พศ.โยนเจ้าคณะปกครอง พิจารณาจับสึกพระเณรร่วมม็อบชู 3 นิ้วหรือไม่ ชี้ให้คติธรรมเชิงสั่งสอนทางการเมืองได้ ขณะที่ทำเนียบฯประชุมรับมือม็อบใหญ่ 8 พ.ย. ด้าน "คฑา" โผล่ทำเนียบฯ เชื่อทุกคนทำดีบ้านเมืองสงบ แนะ "บิ๊กตู่" สวดมนต์ สร้างรอยยิ้มให้คนเหนือ อีสาน ใต้
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. เผยกรณีพระสงฆ์สามเณรแสดงออกทางการเมืองหลายรูปแบบทั้งเข้าร่วมชุมนุม และแสดงความเห็นผ่านบทความหรือบทกลอนว่า มหาเถรสมาคม (มส.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดมีมติขอความร่วมมือ ขอให้เจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้น กำกับดูแลคณะสงฆ์อย่างใกล้ชิด ไม่ให้คณะสงฆ์แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในเชิงเสียดสี ก่อให้เกิดความแตกแยก แต่สามารถทำได้ในกรณีใช้คติธรรมในเชิงสั่งสอน ตักเตือน โดยไม่ไปว่าร้ายเสียดสีใคร
ส่วนกรณีพระสงฆ์สามเณรที่เข้าร่วมชุมนุมจะถือว่ามีความผิดถึงขั้นต้องให้ลาสิกขาหรือไม่ นายสิปป์บวร เผยเป็นอำนาจการพิจารณาของเจ้าคณะฝ่ายปกครอง ทั้งนี้กรณีที่เข้าร่วมชุมนุมจนมีความผิดต้องคดีตามกฎหมาย จะมีการพิจารณาในอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงการพิจารณาในวัตรปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ของพระสงฆ์สามเณร
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม "ภาคีนักศึกษาศาลายา" ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล นัดหมายรวมตัวกันในเวลา 17.00 น. โดยประกาศผ่านเพจ "ภาคีนักศึกษาศาลายา "
บรรยากาศเมื่อเวลา ประมาณ 18.20 น. "พระเอิร์ธ" ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวว่า ภิกษุสงฆ์ได้รับการตักเตือนจากมหาเถรสมาคมว่า พระไม่ควรพูดเรื่องการเมือง เพราะจะทำวงการสงฆ์เสื่อมเสีย แต่ล่าสุดมีมติให้แต่งบทธรรมเทศนาส่งเสริมความรักชาติ หากเป็นเช่นนี้จะกล้าพูดได้อย่างไรว่าพระแยกจากการเมือง หากย้อนประวัติศาสตร์ใน พ.ศ.2484 หลังคณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง สถาบันสงฆ์ก็มีการเปลี่ยนแปลง เหมือนระบอบประชาธิปไตย โดยมีการปกครองแบบสังฆมณฑล แต่ดอกไม้ประชาธิปไตยของคณะสงฆ์ไทยอยู่ได้แค่ 20 ปี โดยใน พ.ศ.2505 จอมพลสฤษดิ์ ทำให้ดอกไม้ประชาธิปไตยของสงฆ์หุบลง
"วันนี้หลายคนจะไม่นับถือกราบไหว้ ก็ไม่เป็นไร แค่ขอให้เห็นใจเราเหมือนมนุษย์คนหนึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญไทย แต่มหาเถรสมาคมกำลังทำให้พระสงฆ์ไม่มีเสียงออกความเห็นต่าง มีการออกจดหมายเตือนสามเณรที่ออกมาบอกว่า ถ้าการเมืองดี คงไม่ต้องมาบวช เพราะเศรษฐกิจไทยบังคับให้บวชเรียนเพื่อสร้างตัว ให้เป็น someone ในสังคม ถ้ารัฐสวัสดิการดี คงไม่ต้องมาบวชเพื่อให้ได้สิทธิเท่าคนอื่น" หลวงพี่เอิร์ธกล่าว
จากนั้น หลวงพี่เอิร์ธ ชู 3 นิ้ว ประชาชน ร่วมชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าว "สาธุ" พร้อมกัน จากนั้น สามเณรสหรัฐขึ้นเวที โดยกล่าวถึงเหตุการณ์สลายชุมนุมที่แยกปทุมวัน เมื่อ 16 ตุลาคม ซึ่งสามเณรสหรัฐอยู่ในเหตุการณ์
พท.เชียร์พระขึ้นเวทีม็อบ "ถ้าสวัสดิการดี..คงไม่ต้องมาบวช"
