วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พรรคซูจีชนะเลือกตั้งในรัฐฉาน พรรคหัวเสือไทใหญ่ได้ 42 ที่นั่ง


 
วันที่ 12 พ.ย.2563  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา 4 วันแล้วปรากฏว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศ  คว้าชัยชนะได้เป็นรัฐบาลในสมัยที่ 2 อย่างไรก็ตามในพื้นที่รัฐฉานซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทใหญ่ซึ่งมีผู้แทนประเภทต่างๆ 159 ที่นั่ง ประกอบด้วย สภาสูง (Amyotha Hluttaw) 12 ที่นั่ง สภาประชาชนหรือสภาล่าง (Pyithu Hluttaw) 49 ที่นั่ง สภาแห่งรัฐ(State Hluttaw) 98 ที่นั่ง มีพรรคการเมืองส่งตัวแทนลงรับสมัครเลือกตั้ง 31 พรรค

ปรากฏว่า พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) หรือพรรคนกยูงของนางออง ซาน ซูจี ได้รับเลือกทั้งสิ้น 46 ที่นั่ง รองลงมาคือพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) หรือพรรคสิงห์โต ของทหาร ได้รับเลือกรองลงมา 44 ที่นั่ง 

ขณะที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติรัฐฉานเพื่อประชาธิปไตย (SNLD-Shan Nationalities League for Democracy) โดยมีหัวเสือเป็นโลโก้พรรค เป็นพรรคการเมืองในรัฐฉาน มีสมาชิกเป็นทั้งชาวไทใหญ่และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในรัฐฉาน เช่น ชาวปะหล่อง ชาวปะโอ เป็นพรรคการเมืองของชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่พรรคหนึ่งในพม่า ในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2533 ได้ 23 ที่นั่ง คราวนี้ได้รับเลือก 42 ที่นั่ง  

พรรค Ta’ang National Party(TNP) ของชาติพันธุ์ตะอั้ง หรือปะหล่อง ได้รับเลือก 12 ที่นั่ง พรรค Pa-O National Organization ( PNO) พรรคการเมืองของชาติพันธุ์ปะโอ ได้รับเลือก 11 ที่นั่ง พรรคเสือเผือก พรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งของคนไทใหญ่(SNDP-Shan Nationalities Democratic Party) ได้รับเลือก 1 ที่นั่ง พรรคการเมืองของชาติพันธุ์ว้า (WNP-Wa National  พรรคการเมืองของชาติพันธุ์ลาหู่ (LNDP-LaHu National Development Party) ได้รับเลือก 1 ที่นั่ง มีผู้สมัครอิสระได้รับเลือกเข้ามาอีก 1 ที่นั่ง คือจายคำโส่ย ลงสมัครเขตเมืองหมากหมาง รัฐฉานตะวันออก

เมื่อแยกออกเฉพาะพรรคการเมืองชาติพันธุ์ มี 6 พรรคที่ได้รับเลือกตั้ง ได้แก่ SNLD และ SNDP ของชาวไทใหญ่ TNP ของตะอั้ง PNO ของปะโอ WNP ของว้า และ LNDP ของชาวลาหู่ ได้รับเลือกตั้งเข้ามา 68 ที่นั่ง แต่หากรวมกับผู้สมัครอิสระซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ด้วยแล้ว กลุ่มชาติพันธุ์ได้รับเลือกตั้งทั้งหมด 69 ที่นั่ง หรือ 43% ของที่นั่งทั้งหมด 159 ที่นั่ง

พรรคหัวเสือ(SNLD) พรรคการเมืองไทใหญ่ที่ได้รับเลือก 42 ที่นั่งนั้น เป็นที่นั่งใน Amyotha Hluttaw 2 ที่นั่ง Pyithu Hluttaw 13 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นที่นั่งใน State Hluttaw นอกจากในรัฐฉานแล้ว ผู้สมัครของพรรคหัวเสือยังได้รับเลือกตั้งในรัฐคะฉิ่นอีก 1 ที่นั่ง ได้แก่จายเอมิ่น ได้รับเลือกเป็นสมาชิก State Hluttaw ในอำเภอมานเจ เขตเลือกตั้งที่ 2

