รายงานข่าวจาก วัดไผ่แขก อ.เมืองสุพรรบุรี แจ้งว่าเมื่อวันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2567ผ่านมา ทางวัดโดยทีมงานพี่เสือนำโดยป้อม สกลนคร และ นิภัทร์ สมาร์ทอิมเมท ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก เหรียญ ลป.ดุสิต สุจิณโณ รุ่นเหนือดวง
ในพิธีพุทธาภิเษกวันดังกล่าว ลูกศิษย์ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาเพื่อเช่าเหรียญรุ่นดังกล่าวแต่ต้องผิดหวังไปทุกรายเนื่องจากวัตถุมงคลรุ่นนี้ถูกต้องหมดเกลี้ยงไปก่อนหน้านี้ เป็นเดือน ขณะเดียวกันเหรียญชุดองค์ครู ที่เปิดจองก่อนพิธีปลุกเสกเพียงครึ่งชั่วโมงก็หมด
พิธีการปลุกเสกเหรียญรุ่นดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ช่วงคือ เสกกลางวันและกลางคืน ในฤกษ์วันเพ็ญจันทร์เต็มดวง ช่วงกลางวันเรียกว่าพิธีสุริยันจันทรา ส่วนช่วงกลางคืน เรียกว่าพิธีทิวาราตรี เสกกลางสระน้ำพันปีของเมืองสุพรรณ มีฆารวาสผู้เรืองเวทย์สายฤาษีมาร่วมปลุกเสกด้วย
ประมาณ 15:00 น. เริ่มเปิดจององค์ครู ณ บริเวณพิธี พร้อมกับเสกเหรียญ เวลา 16:00 น. เวลา ประมาณ17:30 น พิธีบรวงสรวง เทวดาฟ้าดิน
ประมาณ 19:00 น.พิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล ในคืนพระจันทร์เต็มดวง (วันเพ็ญเดือน12) กลางน้ำ เพื่อให้เป็นศิริมงคลอย่างที่สุด
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ผู้จัดสร้างได้นำเหรียญรุ่นดังกล่าวเข้าพิธีปลุกเสก 2 วาระ คือ เสกมวลสาร โดย ลป.ปู่ดุสิต วันที่ 12 ตุลาคม 2567 และ วาระที่ 2 เสก วันที่ 31ตุลาคม 2567 โดยพระอาจารย์ต้อม เเละพระอาจารย์เด่นดวง
นายนิภัทร สุวาส CEO บริษัท สมาร์ทอิมเมจ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในหัวหน้าทีมพี่เสือ บอกว่า เหรียญ ลป.ดุสิต สุจิณโณ รุ่นเหนือดวงถือว่าเป็นเรื่องรุ่นสุดท้ายของปี 2567 ยิ่งได้รับกระแสความนิยมมากยิ่งขึ้น
แม้จะรู้และมีข้อมูลว่า มีกระแสจองมากกว่ายอดที่ประกาศสร้าง 3 เท่า แต่ทางผู้สร้างก็ยืนยัน สร้างจำนวนเท่าเดิม ยิ่งทำให้ได้รับความยิ่งกลมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว เหตุที่ทำให้พระที่จัดสร้างโดยทีมที่เสีย ไม่ว่าจะเป็นเกจิรูปใดวัดใด ทางทีมพี่เสือจะให้ความสำคัญทุกขั้นตอน
เหมือนกันทุกรุ่นทุก ปดละเมื่อประกาศไปแล้วสร้างเท่าใดก็จะสร้างเท่านั้น ไม่ได้มีการสร้างเพิ่มตามกระแสความนิยมแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ที่ศึกษาสะสมพระเครื่อง มีความมั่นใจในการจัดตั้งของกลุ่มพี่เสือ
นายนิภัทร ยังบอกด้วยว่า ประเด็นเรื่องการปั่นราคา ขอตอบได้เลยว่า ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกของตลาด ตามประสบการณ์ของผู้นำไปใช้ ที่สำคัญคือมีจะมีลูกค้าจากต่างประเทศมาซื้อ ในแต่ละรุ่นล้วนได้รับความนิยมจากต่างชาติทั้งสิ้น
"ทั้งลาวมาเลย์สิงคโปร์จีน ซึ่งถือว่าเป็นตลาด พระเครื่องที่ใหญ่ ลูกค้าจากต่างประเทศเป็นที่รู้กันว่า จะสะสมเช่าซื้อพระที่มีประสบการณ์เท่านั้น เขาซื้อไปใช้พุทธคุุณไม่ได้ซื้อไปเพื่อเก็งกำไร"
ในขณะที่ นายเกรียงไกร จิระสวัสดิ์ตระกูล หรือ "ป้อม สกลนคร" หัวหนัาทีมพี่เสือ มือวางอันดับ ๑ "อาจาย์ฝั้น-หลวงปู่ทิม" ผู้จัดพิมพ์หนังสือ "อมตะพระเครื่อง พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร"
ให้ข้อมูลว่า ได้ใช้ประสบการณ์ของการอยู่ในวงการพระเครื่องมาหลายสิบปี มาใช้ในการสร้างพระใหม่ การสร้างพระเหรียญในยุคปัจจุบัน จะแตกต่าง ฝในอดีตมาก กันมาก โดยเฉพาะการมีโค้ดที่ชัดเจนและ รันนัมเบอร์ องค์พระ ทำให้ง่ายต่อการศึกษาเก็บสะสมของคนเล่นพระใหม่