ขณะเดียวกันในโลกโซเซียลได้แชร์ทวิตฯของนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังโพสต์ภาพพระสงฆ์ขึ้นปราศรัยในการชุมนุมที่เวทีศาลายา เมื่อค่ำวานนี้ (5 พ.ย.) พร้อมระบุข้อความว่า "พระสงฆ์'ขึ้นเวทีที่ศาลายา ชี้พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้ ถึงเวลาปฏิรูปกลับสู่ระบบ #สังฆสภา ถ้าสวัสดิการดี..คงไม่ต้องมาบวช #ม็อบ5พฤศจิกา #เราคือราษฎร"
ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าว ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงเหตุผลของนายอนุสรณ์ที่บอกว่า ถ้าสวัสดิการดี..คงไม่ต้องมาบวช เพราะโดยหลักจริงๆตามหลักศาสนา บวชเพื่อสืบทอดพุทธศาสนา ทดแทนคุณพ่อแม่ และศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนเพื่อนำออกมาใช้ในชีวิตประจำวันหลังสึกออกมามากกว่าเรื่องปัญหาสวัสดิการ
"คฑา"โผล่ทำเนียบ เชื่อทุกคนทำดีบ้านเมืองสงบ
พร้อมกันนี้นายคฑา ชินบัญชร นักโหราศาสตร์ชื่อดังของเมืองไทย เดินทางเข้าสักการะ ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยนายคฑา เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาร่วมประชุมกับคณะของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาดูดวงให้ใครหรือสถานที่ใดเป็นพิเศษ หลังพบนายสุภรณ์เสร็จจึงเดินมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้บ้านเมืองมีความสุข สงบ คิดว่าคนไทยทุกคนรักประเทศไทยสิ่งสำคัญที่สุดคือความกตัญญูต่อแผ่นดิน เพียงแต่จุดมุ่งหมายอาจไม่เหมือนกันแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรารักในแผ่นดินอยากให้แผ่นดินมีความสุข ซึ่งตนอยากบอกว่าหากทุกคน คิดดี พูดดี ทำดี มีเพื่อนดี รับรองว่าชีวิตดีและแผ่นดินไทยดีแน่นอน
แนะ "บิ๊กตู่" สวดมนต์ สร้างรอยยิ้มให้คนเหนือ อีสาน ใต้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสได้ดูดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม บ้างหรือไม่ นายคฑา ตอบว่า ปกติปีนี้คนเกิดปีมะเมียโดยทั่วไปจะเป็นตำบลกระสุนตก ตามหลักโหราศาสตร์จะต้องปะทะชนอยู่แล้วแต่ไม่ต้องกังวลเพราะพ้นตรุษจีน 12 ก.พ. 64 ก็จะไปได้ ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังและหมั่นสวดมนต์ไหว้พระจะช่วยส่งผลให้จิตรของเราสงบ เป็นการยกระดับจิตรเพิ่มพลังใจให้พลังชีวิตแก่เราและทำให้เรามีสติรู้ตื่นในการดูแลตัวเองและชาติบ้านเมือง จะทำให้เรารู้ว่าอะไรดี อะไรชอบ อะไรผิดอะไรถูก ไม่ว่าใครถ้าเรารู้จักหน้าที่ของตัวเองตนคิดว่าชาติบ้านเมืองก็จะสงบสุข อันนี้ตนอยากฝากไปถึงคณะรัฐมนตรีหรือใครก็ตามหากรู้จักหน้าที่ของตัวเองบ้านเมืองก็จะมีความสุขแน่นอน เมื่อถามว่าดวง พล.อ.ประยุทธ์ จะดีขึ้นหลัง 12 ก.พ. 64 ใช่หรือไม่ นายคฑา กล่าวว่า จริงๆแล้วคนเกิดปีมะเมียทุกคนพอหมดการปะทะชนปัญหาต่างๆก็จะน้อยลง ซึ่งช่วงปะทะชนคือช่วงวันที่ 12 ธ.ค. 63 -12 ม.ค. 64 ก็อาจจะโชคดีเพราะอยู่ในช่วงปีใหม่คนไทยกำลังรื่นเริง ทำให้สถานการณ์เบาลางลงได้ ซึ่งถือเป็นดวงของคนเกิดปีมะเมียทุกคน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ เกิดปีมะเมียด้วยก็ต้องระวังและต้องสวดมนต์ไหว้พระและไปรับพลังชีวิตดีดีโดยเฉพาะทิศเหนือทิศใต้และตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นพลังบวกที่ดี ไปรับรอยยิ้มเสียงหัวเราะและไปกระจายความสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น