วันที่ 14 ม.ค.2564 เฟซบบุ๊ก ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee ได้โพสต์ข้อความว่า ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ BCG สู่ผู้นำอุตสาหกรรมโลก
นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและถือเป็นการส่งสัญญานที่ชัดเจน ที่เมื่อวานนี้ (13 มกราคม) ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (โมเดลเศรษฐกิจ BCG) ที่ประชุมได้เห็นชอบยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2569 โดยประกาศให้ “โมเดลเศรษฐกิจ BCG” เป็นวาระแห่งชาติเรื่องที่ 2 ต่อจาก “ไทยแลนด์ 4.0” ที่ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติไปก่อนหน้านี้
*โมเดลเศรษฐกิจ BCG ในบริบทโลก
หนึ่งในวาระเชิงยุทธศาสตร์ที่จะทำให้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เกิดผลเป็นรูปธรรม คือ การยึดโยงโมเดลเศรษฐกิจ BCG กับการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโลกหลังโควิด
หนึ่งในสี่สาขายุทธศาสตร์ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มีศักยภาพในระดับโลก หากมีการพลิกโฉม เสริมแกร่งจากภายใน ด้วยการมีนโยบายภาครัฐที่ชัดเจน โมเดลธุรกิจสมัยใหม่ และที่สำคัญคือ การยกระดับขีดความสามารถในการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม คือ “อุตสาหกรรมอาหาร”
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตอาหารส่งออกเป็นอันดับที่ 16 ของโลก จากวิกฤตของโรคระบาดโควิด-19 เราได้เห็นความสำคัญของความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและเกษตรกรที่ต้องมาพึ่งพาการซื้อขายในระบบออนไลน์ และการส่งสินค้าในระบบดิจิตอลรูปแบบใหม่มากขึ้น การเชื่อมต่อคมนาคมในภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีนส่งผลให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของการผลิตและการส่งออกอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
*พลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารไทย สู่การเป็นผู้นำในตลาดโลก
การวิจัย พัฒนา และสร้างนวัตกรรม ตลอดจนห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตอาหารเพื่อต่อยอดไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจ มีประเด็นมุ่งเน้น 11 ประเด็นสำคัญต่อไปนี้
1. Smart & Precision Agriculture ปรับปรุงพันธุ์พัฒนางานด้าน Omics และ Big Data เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตให้สูงขึ้นโดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตที่น้อยลง
2. Digitized Food System เชื่อมโยงเกษตรกรผู้ประกอบการและผู้บริโภคครอบคลุมถึงระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
3. Personalized Foods พัฒนาอาหารที่เหมาะสมกับพันธุกรรมและปัญหาด้านสุขภาพของผู้บริโภคจำเพาะราย
4. Functional Foods และ High Value Natural Ingredients พัฒนาอาหารและส่วนผสมอาหารที่มีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มสูงรวมถึงพัฒนาอาหารและส่วนผสมโดยใช้กระบวนการทาง Bioprocessในการผลิตอาหารสัตว์
5. Novel Foods และ Novel Processing พัฒนาอาหารที่จะเป็นแหล่งโปรตีนชนิดใหม่ทดแทนเนื้อสัตว์รวมทั้งแปรรูปอาหารด้วยกระบวนการแบบใหม่เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน โดยมีความใกล้เคียงกับอาหารสดและอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ
6. ลด Food Loss และเพิ่ม Waste Utilization ผ่านกลไกของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
7. พัฒนา Packaging เพื่อรักษาคุณภาพและบ่งบอกสภาพอาหารภายในบรรจุภัณฑ์
8. Cultural Street Foods บูรณาการเสน่ห์ของอาหารวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยีความปลอดภัยอาหารเชื่อมโยงการท่องเที่ยว
9. พัฒนาระบบ Logistics และ Distribution อาหารที่มีประสิทธิภาพรองรับชีวิตวิถีใหม่และระบบคมนาคมและดิจิตอลสมัยใหม่
10. พัฒนาโมเดลธุรกิจการบริหารจัดการและการตลาดอาหารรูปแบบใหม่ตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
11. พัฒนาระบบตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่ถูกต้องรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือรวมไปถึงปลดล็อคข้อจำกัดที่ล้าสมัยเพื่อเชื่อมโยงให้การวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
...ถึงเวลาที่พวกเราต้องรู้รักสามัคคี ร่วมกันเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ปรับกลไกการสร้างความมั่งคั่งของประเทศใหม่ ด้วย “โมเดลเศรษฐกิจ BCG “ ที่ตอบโจทย์ความสมดุล ทั่วถึงและยั่งยืน ครับ
** ขอขอบคุณท่านอาจารย์สิรี ชัยเสรี ในแนวคิดการพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารในบทความนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น