วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลาประมาณ 20.30น. มีความดุเดือดและเกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยได้ลุกขึ้นอภิปรายถึงคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งผลให้สมาชิกทั้งสามฝ่ายลุกขึ้นประท้วง ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นมาอภิปรายสร้างความตกตะลึงทั้งห้องประชุมรัฐสภาที่ระบุว่า
"ผมกับท่านรู้จักกันมานานแล้ว แต่งงานก็แต่งวันเดียวกัน สมรสพระราชทานเหมือนกัน ท่านเป็นรุ่นพี่ผม แต่วันนี้ท่านไม่ได้เป็นรุ่นพี่ผม เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติผม ท่านบอกจะชักปืนยิงผมตั้งแต่วันโน้น ถ้าท่านชักปืนยิงวันนั้นท่านก็ติดคุก เหรียญรามาท่านได้ ผมก็ได้ แต่ผมไม่เคยคุย ไม่เคยไปแอบอ้าง ผลงานต่างๆผมมีมากมาย พูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ ท่านจงไปทบทวนตัวท่านเอง"
ทำให้ประธานในที่ประชุมขณะนั้นคือนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ได้สักพักประชุม 10 นาที และเมื่อเริ่มประชุมใหม่ นายพรเพชร ขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถอนคำพูดเรื่องโกงเลือกตั้ง แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ถอน จึงสั่งให้ออกจากห้องประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็เดินออกจากห้องประชุมไปพร้อมกับให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงหลังถูกนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ถามว่าจะมีการปฏิวัติอีกหรือไม่ว่า การรัฐประหารครั้งที่ผ่านมา ตนไม่ได้อยากปฏิวัติเลย และทุกคนคงทราบดีว่า อะไรเกิดขึ้นบ้าง หากไม่ยุติก็อาจบานปลาย พร้อมยืนยันไม่เคยวางแผนมาก่อน ส่วนกรณีประเด็นการทุจริตคอรัปชั่น ต้องไปดูว่ากฎหมายว่าอย่างไร กลไกในการตรวจสอบเป็นอย่างไร ถ้าไม่เคารพกฎหมายแล้วพูดไปทำให้สังคมเข้าใจผิด อยากให้ไปดูว่าหน่วยงานแต่ละหน่วยงานเขาว่าอย่างไร เพราะไม่มีหลักเกณฑ์อะไรเลย แล้วมาพูดให้คนนั้นคนนี้เขาเสียหาย อันนี้ตนถือว่าไม่น่าจะรับได้ และอยากให้ไปสนใจ เรื่องโครงการจำนำจำนำข้าวต่อเนื่อง ว่าที่ผ่านมามีความเสียหายไปเท่าไหร่ มีเท่าไหร่ ที่มีคดียังอยู่ในชั้นศาลอีกนับร้อยคดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น