วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564



"มจร-มมร-คณะสงฆ์" ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ สช.,สสส., สปสช.และสธ. พร้อมทั้งภาคประชาชน และThai PBS ร่วมหารือแนวทางความร่วมมือในการสื่อสารให้กำลังใจและช่วยเหลือแรงงานเมียนมาร์  ในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่น

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 401 สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระเทพเวที  รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต เป็นประธานเปิดการประชุมปรึกษาเรื่อง “การขอร่วมมือ มจร -มมร และภาคีเครือข่ายเยียวยาผู้ประสบภัยจากโควิด -19”            

นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.)ได้ชี้แจงวัตถุประสงค์และแนวทางการสานพลังความร่วมมือในการสื่อสารให้กำลังและช่วยเหลือแรงงาน Myanmar จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่น ๆ             

ส่วน นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอภาพรวมของสถานการณ์การควบคุม ป้องกันการระบาดของโควิด-19 (ระลอกใหม่) ทำให้ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อจากนั้น นายชูวงศ์ แสงคง เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ ได้นำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ ที่เครือข่ายได้ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายพื้นที่ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือและแนวทางในการดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน          


ด้าน นายสมเกียรติ จันทรสีมา จากองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( Thai PBS ) ได้เสนอแนวทางและช่องทางในการสื่อสารด้วย

จากนั้น นายแพทย์ปรีดา แต้อารักษ์ ศูนย์ปฏิบัติการรวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19 (ศรค.) ได้นำเสนอแผนงาน รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19(ระลอกใหม่)โดยชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญ และเสนอแผนทั้งระยะเร่งด่วนเพื่อการควบคุมการระบาด ระยะฟื้นฟู เยียวยา และระยะยาวเพื่อการลงทุนเชิงโครงสร้างและพัฒนาระบบนโยบายด้านแรงงานข้ามชาติ โดยมีกลยุทธ์สำคัญ คือ เปิดพื้นที่การมีส่วนร่วม ภาคสังคมหนุนเสริมภาครัฐ เน้นความรวดเร็วและกิจกรรมเชิงรูปธรรม ในพื้นที่เป้าหมายที่มีการระบาด โดยร่วมประสานดำเนินการทุกภาคส่วนเพื่อลดอคติไม่ให้เกิดสังคมตีตรา ไม่ตื่นกลัว เข้าใจไม่ต่อต้าน นำคนเข้าระบบบริการและดูแลคุณภาพชีวิต ควบคุมการระบาดในชุมนุม สร้างความรู้และความตระหนักในการแลกเปลี่ยนบทบาทการดำเนินการงานของส่วนงาน         

พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต มจร ได้นำเสนอภารกิจของกองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี ในส่วนของการบริการวิชาการแก่สังคมของ มจร ใน 6 ด้านสำคัญ คือ           

(1) งานเผยแผ่ธรรมะทางวิทยุ-โทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต  (2) การปฏิบัติธรรม (3) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จำนวน 18,000 รูป (4) การบรรพชา และอบรมเยาวชน จำนวน 300 หน่วยอบรม/ต่อปี ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2523 – ปัจจุบัน  (5) นิสิตปฏิบัติศาสนกิจ 1,800 รูปต่อปีการศึกษา (6) โครงการพื้นที่เฉพาะ เช่น พระธรรมจาริก 36 อาศรม ใน 8 จังหวัด/ส่งเสริมคุณภาพชีวิตพื้นที่เขตชายแดน/โรงงาน เป็นต้น ร่วมถึงได้นำเสนอกิจกรรมที่คณะสงฆ์ และองค์กรภาคีเครือข่ายได้ร่วมสนับสนุนทั้ง สสส. สปสช. สช. และอปท. เช่น การจัดทำและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ,การพัฒนากลไกประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธบูรณาการอย่างมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่มการรับรู้และการเข้าถึงบริการสุขภาพ,โครงการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ในระบบสุขภาพเพื่อสังคมสุขภาวะผ่านกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ และโครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พระนิสิตปฏิบัติศาสนกิจสู่การสร้างสังคมสุขภาพ     

โดยชี้ให้เห็นว่าเป็นการดำเนินการภายใต้นโยบาย 3 (MCU FOCUS) ของอธิการบดี มจร คือ (1) Learning Community (ชุมชนแห่งการเรียนรู้) (2) Academic Service (บริการวิชาการแก่สังคม) (3) Buddhist Innovation for Mental and  Social development (นวัตกรรมเชิงพุทธเพื่อการพัฒนาจิตและสังคม)      

อย่างไรก็ตามได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถิตินิสิตต่างประเทศในปีการศึกษา 2563 ว่า มีจำนวนนิสิตทั้งหมด 1,294 รูป จาก 28 สัญชาติ โดยแยกเป็นส่วนกลาง จำนวน 838 รูป และส่วนภูมิภาค จำนวน 456 รูป แยกตามระดับการศึกษา (1) ระดับปริญญาตรี จำนวน 950 รูป/คน (2) ระดับปริญญาโท จำนวน226รูป/คน (3)ระดับปริญญาเอก จำนวน 118 รูป/คน          

