วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

"พลังธรรมใหม่"ค้าน นำ CPTPP เข้าครม. พบแล้วใครชง



วันที่ 27 เม.ย. 2563  เมื่อเวลา 10.30 น.นายทศพล แก้วทิมา รองหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ในนามของพรรค โดยระบุถึงเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้ชะลอการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน ด้วยเหตุผลดังนี้ 

1.การเข้าร่วม CPTPP ของไทยจะทำให้ไทยต้องรับเงื่อนไข หรือข้อผูกพันที่จะกระทบต่อประชาชน ซึ่งปัจจุบันยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมที่เกิดจากปมความเหลื่อมล้ำและความเป็นชนชั้น เนื่องจากกลุ่มที่ได้ประโยชน์จะเป็นภาคธุรกิจและการลงทุนขนาดใหญ่ กลุ่มทีได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิต คือประชาชนทั่วไป และเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรของประเทศที่มีฐานะยากจน       
        
2.กระทรวงพาณิชย์ยอมรับประเด็นข้อกังวล เรื่องสิทธิบัตรยา การคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ทรัพย์สินทางปัญญา และการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ รวมทั้งเรื่องภาษีการค้าระหว่างประเทศก็ยังไม่มีความชัดเจน  โดยมีการศึกษาเพื่อจัดเตรียมกลไกช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร SMEs และผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากความตกลงCPTPP ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีอยู่จริงของผลกระทบด้านลบที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติ
       
3.ปัจจุบัน ประเทศไทยและประชาคมโลก กำลังเผชิญกับภัยพิบัติจากเชื้อโรคร้าย “โควิด-19” ทำให้มีผู้ติดเชื้อนับล้านคน เสียชีวิตนับแสน และยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่มีความเข้าใจตรงกันว่าเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและจบลง สังคมโลกใหม่จะไม่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่วิถีของการดำรงชีวิตจะเปลี่ยนไป ซึ่งคาดการว่าข้อตกลงใดๆ ของประชาคมโลกก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับความตกลงการเป็นสมาชิกหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งใช้ข้อมูลก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะกลายเป็นข้อมูลเก่าที่ควรนำมาทบทวนใหม่ ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
          
4.การนำเรื่องการเข้าสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) มาพิจารณาในสถานการณ์ที่ประเทศประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน และมีการประกาศเคอร์ฟิวไปทั่วประเทศ จะทำให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาล โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี ที่จะถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจพิเศษในการ “อุ้มนายทุนและทิ้งคนจน”    ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานในการจัดการกับเชื้อโรคร้าย และการฟื้นฟูประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นและความศรัทธาต่อผู้นำอย่างมาก
           
ดังนั้น พรรคพลังธรรมใหม่ มีความเห็น ว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 28 เมษายน 2563 ไม่ควรนำเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP)  เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณา เพราะไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน แต่หากมีการนำเข้าพิจารณาก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ในการบริหารสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ต้องได้รับความร่วมมือจากคนไทยทั้งประเทศ
          
ทั้งนี้นายทศพล เปิดเผยว่า ทางพรรคพลังธรรมใหม่ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องนี้ไป พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วง 10.00 น.ที่ผ่านมาแล้ว 

ขณะที่ เพจ"ประสิทธิ์ชัย หนูนวล" ได้โพสต์ข้อความว่า 

พบแล้วคนเสนอเรื่องเข้า ครม.
ชงเรื่องให้ไทยเข้าร่วม CPTPP ที่จะมีผลกว้างขวางต่อประเทศไทยไม่เพียงการผูกขาดเมล็ดพันธุ์

คนเสนอเรื่องนี้คือ พรรคประชาธิปัตย์
โดย หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ในฐานะ รมต.กระทรวงพานิชย์

การกระทำของประชาธิปัตย์คราวนี้เท่ากับว่า กำลังประกาศสงครามกับประชาชน เพราะความมั่นคงอาหาร การผูกขาดเมล็ดพันธุ์และยารักษาโรคเป็นด่านสุดท้ายที่ประชาชนต้องรักษาไว้ ไม่เพียงประชาธิปัตย์จะมีส่วนสำคัญในการทำให้เกิดการผูกขาดเมล็ดพันธุ์ แต่กำลังส่งผลต่อยารักษาโรค และระบบเศรษฐกิจอื่นที่มีผลอย่างกว้างขวาง เอื้อประโยชน์ทุนใหญ่และต่างชาติ ประชาธิปัตย์ยังมีเวลาในการถอนญัตติเรื่องนี้ออกจาก ครม.ในการประชุมวันพรุ่งนี้

ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งคราวหน้าประชาธิปัตย์เตรียมตัวสูญพันธุ์