ทั้งนี้ถ้ามีการทำปลอมขึ้นมา จะยากมากยิ่งขึ้นเพราะต้อง ปลอมหลายๆอย่าง เช่น เนื้อหามวลสาร รูปแบบ การรันนัมเบอร์ และโค๊ด ด้วยเหตุนี้พระใหม่จึงได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ
สำหรับชาติภูมิของ "พระอาจารย์ดุสิต สุจิณโณ" หรือ"หลวงปู่ดุสิต" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไผ่แขก (วัดอุทุมพราราม) ต. ดอนโพธิ์ทอง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ศิษย์สายตรงหลวงปู่ทวน เจ้าอาวาสวัดไผ่แขก (ศิษย์รุ่นสุดท้ายหลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลย์ ) และศิษย์พุทธาคมหลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์(แคแถว) จ.นครปฐม
ท่านมีชื่อเสียงในเรื่องการจารมือ ลงนะเศรษฐี เสริมกำลังใจ อีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้ที่สร้าง "ขุนช้าง"ขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาที่เกี่ยวกับโชคลาภ ทรัพย์สิน โดยได้สร้างรูปเคารพ ขุนช้าง ไว้ในวัดไผ่แขก เพื่อให้ผู้มีความศรัทธาได้ไปกราบไหว้ขอพรกัน
ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มี.ค. 2521 ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 5 ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นบุตรของโยมพ่อปรีชา โยมแม่นันทา พุชชงค์ มีพี่น้อง 2 คน ครอบครัวมีอาชีพทำนา ทำไร่ หรือรับจ้างทั่วไป ฐานะพอกินพอใช้
ท่านมีนามเดิมว่า "ดุสิต" ชื่อเล่นว่า "ดี" แต่ไม่ค่อยมีใครเรียกนอกจากโยมพ่อโยมแม่เท่านั้น ชื่อเล่นจึงหายไป สาเหตุก็เพราะท่านคลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักตัวไม่ได้ตามที่หมอกำหนด และมีเลือดออกทางสะดือจนตัวเขียว หมอจึงให้โยมทั้งสองนำกลับมาบ้านและบอกให้ทำใจ
แต่ด้วยบุญบารมีของท่านจึงลอดตายจากครั้งนั้นมาได้ก็ด้วยเพราะมีญาติข้างแม่เป็นหมอยาสมุนไพรจึงให้ไปเจียดยามาตามที่บอกแล้วให้ไปจุดธูปบอกหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์แล้วให้นำขี้ธูปมาผสมกับดินสอพองเผาไฟและตัวยาสมุนไพรป้ายไปที่สะดือประมาน1สัปดาห์เลือดจึงหยุด ท่านจึงรอดมาทุกวันนี้ โยมพ่อโยมแม่จึงตั้งชื่อว่า"ดี" เพื่อแก้เคล็ด
วัยเยาว์สนใจเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และชอบช่วยแบ่งเบาภาระโยมทั้งสองด้วยการทำความสะอาดบ้านเรือนเท่าที่ทำได้ ที่สำคัญ ท่านมีความสนใจเกี่ยวกับตำรา และพิธีต่างๆทางไสยศาสตร์ซึ่งเป็นตำราของญาติข้างพ่อคือปู่ทวดที่ตกทอดกันมาจึงตั้งใจศึกษาตำราเก่าของปู่ทวดจนเชี่ยวชาญแตกฉาน
ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลวัดป่าเลไลย์วรวิหาร จนจบชั้นป.6 แล้วศึกษาต่อที่ศูนย์ กศน.วัดกลาง บางปลาม้าจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
อายุ22ปีเข้าอุปสมบท ณ วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ 22 เม.ย. 2543 โดยมีพระมหาจำนงค์ วรวตโณ ( ปธ.9) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดป่าเลไลยก์ และเจ้าอาวาสวัดพังม่วง จ.สุพรรณบุรี ต่อมาได้เลื่อนเป็น"พระศรีคุณาธาร" (มรณภาพแล้ว) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสังฆ์รักษ์นุช สุขวัฒโณ (ปัจจุบันลาสิกขาแล้ว) เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระมหาสุธีร์ ธีรปญฺโญ (ปัจจุบันดำรง ตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ มีสมณศักดิ์พระครูพิพัฒน์วุฒิกร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า"สุจิณโณ"
หลังบวชมุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมชั้นเอกในปี 2547 แล้วเดินทางไปจ.นครปฐมศึกษาตำราต่างๆจาก"หลวงพ่อแป๊ะ" เกจิดังวัดสว่างอารมณ์ (แคแถว) จนแตกฉานเป็นที่ยอมรับของญาติโยม มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะทางด้านเมตตาค้าขาย
