วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

'ชูวิทย์'ชง 3 กลยุทธ์ ส.ส.คนเดียวก็ล้มรัฐบาลได้ 'หมอพรทิพย์' ยังชื่นชม 'พิธา' ชี้หมดสมัยดาวสภาเสียดสีใส่ร้าย


          
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กลยุทธ์ล้มรัฐบาล
การอภิปรายที่สภาวันก่อนไม่ได้มีอะไรใหม่ หาสาระที่ประชาชนจับต้องไม่ได้ ยังคงเป็นการสะกิดอดีต ตอบโต้ ประท้วง ยั่วยุให้โมโห ใช้ลีลาประกอบ แล้วหาช่องทิ่มแทง เป็นเรื่องปกติที่ทุกสมัยทำกันหากคิดจะเล่นของแรงเขย่ารัฐบาลได้ ต้องมีข้อมูลลับ ชนิดชาวบ้านอ้าปากค้าง ต้องให้สังคมเชื่อฝ่ายค้านมากกว่ารัฐบาล ตอนนี้เรียกว่าแค่ประลองกำลังหยั่งเชิงกันเฉยๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่ จึงขอแนะนำ จากอดีตฝ่ายค้านที่เคยอภิปรายวันแถลงนโยบายจนรัฐบาลจุกอก ดังนี้

หลักฐานเด็ด ที่ข้าราชการประจำต้องให้ความร่วมมือ (เป้าหมาย) ประเด็นที่กระทบจิตใจของสังคม ทำให้สาธารณชนตระหนัก (หัวใจ) ผู้นำเสนอ ต้องมีแรงกระตุกที่รุนแรงด้วยลูกล่อลูกชนที่ครบเครื่อง (เครื่องมือ)

ทั้งสามอย่างต้องประกอบกันด้วยสัดส่วนที่ลงตัวคือแรงสั่นสะเทือนที่หัวหน้ารัฐบาลต้องระวังตัว ยิ่งระวังมาก โอกาสที่ลิ่วล้อจะทำพลาดก็ยิ่งมาก ตามประสาการเมืองไทย
ในอดีตวันอภิปรายนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผมได้นำเสนอเรื่องบ่อนการพนันใหญ่ใจกลางถนนรัชดาภิเษก มีคนเข้าไปเล่นวันหนึ่งๆ เกือบพันคนไม่ต่างจากมาเก๊า โต๊ะพนันเรียงกันเป็นตับ ทั้งบาคาร่า ไฮโล ตู้สล็อต โดยมีหลักฐานเด็ดเป็นคลิปวิดีโอชัดเจน ตรงเป้าหมายตามข้อที่ 1 เพื่อทำให้เห็นว่า ตำรวจดูแลไม่ทั่วถึง หรือมีไฟเขียวให้เปิดได้

แม้มีคนเตือนผมว่าที่นี่ของแรง อย่าบังอาจไปแตะ แต่ผมไม่เชื่อ มั่นใจว่าเป็นพวกแอบอ้างมากกว่า จึงต้องลองของ เพราะของยิ่งแรง รัฐบาลยิ่งพัง จึงส่งสายลับกล้าตายแฝงตัวไปถ่ายคลิปเป็นหลักฐาน แต่ผมขาดความร่วมมือจากข้าราชการประจำ (แน่นอนว่าหากตำรวจดีๆ ในยุคนั้นให้ความร่วมมือ หรือหากยุคนี้มีทหาร หน่วยราชการอื่นๆ ดีๆ ช่วย ผลออกมาต้องพังมากกว่านี้หลายเท่าทวีคูณ)

หลังจากผมอภิปรายเสร็จ ด้วยความเอื่อยเฉื่อย ล่าช้า โยกโย้อยู่ 3 วัน หลักฐานขนาดบ่อนทั้งบ่อน จึงไปกับขบวนรถสิบล้อที่ขนอุปกรณ์หนีทั้งคืน จนหายวับไปกับตา เป้าหมายของผมตามข้อ 1 จึงได้ผลเพียง 50%
          
แต่ในข้อ 2 ผมได้ 100% แน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อสังคม บ่อนการพนันเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเห็นได้ด้วยตาเปล่า แสดงให้เห็นถึงการทุจริตคอรัปชั่นของข้าราชการ อันถือว่าเป็นหัวใจให้ประชาชนได้รับรู้ ส่วนเครื่องมือในข้อ 3 ประกอบด้วยตัวผม ลีลานำเสนอ และจังหวะจะโคน อันทำให้ครั้งนั้นผมได้คะแนนความน่าเชื่อถือของข้อมูลต่อสาธารณะเกือบเต็ม 100% 

