วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เปิดตัวแล้ว! ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ภาครัฐ AI

เมื่อวันที่ 27  พฤศจิกายน 2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก Sak Segkhoonthod ของ ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป็นตัวแทนสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ DGA ได้โพสต์ข้อความว่า "เปิดตัวแล้ว ศูนย์ AI ภาครัฐ" โดยนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ห้องวินด์ โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์

ทั้งนี้หลังจากสถาบันพัฒนาบุคลากรภาครัฐด้านดิจิทัล หรือ สถาบัน TDGA ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)  เปิดอบรมหลักสูตรนักบริหารรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 10 ที่มีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐร่วมอบรม จำนวน 32 คน ที่โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร  ซึ่งมีพิธีปิดเมื่อวันที่  26  พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกันที่อิมแพ็คฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน “Gov Cloud 2020” The Future of Digital Governmentซึ่งจัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ว่า การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลดิจิทัลเกิดขึ้นบนโครงสร้าง GDCCหรือGovernment cloudและจะไม่หยุดเพียงระดับของการให้บริการด้านดิจิทัลเท่านั้น ก้าวต่อไปของรัฐบาลดิจิทัล คือการยกระดับระบบงานภาครัฐบนGovernment Cloud ให้เกิดเป็น Government as a Platformหรือแพลตฟอร์มกลางภาครัฐ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมอำนวยความสะดวกเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนผ่านคลาวด์กลาง          

ส่งผลให้เกิดการใช้ประโยชน์ข้อมูลให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นในทุกภาคส่วน แบบเรียลไทม์ทันสถานการณ์ รวมไปถึงการจัดทำระบบข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open data)ที่จะเพิ่มศักยภาพและความโปร่งใสของข้อมูลภาครัฐในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านบริการประชาชน ด้านการเงิน ด้านสาธารณสุข ด้านพลังงาน ด้านการท่องเที่ยว ด้านการสื่อสาร และด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น และยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศไทยในกระแสNew Normalและสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า ระบบคลาวด์กลางหรือGov Cloudจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านไอทีให้กับรัฐบาลเพื่อก้าวสู่การทำงานแบบรัฐบาลดิจิทัลตามแผน โดยปี2563เน้นบริหารจัดการCloud Infrastructureเพื่อให้บริการทรัพยากรระบบคลาวด์แก่หน่วยงานรัฐซึ่งล้วนมีความตื่นตัวกับเทคโนโลยีและให้ความสนใจอย่างมากในการนำระบบงานมาใช้บนคลาวด์กลาง

ส่วนภายในปี2564มุ่งสู่การสร้างบริการระดับแพลตฟอร์มที่ทุกหน่วยงานสามารถเชื่อมต่อกันได้ จากนั้นปี2565โฟกัสการขยายผลการใช้AIในด้านเกษตรกรรม และด้านอื่นๆ รวมทั้งการนำร่องระบบData Sharingมีการแบ่งปันข้อมูลข้ามหน่วยงานผ่านแพลตฟอร์มกลางเพื่อขยายผลนำไปสู่การใช้AIและIoTในวงกว้าง และภายในปี2566มุ่งสู่การขับเคลื่อนนโยบายการให้บริการข้อมูลภาครัฐแบบเปิดในรูปแบบGovernment as a Platformที่มีการบูรณาการข้อมูลร่วมกันด้วยแพลตฟอร์ม มุ่งไปสู่การให้บริการภาครัฐแบบเปิดอย่างแท้จริง          

อย่างไรก็ตาม หลังจากโครงการGov Cloudเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี2562ได้มีหน่วยงานรัฐเข้าใช้งานระบบเต็มจำนวนของปีงบประมาณ 2563 แล้ว 8,000วีเอ็ม และในปีงบประมาณ 2564 จะสามารถรองรับบริการได้อีกเป็น 12,000 วีเอ็ม คาดว่าจะเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2564 ขณะที่ความต้องการใช้งานของภาครัฐมีมากถึง 40,000 วีเอ็ม จากสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้มีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยมีความต้องการแต่แรก          

ดังนั้นนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้กระทรวงดีอีเอสหาวิธีการได้มาซึ่งงบประมาณ โดยอาจจะเป็นงบประมาณกลางปี หรือ งบประมาณจากกองทุนต่างๆ เพื่อให้อย่างน้อยสามารถรองรับความต้องการใช้งานให้ได้ 32,000 วีเอ็ม          

ทั้งนี้Gov Cloudให้บริการหน่วยงานภาครัฐทั้งในระดับCloud infrastructureด้วยมาตรฐานการคัดแยกข้อมูล หรือData classificationที่ออกแบบรองรับการนำข้อมูลมาบูรณาการในอนาคต หรือData sharingระหว่างหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน รวมถึงต่อยอดการจัดการกับBig dataพร้อมเปิดOpen dataข้อมูลบางส่วนให้เอกชนและประชาชน รวมถึงสตาร์ทอัปได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูล          

สำหรับการทำ Data sharing เปิดเผยแชร์ใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ (pilot 15 datasets) ได้เริ่มระบบนำร่องแล้วซึ่งแต่ละปีจะมี Data set เพิ่มขึ้น และปีหน้าจะมุ่งผลักดันการทำ Data sharing ระหว่างหน่วยงานหลักๆ เนื่องจากในปัจจุบันมีกฎหมายที่ออกมารองรับการใช้ข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐแล้ว โดยเฉพาะ พ.ร.บ. การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการที่สำคัญ          

ความสำเร็จเบื้องต้น คือจำนวนหน่วยงานที่ใช้งาน Gov Cloud เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ระบบของหน่วยงานภาครัฐหลายแห่งได้เริ่มมีการใช้งานจริงในการแก้ไขปัญหาและให้บริการต่างๆ โดยหน่วยงานที่ใช้ระบบคลาวด์ GDCC ในการพัฒนาระบบงานและเพิ่มประสิทธิภาพบริการประชาชนได้เข้ารับมอบโล่เกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรีในงาน Gov Cloud 2020 ได้แก่

          1. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พัฒนาระบบ EEC-OSS โดยเป็นช่องทางคัดกรองและอำนวยความสะดวกให้นักลงทุน สามารถเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยบริการแบบ One-Stop Service

          2. กรมการขนส่งทางบก ผลงาน 'Smart Bus Terminal' ระบบติดตามรถโดยสารประจำทาง แสดงตารางการเดินรถแบบเรียลไทม์ของสถานีขนส่ง 81 แห่งทั่วประเทศ ผ่าน GPS Tracking ที่ติดตั้งบนรถโดยสารประจำทางทุกคัน สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางได้ตลอดเวลา

          3. ตำรวจภูธรภาค 8 พัฒนาระบบโครงการภาค 8 “4.0” ในแอปพลิเคชัน POLICE 4 ด้วย 4 ฟังก์ชันที่โดดเด่น คือ Crime Mapping แผนที่อาชญากรรมหลายมิติ, CCTV Mapping แผนที่กล้องวงจรปิดทุกตัว, Red Box QR Code ใช้แทนสมุดตรวจแบบเดิม และ Stop Walk Talk and Report ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่แบบเรียลไทม์

          4. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบ Digital Healthcare Platform เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลสาธารณสุขซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกระบบที่เกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด-19 มาไว้ส่วนกลาง ทำให้สามารถจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          5. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ หรือ NEIC (National Energy Information Center) ซึ่งเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง บูรณาการและเผยแพร่ข้อมูลด้านพลังงานให้กับทุกภาคส่วน เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ คาดการณ์ด้านพลังงานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...