วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ธารน้ำใจวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ'มจร' นำสันติสุขสู่พี่น้องชาวเขาเวียดนาม



วันที่ 31 ก.ค.2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ณ หมู่บ้านเหว่ ลำ อ.นอง เซิง จ.หวาง นาม ประเทศเวียดนาม นิสิตของวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)  2  รูป คือพระภิกษุเหงียน อัง ตวน และภิกษุณีเจิง หวุย หงีม ได้ร่วมกันจัดโครงการพระโพธิสัตว์กลับสู่ขุนเขา นำร่มเงาสันติสุขสู่เวียดนาม หรือ "Come to learn Leave to serve" โดยได้นิมนต์พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร และเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัย พร้อมพุทธศาสนิกชนชาวเวียดนามร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วย

กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วยการนำรถเข็ญและปัจจัยเพื่อการดำรงชีพไปมอบให้ผู้ป่วยที่พิการทางกายภาพ เพื่อให้สามารถเกิดความสะดวกในการเคลื่อนไหวและออกนอกบ้านไปทำกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น จะเห็นว่าภายใต้หุบเขาแห่งนี้ ยังมีผู้ป่วยติดเตียงจำนวนหนึ่ง ที่เฝ้ารออุปกรณ์การรักษา และเครื่องอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ นิสิตของวิทยาลัยทั้งสองรูปซึ่งได้การกระตุ้นให้ทำกิจกรรม จึงได้ค้นหาบุคคลที่เหมาะสมต่อการช่วยเหลือในครั้งนี้



ขณะที่เด็กอีกจำนวนหนึ่งนั้น กำลังเข้าสู่การเปิดเทอมตามประเทศอาเซียนในเดือนสิงหาคม 2562  นิสิตทั้งสองพร้อมด้วยญาติโยมจึงจัดหาอุปกรณ์การเรียนมามอบให้ ทั้งดินสอ ปากกา สมุด เสื้อกางเกง และกระเป๋าใส่หนังสือ พร้อมกันนี้วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร ได้มอบทุนการศึกษาจำนวนหนึ่งเพื่อสนับสนุนโครงการที่จัดขึ้นโดยนิสิตของวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร

พระมหาหรรษา กล่าวว่า วิวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร พยายามกระตุ้นเตือนให้นิสิตกลับคืนไปสู่ประเทศของตัวเองในช่วงปิดภาคการศึกษา แล้วจัดทำโครงการเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมในประเทศของตนเองตามพุทโธบายที่ว่า "เธอทั้งหลาย จงเที่ยวไป เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลก" 

พระภิกษุและภิกษุณีชาวเวียดนามนับถือพระพุทธศาสนาสายมหายาน จึงมีจิตวิญญาณของการเป็นพระโพธิสัตว์มาตั้งแต่บวช การได้รับการกระตุ้นจากวิทยาลัย จึงเป็นการย้ำเตือนให้ออกไปทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคม ตามศักยภาพที่ตัวเองสามารถดำเนินการได้

พระมหาหรรษา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนี้จำนวนนิสิตจากประเทศเวียดนามศึกษาที่วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร อยู่ในอันดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ฉะนั้น การดำเนินโครงการช่วยเหลือสังคมในลักษณะนี้ จะเป็นการขยายฐานของวิทยาลัยไปสู่ประเทศเวียดนาม และประเทศในอาเซียนให้เป็นที่รู้จัก และตัดสินใจเลือกเข้ามาศึกษามากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น