ทำไมคนถึงเชื่อผมมากกว่ารัฐบาล? แค่ฝ่ายค้านที่กล้าเพียงคนเดียว เชื่อเถอะครับ ว่าสามารถล้มรัฐบาลได้ แต่ฝ่ายค้านคนนั้นต้องมี 3 อย่างประกอบกันถึงจะถล่มรัฐบาลได้ไม่ว่าเรื่องไหน ไม่มี 3 อย่างนี้ ก็ยากที่จะคิดไปล้มตอ หากจะไปเอาเรื่องที่ชาวบ้านจับต้องไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว มันไม่มีแรงกระเพื่อมแต่อย่างใด

เมื่อมวลชนไม่มี นักการเมืองพูดไปก็ไร้ความหมาย เหมือนคนดูมวย ชกไม่สนุก ไม่ต้องลุ้นตอนจบก็รู้อยู่แล้วว่าใครชนะ แต่หากขยันปล่อยหมัด แม้ว่าแพ้คะแนน แต่ชนะใจคนดู ครั้งหน้ารัฐบาลยิ่งกลัว รอจังหวะเผลอวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลไม่ล้ม แต่หมดความน่าเชื่อถือ
รอนับวันเลือกตั้งใหม่

กลยุทธ์ล้มรัฐบาลการอภิปรายที่สภาวันก่อนไม่ได้มีอะไรใหม่หาสาระที่ประชาชนจับต้องไม่ได้ ยังคงเป็นการสะกิดอดีต ตอบโต้…


'หมอพรทิพย์'ยังชื่นชม'พิธา' ชี้หมดสมัยดาวสภาเสียดสีใส่ร้าย

ขณะที่คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว แสดงความชื่นชม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อจากพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้อภิปรายเกี่ยวกับนโยบายทางการเกษตรของรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ความว่า 

"ในท่ามกลางวิถีการอภิปรายในสภาสองวันที่ผ่านมาที่มีการอภิปรายกระทบกระแทกแดกด่า คัดค้าน ตอบโต้ไปมา มีหนึ่งเสียงที่ด้วยเนื้อหาและภาพลักษณ์ทำให้สะดุดใจว่าวิธีพูดวิธีคิดน่าสนใจ จนได้รู้จัก แม้จะอยู่พรรคที่แสดงแต่ผลงานก้าวร้าว น่าสนใจว่าเขาเป็นใครมีประสบการณ์อย่างไรจึงมาอยู่ ณ เวทีนี้
          
บังเอิญได้สนทนากันก็ให้สนใจว่าเขาแสดงความนอบน้อม และเมื่อบอกเขาว่ากลุ่ม ส.ว. หลายท่านที่นั่งไม่ไกลนักกล่าวชื่นชม หนุ่มน้อยได้แสดงวิถีที่ไม่คาดฝัน เขาขอบคุณที่บอกและบอกว่าอยากจะขอบคุณด้วยตัวเอง แทบไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นอัธยาศัยเช่นนี้ในคนรุ่นใหม่ที่จบจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และไปเรียนต่อเมืองนอกในสาขาที่น่าสนใจยิ่ง ที่สำคัญเขาทราบว่าหมอจบจากวัฒนาวิทยาลัยทำงานอะไรมา ส.ส. คนนี้เป็นอนาคตของชาติที่น่าติดตาม
          
ก่อนจากกันไปทำหน้าที่ต่อ ได้อวยพรให้เขาดำรงตนเป็นนักการเมืองคุณภาพรุ่นใหม่ ที่สำคัญอย่าลืม หรือดูถูกอดีตของแผ่นดิน อยากเห็นพรรคการเมืองต่างๆ เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่เช่นนี้ที่เก่ง ตั้งใจใช้ความสามารถพัฒนาประเทศ มีความนอบน้อม ลงเวทีการเมืองแสดงความสามารถ หมดสมัยใช้วิธีดึงอดีตเสียดสีใส่ร้าย โป้ปดมดเท็จแล้วค่อยขอถอน ช่วยกันใส่น้ำดีในระบอบการเมือง ก็จะไม่มีใครสามารถปฏิวัติได้อีก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กรมการจัดหางาน ตอบโจทย์มนุษย์ฟรีแลนซ์ เปิดพื้นที่ดีลงาน ผ่านแพลตฟอร์ม “คนทำงาน”

  กรมการจัดหางาน เปิดตัวแหล่งบริการงานอิสระโดยภาครัฐ ปลอดภัย ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ชวนผู้ว่าจ้าง + คนทำงานอิสระ ประกาศหางาน หาคน ที่แพลตฟอร์ม ...