คิดให้ดีนะครับ
ใครเป็นสาวก ปชป.ส่งคำเตือนไปด้วยครับ

ในฐานะนักการเมือง
พวกคุณต้องรับผิดชอบต่อหายนะครั้งสำคัญนี้

#nocptpp
#ปชป.ต้องถอน

ก่อนหน้านี้ เพจ ประสิทธิ์ชัย หนูนวล ได้โพสต์ว่า 

แถลงการณ์ถึงรัฐบาลขอให้ยุติการเข้าร่วม CPTPP 

ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) มีผลกระทบต่อประเทศไทยหลายประการโดยเฉพาะประเด็นด้านยาและพันธุกรรมพืช ในส่วนของพันธุกรรมพืช เมื่อไทยเข้าร่วม CPTPP ส่งผลให้.ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญา UPOV1991

โดยอนุสัญญานี้ ทำให้ประเทศไทยต้องแก้ไขกฎหมายภายใน โดยต้องขยายสิทธิผูกขาดให้แก่บรรษัทเมล็ดพันธุ์ ห้ามเกษตรกรเก็บพันธุ์พืชไปปลูกต่อ รวมไปถึงการผูกขาดผลผลิตและผลิตภัณฑ์ ขยายระยะเวลาการผูกขาดจากที่กำหนดไว้ส่วนใหญ่ 12 ปี เป็น 20 ปี

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรจึงกว้างขวางมากเพราะ อนุสัญญา UPOV 1991 ทำให้เกษตรกรต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากเจ้าของพันธุ์ทุกฤดูเพาะปลูก หากเกิดสถานการณ์พิเศษ เช่น การขาดแคลนอาหาร พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชของไทยฉบับที่ใช้ปัจจุบัน เปิดช่องให้รัฐสามารถออกมาตรการเพื่อจำกัดสิทธิของเจ้าของพันธุ์ได้ แต่ อนุสัญญา UPOV 1991 ไม่มีข้อยกเว้นสิทธิใดๆ เลย รวมถึงยังระบุให้รับรองพันธุ์พืชที่เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรม

เมื่อพิจารณาสาระของอนุสัญญาดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทุนใหญ่ในการควบคุมพันธุกรรม ภายใต้สิทธิบัตร ปิดกั้นโอกาสการปรับปรุงพันธุของเกษตรกร ในทางธุรกิจจะทำให้บรรษัทใหญ่ร่ำรวยมหาศาลจากกติกานี้และท้ายที่สุดจะนำไปสู่การคุมระบบอาหาร โดยหากจะคุมระบบอาหารต้องคุมปัจจัย ๓ ประการคือ ที่ดิน น้ำ เมล็ดพันธุ์ และรัฐบาลประสบความสำเร็จใน๒ปัจจัยแรกแล้ว เหลือเพียงปัจจัยเมล็ดพันธุ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

การเกิดขึ้นของรัฐบาลรัฐประหารได้ทำลายแผ่นดินไทยในหลายระบบ ฐานที่มั่นสุดท้ายของประชาชนคือความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการมีชีวิตอยู่ ในขณะที่อาหารมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุด มีความจำเป็นสูงสุด หากรัฐปล่อยให้กลุ่มทุนทำลายฐานที่มั่นสุดท้ายของประชาชน เท่ากับรัฐยกแผ่นดินไทยให้กลุ่มทุนจัดการ เมื่อเป็นเช่นนี้ การใช้คำว่า ‘ทรราช’ กับทหารและกลุ่มทุนรวมถึง ครม.ในรัฐบาลชุดนี้ไม่เพียงพอที่จะอธิบายพฤติกรรมอันเลวร้ายนี้ได้

การประกาศเข้าร่วมกับกับ CPTPP ของรัฐบาลชุดนี้เท่ากับเป้นการทำลายล้างความมั่นคงอาหารของประชาชน ซึ่งไม่ต่างจากการประกาศสงครามกับประชาชน หากวันที่ ๒๘ เมษายน ครม.มีมติให้เข้าร่วมกับ CPTPP เท่ากับว่ารัฐบาลประกาศสงครามกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลทำเรื่องเลวร้ายต่อประเทศนี้มากมายเหลือเกิน จนไม่สามารถประดิษฐ์คำมาสาธยายได้อีกต่อไป นอกจากประชาชนต้องลุกขึ้นมาประกาศสงครามกับกลุ่มนายพลที่รวมหัวกับกลุ่มทุน ภายใต้รัฐบาลรัฐประหารจนถึงรัฐบาลปัจจุบัน

เราขอประกาศว่าการทำลายความมั่นคงอาหารเท่ากับการประกาศสงครามกับประชาชน

26 เมษายน 2563 

เครือข่ายประชาชนเขียนอนาคตประเทศไทย
มูลนิธิภาคใต้สีเขียว
เครือข่ายเกษตรอินทรีย์วิถีเมืองลุง
ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดพัทลุง
เครือข่ายเมล็ดพันธุ์ยาใส้ยาใจ
วิทยาลัยรวงข้าวพัทลุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพลงเตมียะชาดกแนะทางแห่งปัญญา

ເນື້ອເພງ :: #ດຣສົມພົງສ໌ ທຳນອງ: - ຮ້ອງໂດຍ #suno   เตมียะชาดกแนะทางแห่งปัญญา (Verse 1)  เตมียะชาดก บอกเล่าเรื่องราวแสนไกล เจ้าชายผู้อ่อนวัย แต...