วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2564 น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เห็นว่าภาวะความตื่นตระหนกและความโกลาหลอันเนื่องมาจากมาตรการคุมโควิดของรัฐบาล เกิดจากปัญหาการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไปกันคนละทิศละทาง มีการเปลี่ยนคำสั่งกลับไปกลับมาหลายครั้งในวันเดียว จนสร้างสับสนให้กับประชาชนที่ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลของฝ่ายใด ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในตัวผู้นำรัฐบาลว่าคงไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาการแพร่ระบาดได้
"ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จาก พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกุลแทน เพราะนายอนุทินเป็นทั้งรองนายกฯและ รมว.สาธารณสุขที่มีหน้าที่โดยตรงทั้งการป้องกันดูแลรักษา ควบคุมการแพร่ระบาดหรือจัดหาวัคซีนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่รวบอำนาจทุกด้านไว้กับตัวเอง แต่กลับไม่สามารถจัดการได้เพราะถนัดแต่การใช้อำนาจควบคุมคน แต่ขาดวิสัยทัศน์ในด้านการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้" น.ส.นภาพรกล่าว
น.ส.นภาพรกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นภาพการเรียกประชุมเตรียมการซักซ้อมทำความเข้าใจระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนที่รัฐบาลจะมีมาตรการใดใดออกมา เช่นกรณีห้ามคนเดินทางข้ามจังหวัด ที่ปล่อยให้ประชาชนเดือดร้อนเสียเวลาไปยืนเข้าแถวรอที่อำเภอ ทั้งที่สามารถให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต.หรือหัวหน้างานออกหนังสือรับรองได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ ผอ.ศบค.ซึ่งมีอำนาจสูงสุดกลับไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ รอจนปัญหาเกิดขึ้นก่อนทุกครั้งแล้วค่อยตามไปแก้ คนที่รับกรรมที่ไม่ได้ก่อคือประชาชน
"พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะประธาน ก.ตร.คุมตำรวจทั้งประเทศ แต่กลับปล่อยให้มีบ่อนการพนันเป็นแหล่งแพร่เชื้อ ในฐานะ รมว.กลาโหมดูแลทหารทั้งกองทัพ แต่ก็ปล่อยให้ต่างด้าวลักลอบข้ามแดนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพจดังก็ยังออกมาแฉว่ายังมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น หรือในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็ยังไม่มีแผนเยียวยาปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปก่อนแล้วค่อยมาคิดช่วยเหลือในภายหลัง จะเห็นได้ว่าการรวบอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์มีปัญหาแทบทุกด้าน จึงควรแบ่งเบาภาระไปให้รองนายกคนอื่นดูบ้าง เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องการรวบอำนาจไว้ที่ตัวเองก็ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง ไม่ใช่ชี้หน้าโทษแต่คนอื่นอย่างเดียว" น.ส.นภาพรกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น