ส่วนพรรคเสือเผือก (SNDP) ปีนี้ส่งผู้สมัคร 108 คน ได้รับเลือกตั้งเพียงคนเดียว คือจายน้อง ได้เป็นสมาชิก State Hluttaw จากเขตเลือกตั้งที่ 1 ในอำเภอเมืองปั่น จังหวัดลางเคอ รัฐฉานใต้

พรรค TNP ของชาวตะอั้ง(ปะหล่อง) นอกจากได้รับเลือกตั้ง 4 ที่นั่ง ในอำเภอน้ำสั่น และอำเภอหม่านโต้ง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตปกครองตนเองชาวปะหล่องแล้ว ยังได้รับเลือกตั้งอีก 4 ที่นั่ง ในเขตอำเภอน้ำคำ จังหวัดหมู่เจ้ รัฐฉานเหนือ อีกด้วย  เช่นเดียวกับ PNO ซึ่งนอกจากได้รับเลือกตั้งในอำเภอสี่แสง อำเภอป๋างลอง ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองชาวปะโอแล้ว ยังได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิก State Hluttaw จากจังหวัดดอยแหลม อีก 1 ที่นั่ง

การเลือกตั้งครั้งนี้ 4 อำเภอ ในเขตพิเศษหมายเลข 2 สหรัฐว้า เขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา และบางอำเภอในเขตปกครองตนเองโกก้าง ไม่มีการจัดเลือกตั้ง

แต่ว้ายังมีพื้นที่ซึ่งถูกยกให้เป็นเขตปกครองตนเองอีก 1 แห่งในจังหวัดเมืองสาต รัฐฉานตะวันออก ซึ่งผู้สมัครจากพรรคชนชาติว้า(WNP) ได้รับเลือกตั้งร่วมกับผู้สมัครจากพรรค USDP พรรคทหารที่เป็นพันธมิตรกับว้า

เช่นเดียวกับในจังหวัดเชียงตุง ที่ผู้สมัครจาก USDP ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิก Pyithu Hluttaw ทั้ง 3 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดซึ่งยังต้องตรวจทานเพิ่มเติม เนื่องจากก่อนหน้านี้ สำนักข่าวท่าขี้เหล็กได้รายงานว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครจาก WNP ได้รับเลือกเข้ามา 3  คน ได้แก่ อู หญี่ปะโล๊ะ ได้รับเลือกเป็นสมาชิก Pyithu Hluttaw จากอำเภอโหป่าง พื้นที่ในเขตปกครองตนเองของว้าที่ยังได้จัดเลือกตั้ง อู หย่านจ่อ ได้เป็น State Hluttaw จากเขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอโหป่าง และ ดร.M ส่อลัต ได้เป็น State Hluttaw จากเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอเมืองโต๋น จังหวัดเมืองสาต

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่พรรคหัวเสือพ่ายให้กับพรรคของนางซูจีและพรรคอดีตนายทหารก็เนื่องจากมีการแบ่งคะแนนกันเองกับพรรคเสือเผือก และประกอบกับช่วงหาเสียงจะเกิดการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารไทใหญ่ที่เมืองจ๊อกเมร์ รัฐฉานภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.และมีการหยุดยิงหลังจาก กกต.เมียนมาได้ประกาศพื้นที่รัฐฉานไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จำนวน 6 เขตการเลือกตั้ง ทำให้ ส.ส.จากรัฐฉานลดไปอีก 6 คน ทำให้ต้องการการอพยพชาวบ้านไปอยู่ตามวัดต่างๆ แต่ทหารเมียนมาก็ยังครอบคลุมพื้นที่ไว้อยู่     

พร้อมกันนี้หลังจากพรรค USDP อดีตนายทหารเมียนมา แพ้เลือกตั้งอย่างชนิดตามไม่เห็นฝุ่นต่อพรรค NLD นางออง ซาน ซูจี  วันนี้ก็ได้ออกมาประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใสหลายเขต แต่เป็นที่้น่าสังเกตก็คือว่า พรรค USDP อดีตนายทหารเมียนมาได้ที่นั่งเป็นกอบเป็นกำก็คือในพื้นที่รัฐฉาน 


Cr.ข้อมูลบางส่วนจากเพจ LandLink

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วราวุธ" เผย พม.จับมือ พศ.- กรมการศาสนา ตั้งศูนย์คุ้มครองเด็กและสามเณร สร้างพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนหากถูกละเมิด

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมยุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็ก ...