เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ออกแถลงการณ์ว่า จากสถานการณ์การชุมนุมในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลและทุกฝ่ายกำลังร่วมกันหาทางออกโดยสงบและสันติ บนพื้นฐานของกระบวนการตามกฎหมาย และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่มีท่าทีที่จะบรรเทาลง แม้รัฐบาลได้แสดงความจริงใจ ในการแก้ปัญหา โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ใช้ความพยายามปฏิบัติหน้าที่ ในการรักษาความ สงบเรียบร้อย รวมทั้งติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการต่าง ๆ ตามหลักสากลด้วยความระมัดระวัง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษาบรรยากาศของความรักความสามัคคีปรองดองของทุกคนในชาติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง และประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสำคัญ
ปัจจุบันสถานการณ์ยังคงไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีนัก และมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง รวมทั้งความสงบสุขปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยทั่วไป รัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้น ในการปฏิบัติโดยจะบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับ ทุกมาตราที่มีอยู่ ดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย เพิกเฉยต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยจะดำเนินคดีต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ที่สอดคล้องกับหลักการสากล
หลังจากนั้นเพจเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH ได้โพสต์คำแถลงการณ์ดังกล่าวพร้อมระบุว่า
นี่คือการประกาศสงครามกับประชาชนเต็มรูปแบบใช่หรือไม่? รัฐบาลของประยุทธ์ ได้ออกแถลงการณ์ โดยจะใช้นิติสงครามเต็มรูปแบบ ทุกมาตราที่มีอยู่ในมือ นั่นอาจรวมถึง 112 หรือกฎหมายเอาผิดผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ด้วย
ฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงแล้ว อนาคตของประเทศ ขึ้นอยู่กับข้าราษฎรทุกหมู่เหล่า พนักงานออฟฟิศ ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา และราษฎรทุกคน
สันติวิธีนั้นมีหลายรูปแบบ การสาดสี และพ่นสียังจัดอยู่ในสันติวิธี แต่บนรัฐที่ล้มเหลวเช่นนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ การพยายามบิดเบือน และสร้างความชอบธรรมให้รัฐเกิดขึ้นอยู่เสมอดังเช่นในอดีต แต่ผองราษฎรจงอย่ายอมจำนน ถ้าไม่ลุกขึ้นสู้ ก็ต้องอยู่อย่างทาสไปอีกหลายทศวรรษ
โปรดเตรียมพร้อมรับมือกับความเหลวแหลกของรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น