สำหรับพระอาจารย์อีกรูปที่ท่านเคารพรักมากคือ พระครูพิสุทธิ์สมณการ หรือ"หลวงปู่ทวน" วัดอุทุมพนาราม ผู้เป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลย์ เป็นผู้สอนวิชาอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญและสอนผสมพระผงขุนช้าง จนทำให้วัดไผ่แขกดังจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ หลวงปู่ทวนเป็นผู้สืบสานตำราปลุกเสกเสือจาก "หลวงพ่อเต๋ย" วัดสำปะซิว ซึ่งท่านได้ธุดงค์ไปยังจังหวัดสมุทรปราการและเรียนวิชาปลุกเสกเสือพยัคฆ์จากหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ยจนสำเร็จจึงเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดสำปะซิว. หลวงปู่ทวนจึงเดินทางมาขอเรียนวิชาเสกเสือพยัคฆ์กับหลวงพ่อเต๋ยจนสำเร็จและยังไปขอเรียนวิชาเสกเสือพยัคฆ์เพิ่มเติมกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่อีกด้วยจนเป็นที่ยอมรับของพระเกจิอาจารย์สายสุพรรณบุรีว่า ไม่มีใครชำนานในการเสกเสือพยัคฆ์เท่ากับหลวงปู่ทวน วัดไผ่แขก
ปัจจุบันหลวงปู่ทวนมีอายุ86 ปี สุขภาพท่านไม่ค่อยดีจึงถ่ายทอดวิชาเสกเสือพยัคฆ์ให้กับหลวงปู่ดุสิต และมอบหมายให้ท่านสนองงานการบูรณะภายในวัดไผ่แขกให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป นอกจากนี้ หลวงปู่ทวนยังถ่ายทอดวิชาอาบน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้อาบน้ำมนต์ให้ญาติโยม
ใครที่มาวัดไผ่แขกรับรองไม่ผิดหวังไม่ขาดทุน เพราะวัดนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะกราบไหว้ขอะร อาทิ หลวงพ่อเสด็จประทานพร และ หลวงพ่อทันใจเก้าหน้า อีกทั้งยังมี2พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาคอยให้คำแนะนำแก่ญาติโยมที่เดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือด้วยความเมตตาอย่างยิ่ง
ติดตามการจัดสร้างได้ทึ่สำหรับผู้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวการจัดสร้างวัตถุมงคลทุกรุ่นของ "ทีมพี่เสือ" ได้ที่..
https://www.facebook.com/groups/ 1242269399567579/?ref=share_group_link
ชมพิธีปลุกเสกได้ที่ คลิปแรก.. บวงสรวงเข้มขลัง.ปลุกเสกเหรียญเหนือดวง ลป.ดุสิต สุจิณโณ https://youtu.be/wWvOLG4paz4
คลิป2....เสกด้วยคาถาอะไร??..."มียันต์อะไร" เหรียญเหนือดวง ลป. ดุสิต สุจิณโณ วัดไผ่แขก อ.เมืองสุพรรณบุรี https://youtu.be/11bZGw1Evhc
คลิป3.ปลุกเสกเหรียญ ลป.ดุสิต กลางสระน้ำโบราณพันปี @วัดไผ่แขก https://youtu.be/YZxqT9RAH14
เพลง: เหรียญเหนือดวง
ເນື້ອເພງ : ດຣສົມພົງສ໌
ທຳນອງ - ຮ້ອງໂດຍ : suno
(Verse 1)
กลางน้ำสะท้อนแสงพระจันทร์เต็มดวง
เสียงสวดคอยขับขานศรัทธา
แสงทองของเหรียญที่ฝ่าฟันผ่านกาลเวลา
เป็นพลังจากในดวงใจผู้ศรัทธา
(Verse 2)
ในพิธีสุริยันจันทรา เสกเหรียญล้ำค่า
ส่องแสงระยิบเหมือนดวงดาวบนฟ้า
ทั้งโลกยามนี้รู้ดีว่าไม่มีอะไร
ที่ศรัทธาจะพ่ายไป แม้เวลาผ่านไป
(Verse 3)
จากลำน้ำที่มีเสียงพิธีบูชา
ทุกคนมองเห็นความสำเร็จที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง
ลูกศิษย์ในฝันเติบโตในบารมี
เหรียญนี้เป็นเกียรติยิ่งกว่าทองคำใด
(Chorus)
เหรียญเหนือดวง ความศรัทธาก้าวไป
จากไผ่แขกถึงใจของเรา
ท่านสร้างมาเพื่อความมั่นคงในทางธรรม
ยิ่งลึกซึ้งยิ่งไกล ทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มี
(Outro)
เมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงส่องแสง
พระพุทธคุณส่งให้เราผ่านทุกข์ยาก
ทุกเหรียญที่เก็บไว้ในใจของเรา
จะส่องแสงนำทางไปสู่ความสุขที่แท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น