไหร่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีรายได้นิติบุคคล ที่เก็บในจังหวัดท่านได้เท่าไหร่ แล้วต้องมาแบ่งกับส่วนกลางกันใหม่ ให้อำนาจ ให้ภาษีท้องถิ่นเป็นคนจัดการบริหารเอง ค่อยๆดึงอำนาจ ถ่ายเทอำนาจ ถ่ายเทงบ ถ่ายเทคนมาที่ท้องถิ่น
“ประเทศไทยจะก้าวหน้าไปไกลกว่านี้ไม่ได้เลยถ้าแข็งแต่หัวแล้วข้างล่างอ่อนแอ ประเทศจะเข้มแข็งก้าวหน้าไปได้ต้องเริ่มจากส่วนที่เล็กที่สุด ดังนั้น สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่อยากเสนอคือการดึงภาษีให้ท้องถิ่นนำมาบริหารได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเอาไปรวมที่กรุงเทพแล้วค่อยแบ่ง ไม่ต้องเอาไปรวมในสภาแล้วไปแย่งกันในสภา เราต้องค่อยๆดึงอำนาจมาจากรัฐราชการทีละอำนาจทีละตัว เพื่อเปิดให้ท้องถิ่นค่อยๆเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และถ้าเราจะทำได้เราต้องไปแก้ที่รัฐธรรมนูญ ผมคงไม่ต้องบอกว่า 5 ปีที่ผ่ามาท่านถูกลิดรอนอำนาจไปขนาดไหน ท่านถูกควบคุมขนาดไหน การรัฐประหารตั้งแต่ปี 49 การกระจายอำนาจถูกแตะเบรค การรัฐประหารปี 57 การกระจายอำนาจถูกดึงถอยหลังเลย ดังนั้น เราจะกระจายอำนาจได้จริงๆจะต้องสร้างประชาธิปไตยในระดับชาติ ต้องหยุดการสืบทอดอำนจของ คสช. ต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อยุติการรวมศูนย์อำนาจที่กรุงเทพ ดึงอำนาจกลับมาสู่ท้องถิ่น ที่เป็นอำนาจของท้องถิ่นโดยชอบมาแต่ต้น” นายธนาธร กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น