วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2566

การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า : ความสำเร็จของมนุษยชาติ ดร.มงคล นาฏกระสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร



วิสาขบูชา วันขึ้น ๑๕  ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันพระใหญ่สุดและวันสำคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา ทำไมวันนี้จึงสำคัญที่สุด เพราะเป็นวันที่เกี่ยวกับพุทธประวัติ พุทธกิจ พุทธธรรมของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีการประสูติ ตรัสรู้หรือปรินิพพาน ขาดตอนใดๆตอนหนึ่ง คงจะไม่มีพระพุทธศาสนา ศาสนาเพื่อมนุษยชาติให้เราพุทธได้นับถือ บูชาสักการะ ปฏิบัติและมีวิธีแก้ทางดับทุกข์มาถึงทุกวันนี้ได้


ประสูติ : การพิสูจน์ทดลองศักยภาพของมนุษย์

    จากพุทธประวัติในปฐมโพธิกาล เจ้าชายสิทธัตถะกำเนิดจากพระครรภ์ของพระมารดา การเลี้ยงดู ให้การศึกษาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์ ทรงนำมาใช้ก็คือสติปัญญาที่มีอยู่ในตัวมนุษย์เอง ได้แก่

  - การสังเกตและมองเห็นปัญหา แม้พระบิดาจะพยายามปิดบังสภาพความเป็นจริงในโลกมนุษย์ แต่ไม่สามารถปิดปังความคิดในการค้นคว้าความจริงได้ และยิ่งเห็นความจริงจากเทวทูตทั้ง ๓ คือ แก่ เจ็บ ตายของคน แต่ทำไมมนุษย์จึงไม่คิดจะแก้ไข จึงตัดสินพระทัยแน่วแน่ในการริเริ่มแสวงหาหนทางด้วยพระองค์เอง

    - การทดลองของจริง เมื่อทรงเห็นปัญหาที่แท้จริง ก็ทรงทุ่มเททั้งชีวิตและสติปัญญาทุกขุม กำลัง เช่น

  ๑.เริ่มต้นด้วยหาข้อมูล ด้วยการจาริกไปตามสำนักครูต่าง ๆ    

 ๒.พยายามพิสูจน์ทดลองทฤษฎีเก่าต่าง ๆ ของการแก้ทุกข์ทั้งปวงในสมัยนั้น

    ๓. มีเป้าหมายที่ชัดเจน แสวงหาแนวทางที่ดีกว่า เมื่อทรงทดลองจนพบว่า วิธีการดังกล่าว ไม่ใช่แนวทาง ทรงไม่ยึดติดกับแนวทางเก่า เมื่อไม่ใช่ ก็ทรงเปลี่ยนทันที โดยยอมเสียสละแม้กระทั่งพระวรกาย (บำเพ็ญทุกกริยา) จนค้นพบอริยมรรคมีองค์ ๘ มัชฌิมาปฏิปทา ทางแก้ทุกข์ที่แท้จริง ทรงริเริ่ม ทดลอง ค้นพบพุทธธรรมด้วยศักยภาพของมนุษย์ในตัวพระองค์เอง


ตรัสรู้ : ประกาศความสำเร็จแก่มนุษยชาติ

    วันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ในการประกาศความสำเร็จในศักยภาพของมนุษยชาติที่ไม่เคยมีผู้ใดทำมาก่อน เพราะก่อนหน้านั้น มนุษย์ล้วนพึ่งพาอำนาจเหนือธรรมชาติหรือจากเทพเจ้าทั้งหลาย

    การตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นการประกาศอิสรภาพจากพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก โดยมาพึ่งพาสติปัญญาของมนุษย์ โดยการประกาศเรื่อง "#กรรม" เป็นหัวใจหลักของพระพุทธศาสนา

    นอกจากนี้ การตรัสรู้ของพระพุทธองค์ยังเป็นการแสดงถึงงานที่ยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนา คือ การเผยแผ่ธรรมะ ทำให้เกิดศาสนาพุทธ งานของพระพุทธเจ้า เป็นงานที่มีอุดมคติสูงสุด คือ เป็นงานอมตะ เป็นงานที่มีคนสืบต่อมากที่สุด ไม่เหมือนงานของมนุษย์คนอื่นที่ทำแล้วก็ค่อยหายไป พ.ศ.คือ งานที่องค์พุทธะยังทรงดำเนินอยู่ เป็นงานที่มีมูลค่าหาปริมาณมิได้ และยังคงมีคนทำสืบทอดต่อจากพระพุทธองค์ แม้จะปรินิพพานนานแล้วถึง ๒๕๖๖ ปีก็ตาม มีงานอะไรที่ทำแล้วคุ้มค่าขนาดนี้

#ปรินิพพาน : #ประกาศสัจจธรรมที่ไร้กาลเวลา

    การปรินิพพานของพระบรมศาสดา ได้ประกาศสัจจธรรม ๓ ประการ

    ๑. พุทธธรรมที่ทรงค้นพบเป็นอมตะธรรมไม่มีกาลเวลา เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่มหาชนทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกยุคสมัย

    ๒. ก่อตั้งพระพุทธศาสนาไว้กับโลก เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่มนุษย์ใช้สติปัญญาของมนุษย์เองอย่างมีประสิทธิผลมาแล้ว

    ๓. ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นอะไร หรือใคร จะยิ่งใหญ่แค่ไหน จะมีชื่อเสียงเพียงใด หรือมีทรัพย์สมบัติเพียงใด ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกฎธรรมชาติ แม้แต่องค์พระบรมศาสดาก็ยังปรินิพพาน เป็นปกติธรรมดา...

      เมื่อเราได้เห็นการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในมุมมองแตกต่างไปกว่าความมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์ใด ๆ ก็จะพบว่าการอุบัติขึ้นขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอุบัติขึ้นเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เพื่อการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มนุษยชาติทั้งหลาย จะได้ภาคภูมิใจ ที่เราชาวไทยโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา และจะได้ใช้โอกาสในวันวิสาขบูชานี้น้อมตนปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไม่ลังเลสงสัยอีกต่อไป ขอถวายบทความนี้เป็นพุทธบูชา เพื่อความมั่นคงและตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนาตลอดไป สาธุ

    จิรํ ติฏฺฐตุ พุทฺธสาสนํ ขอให้พระพุทธศาสนาจงตั้งมั่นตลอดกาลนาน..เทอญ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น