วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

'นคร'จี้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งเรื่องแก้รธน. อย่าหลงวาทกรรมพรรคร่วม



วันที่ 18 ก.ค.2562  นายนคร มาฉิม  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความโดยสรุปว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 2560 ได้ ไม่ต้องหวังจากรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทั้ง 19 พรรค

รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 2560 แม้จะถูกอ้างว่า ผ่านประชามติแล้วโดยเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมว่า เป็นประชามติ ที่ฝ่ายเผด็จการ ได้ผลประโยชน์ได้เป็นรัฐบาลและมีอำนาจรัฐจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. นี้ อย่างทั่วหน้า มีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ พวกเขาจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะแก้ ไม่คิดแก้และไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 

และที่บางพรรคอ้างเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาลว่า จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยถึงจะมาร่วมรัฐบาล เป็นแค่เพียงวาทกรรมข้ออ้างให้ดูดี หลังจากที่เคยพูดต่อประชาชนว่าจะไม่เอาพลเอกประยุทธ์(จันทร์โอชา) มาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว กลับมาร่วมรัฐบาลแล้วสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่จากกิริยาอาการ คำพูดและท่าทีที่แสดงออกของแกนนำพรรคแล้ว คนที่กินข้าวทุกคน ไม่ได้กินอย่างอื่นย่อมรับรู้ว่า พวกเขาคือพวกเดียวกันและพวกเขาไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่พวกเขาได้ประโยชน์สูงสุดในการยึดอำนาจรัฐ ยึดอำนาจประชาชนโดยกฎหมาย 

จึงไม่ต้องหวังว่า รัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลนี้จะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย หรือหากแก้ก็แค่เป็นพิธีกรรม ว่าได้แก้ไขแล้วนะ แต่หลักการใหญ่ๆ เช่น การแต่งตั้ง ส.ว. ให้มาเป็นการให้ประชาชนเลือก หรือการเพิ่มอำนาจให้ประชาชน ลดอำนาจรัฐ ลดอำนาจองค์กรอิสระ การไม่ให้ศาลและกระบวนการยุติธรรมรับรองอำนาจการรัฐประหาร หรือการให้การยึดอำนาจการทำรัฐประหารเป็นอาชญากรรม เป็นกบฏ มีโทษประหารชีวิต ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ และประชาชนทุกคนสามารถเอาผิดต่อคณะเผด็จการรัฐประหารได้ ไม่มีวันที่ฝ่ายรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจะแก้ไข

จึงเหลือเพียงพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคและแนวร่วมภาคประชาชนนอกสภาเท่านั้น ที่มีความจริงใจ มุ่งมั่น ตั้งใจที่จะแก้ไข รัฐธรรมนูญเผด็จการคสช. ให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างจริงใจ หากแต่เงื่อนไขการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระบวนการการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถูกเหล่าลิ่วล้อบริวารของเผด็จการ สร้างเงื่อนไข กับดัก หลุมพรางไว้จนไม่อาจจะทำได้ในทางปฏิบัติ และไม่มีวันทำได้สำเร็จ เว้นแต่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพจะรวมพลังกันกดดันรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล จำใจต้องยอมแก้ไข และจะต้องกำหนดประเด็นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน 

และหากเป็นไปได้ควรจะแสวงหาแนวทางยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ เช่นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 จึงจะสามารถทำให้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง เพราะหากแก้ไขโดยไมายกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ จะไม่สามารถทำให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ได้ 

จึงขอให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ผนึกกำลังอย่างมีเอกภาพประสานกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ และทุกมหาวิทยาลัย ทุกสถาบันการศึกษา ทุกองค์กร ร่วมทำ "สัญญาประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย" แล้วขับเคลื่อน สนับสนุน ส่งเสริมกันและกันอย่างเป็นระบบ มีเอกภาพ กดดันให้รัฐบาลเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย จำยอมต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ จึงจะสำเร็จ

#ร่วมสร้าง สัญญาประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ กิมพิลวรรค์ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22

  วิเคราะห์ กิมพิลวรรค์ ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ปัญจมปัณณาสก์ บทคัดย่อ บทความนี้มุ่งเน้นว...