วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ก.ดิจิทัลผนึกกว่า 15 พันธมิตร เดินหน้าปราบข่าวปลอม



วันที่ 31 ก.ค.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยในการประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมว่า  เป็นการเร่งรัดนโยบายด้านการส่งเสริมความมั่นคงทางดิจิทัล มุ่งเน้นด้านการเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง  โดยจะตั้งหน่วยงานศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์เน้นสื่อสารข่าวการเตือนภัยพิบัติและข่าวลวงที่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน  เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ  การหลอกลวงให้ลงทุน  การขายสินค้าอันตรายและผิดกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง  และลดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องซึ่งปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ

รวมถึงเร่งรัดหามาตรการในการจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในด้านต่างๆกับภารกิจด้านการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัลและอาชญากรรมออนไลน์  เนื่องจากปัจจุบันในประเทศไทยมีการใช้สื่อ Social Media สูงมาก  โดยมีผู้ใช้งาน Facebook 54ล้านคน Line 42 ล้านคน Twitter 12 ล้านคน ซึ่งการใช้สื่อ Social Media ของประชาชนได้ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณี  และมีความข้อแย้งต่อกฎหมายและกฎระเบียบของประเทศไทยในหลายกรณี  ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  กฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาท      กฎหมายด้านการจัดเก็บภาษี กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
  
“ผมจะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานจัดตั้งศูนย์เฟคนิวส์เซนเตอร์ จะต้องหามาตรการและแนวทางในการจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในด้านต่างๆ  โดยได้หารือร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆกว่า15 หน่วยงาน อาทิ กรมสรรพากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงกลาโหม กองทัพบก ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นการหาทางร่วมมือทำงาน ทุกหน่วยงานจะมาร่วมสะท้อนแนวคิดการขับเคลื่อนของประเทศไทย  เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการใช้สื่อ Social Media ที่มีคุณภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม  โดยในบริบทของประเทศไทยควรมีแนวทางในการสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมในการดูแลสังคม  เศรษฐกิจ  วัฒนธรรม  ตลอดจนความมั่นคงของประเทศไทย  โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมายไทย  เพื่อเป็นการปกป้องเด็กและเยาวชน  ผู้ด้อยโอกาส  ประชาชนทั่วไป  และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม  และความมั่นคงของประเทศโดยรวม”  นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วธ.ประเดิมงานใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ เปิดสารพันอาหารย่านกะดีจีน-คลองสาน”

กระทรวงวัฒนธรรมเปิด “งานวัดพัฒนาประชาคม ไหว้พระรับพรย้อนวันวาน สารพันอาหารย่านกะดีจีน-คลองสาน” ณ วัดประยุรวงศาวาส  ภายใต้งานใต้ร่มพระบารมี 2...