ในจำนวนทั้งกล่าวมีนิสิต Myanmar จำนวน 560 รูป ซึ่งมีองค์กรพระนิสิตชาวพม่า(MCU Myanmar Student Monks Organization) ทำหน้าที่บริหารกิจการงานต่างๆ นอกจากนี้ยังมีชมรมนิสิตตามกลุ่มชาติพันธุ์ของนิสิตประมาณ 5 ชมรม      

หลังจากนี้ ผู้แทนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)คือ นางสาวยอดขวัญ รุจนกนกนาถ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสนับสนุนงบประมาณให้โครงการต่าง ๆ ดำเนินงานในส่วนของการจัดทำสื่อสร้างองค์ความรู้และการขับเคลื่อนงานสร้างสุขภาวะในระดับพื้นที่ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสื่อสารในประเด็นดังกล่าว

การนี้ นายแพทย์ประจักษวิช เล็บนาค จาก สปสช. ได้กล่าวถึงบทบาทของ สปสช.ในการร่วมดำเนินงานกับคณะสงฆ์มาโดยลำดับโดยได้ชี้ให้ถึงบทบาทสำคัญของคณะสงฆ์ในการช่วยขับเคลื่อนงานภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และคณะสงฆ์มีต้นทุนทางสังคมมากสามารถจะช่วยสื่อสารกับประชาชนได้เป็นอย่างดี         

ในส่วนของผู้แทนองค์กรสงฆ์พระราชเมธีกรรมการและเลขานุการฝ่ายปกครองพระมงคลธรรมวิธาน, รองอธิการบดีฝ่ายกิจการคณะสงฆ์ มมร และ พระมงคลวชิรากร กรรมการและเลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ต่างอนุโมทนากับภาคีเครือข่าย และเห็นด้วยกับแนวทางในการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐกำหนด ต่างชี้ให้เห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งในกลุ่มของพระสงฆ์เองเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และสามารถร่วมทำหน้าที่สื่อสารให้กำลังและช่วยเหลือแรงงาน จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่น ๆโดยบูรณาการความร่วมมือกิจกรรมต่างๆ เช่น การผลิตสื่อ สื่อประชาสัมพันธ์และองค์ความรู้จาก สสส. และช่องทางการสื่อสารหรือการเเผยแพร่ของ Thai PBS แนวทางการดำเนินการที่ขับเคลื่อนโดยพระนิสิตชาวเมียนมาร์ซึ่งใช้ฐานความเชื่อหรือต้นทุนศรัทธาเป็นตัวกลางการสื่อสารจากรัฐไปยังแรงงานพม่า เพิ่มความเชื่อใจ อุ่นใจ เสริมกำลังใจและลดการระบาด นอกจากนี้ยังร่วมถึงการใช้เสียงตามสาย,สายด่วนคอลเซนเตอร์ หรือเทศน์ออนไลน์ โดยดำเนินการตามช่องทางหรือมาตรการที่รัฐกำหนด  

อย่างไรก็ตาม การสำคัญนี้ที่ประชุมได้เห็นร่วมกันเพื่อดำเนินการใน 3 ประเด็น คือ     

(1) การกำหนดกลไกความร่วมมือในการดำเนินการร่วมกันงานของหน่วยงานด้านองค์กรศาสนา ด้านสุขภาพ ด้านสังคม และด้านการสื่อสาร     

(2) การพัฒนาศักยภาพพระนิสิตด้านสุขภาพ ด้านมาตรการรัฐที่เกี่ยวข้อง ด้านการสื่อสารและการให้คำปรึกษา     

(3) สร้างเครือข่ายการสื่อสาร เครือข่ายความร่วมมือทั้งการกระจายสื่อ (ที่มีอยู่แล้วและผลิตใหม่) ร่วมผลิตสื่อเฉพาะที่สื่อสารโดยพระนิสิตเมียนมาประการสำคัญคือสื่อประชาสัมพันธ์และองค์ความรู้จากสสส.และช่องทางการสื่อสารหรือการเเผยแพร่ของThai PBS



หลังจากนั้น คณะผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมนำโดย พระเทพเวที รองอธิการบดีฝายกิจการนิสิต และนายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้นำคณะเข้าพบพระราชปริยัติกวี อธิการบดี มจร เพื่อรายงานผลการประชุมและรับฟังข้อคิดความเห็นจากอธิการบดี มจร ในการดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"วราวุธ" เผย พม.จับมือ พศ.- กรมการศาสนา ตั้งศูนย์คุ้มครองเด็กและสามเณร สร้างพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนหากถูกละเมิด

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมยุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเด็ก ...