วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564

"อนุทิน" เผยปัตตานีคุมโควิด 19 ได้ดีย้ำเข้มเฝ้าระวังลักลอบข้ามแดน


รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย จ.ปัตตานี ควบคุมโรคโควิด 19 ได้ดี ทั้งคัดกรองผู้เดินทางจากสมุทรสาครในช่วงต้นการระบาด ผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้กักตัวเอง 14 วัน ค้นหา เชิงรุกแรงงานต่างด้าว ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ มีความพร้อมจัดตั้ง รพ.สนาม 3 แห่ง ย้ำต้องเข้มการลักลอบข้ามแดนจากมาเลเซีย ยันวัคซีนโควิด 19 มีประสิทธิภาพสูงช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต 

วันที่ 16 มกราคม  2564 ที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขผู้ประสบอุทกภัย จ.ปัตตานี พร้อมนำถุงยังชีพยา และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ได้แก่ ยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม 1 หมื่นชุด ยาน้ำกัดเท้า 1 หมื่นหลอด ผงน้ำตาลเกลือแร่ 2 หมื่นซอง คลอรีนผง 10 ถัง และสารส้ม 10 กระสอบสนับสนุนการช่วยเหลือและให้บริการประชาชนในพื้นที่

นายอนุทินกล่าวว่า  วันนี้ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการและเฝ้าระวังคือ โรคติดต่อที่มากับน้ำท่วมและหลังน้ำลด เช่น โรคตาแดง โรคน้ำกัดเท้า โรคฉี่หนู โรคไข้เลือดออก รวมทั้งการเยียวยาทางด้านจิตใจหลังประสบเหตุวิกฤต ทั้งเรื่องความเครียดในการฟื้นฟูบ้านเรือนและกิจการต่างๆ โดยให้ 3 หมอรับผิดชอบดูแลสุขภาพและจิตใจประชาชน

ในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียง เบื้องต้นได้ให้การดูแลประชาชนและกลุ่มเปราะบางแล้วรวม 197 ราย ออกหน่วยบริการด้านสาธารณสุขช่วยเหลือประชาชน 12 หน่วย 28 ครั้ง โรคที่พบมากคือ น้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อย คัน และอ่อนเพลีย นอกจากนี้ ได้กำชับให้ดูแลประชาชนในศูนย์พักพิง 3 แห่ง คือที่ รพ.สต.ลิปะสะโง, อบต.ลิปะสะโง และคันคลองชลประทาน และฟื้นฟูสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมหลังน้ำลด น้ำดื่มน้ำใช้สะอาด หากต้องการรับการสนับสนุนเพิ่มเติมให้ประสานมายังสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา 

สำหรับสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก, รพ.สต.ปะกาฮารัง และหน่วยบริการปฐมภูมิ อ.เมือง ขณะนี้เปิดให้บริการได้ทั้งหมดแล้ว และมีอสม.ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ 811 คน 

 

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ทีมสุขภาพจิตได้ลงพื้นที่ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมดูแลกลุ่มที่มีความเปราะบางในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวชที่หากขาดยาอาจเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง รวมทั้งจะมีการประเมินสภาวะสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่องว่ามีภาวะตึงเครียดจากสถานการณ์ต่างๆ หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้เกิดขึ้นทันที เมื่อเริ่มฟื้นฟูกิจการความเสียหายแล้วมักเกิดความตึงเครียดตามมา โดยกลุ่มเสี่ยงมากจะมีการติดตามทุก 2 สัปดาห์ และเปิดช่องทางบริการให้คำปรึกษาผู้ปฏิบัติงานที่อาจเกิดความอ่อนล้าด้านอารมณ์ด้วย 


เผยปัตตานีคุมโควิด 19 ได้ดีย้ำเข้มเฝ้าระวังลักลอบข้ามแดน 

นายอนุทิน กล่าวภายหลังติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 ใน จ.ปัตตานี ว่า จังหวัดปัตตานีมีการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี ได้คัดกรองผู้เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร จำนวน 80 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อทุกคน มีการตรวจเชิงรุกเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ 337 ราย ไม่พบการติดเชื้อเช่นกัน และให้ประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงรายงานตัวกับ รพ.สต.หรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อคัดกรองอาการและให้กักกันที่บ้านครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้อตามกำหนด โดยตั้งแต่วันที่ 6-15 มกราคม 2564 คัดกรองผู้เดินทางแล้ว 2,195 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด อยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีก 4 ราย นอกจากนี้ ยังมีสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (Local Quarantine) 1 แห่ง รองรับได้ 240 เตียง และสถานกักกันแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine) 1 แห่ง รองรับได้ 10 เตียง รวมถึงเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง คือ บริเวณเขตอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี  รพ.โคกโพธิ์ และรพ.ยะรัง และกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ  

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ได้กำชับให้จังหวัดชายแดนใต้ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย เข้มมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบเดินทางข้ามแดน เนื่องจากเคยมีตัวอย่างที่มีผู้ลักลอบเข้ามาแล้วทำให้เกิดการติดเชื้อ ขอให้คนไทยเดินทางกลับเข้ามาอย่างถูกต้อง เข้ารับการกักกันตามระบบ 14 วัน เมื่อตรวจพบการติดเชื้อจะได้รับการดูแลรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ ช่วยป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายไปในชุมชน 

"หากไม่มีการติดเชื้อจำนวนมาก โรงพยาบาลปกติสามารถรองรับได้เพียงพอ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยรวมขณะนี้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังถือว่าปลอดภัย แต่ยังต้องคงมาตรการเข้มในการป้องกันโรค การ์ดต้องไม่ตก ยังต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง รวมถึงป้องกันการลักลอบข้ามแดน" นายอนุทินกล่าว 

สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ยืนยันว่ายึดหลักวัคซีนมีคุณภาพและความปลอดภัย โดยมีคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 เพื่อให้ดำเนินการฉีดวัคซีนเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด ส่วนข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนที่ป้องกันโรคได้ 50-70% นั้น จริงๆ แล้วเป้าหมายในการใช้วัคซีนคือเพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิตลง ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ทุกตัวที่มีผลการทดลองเบื้องต้นในมนุษย์ระยะที่ 3 มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตแทบ 100% จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิต เป็นต้น และจะมีการติดตามหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ที่สำคัญคือ ระหว่างที่ยังไม่มีวัคซีนยังต้องใช้ชีวิตประจำวันแบบ New Normal เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"พวงเพ็ชร" มาแล้วมอบสำนักพุทธจับมือ "พม." ตรวจสอบ พ่อ-แม่ ‘น้องไนซ์ เชื่อมจิต’ หากเข้าข่ายหลอกลวง ปชช. สั่งฟันทันที

เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนเรียกร้องให้สำนักงานพระพุทธศาส...