เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก"อนุทิน ชาญวีรกูล" เมื่อเวลาประมาณ 14.33 น.ความว่า
เรียน พี่น้องประชาชน 5จังหวัด สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด
กรณีที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. ได้แถลงว่า ให้ผู้ป่วยโควิด โหลดแอพ หมอชนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจ หาไม่โหลด มีความผิดตามพรก.ฉุกเฉิน นั้น
ผมได้นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรี แล้วว่า จะเป็นการทำให้ประชาชนมีปัญหามากขึ้น เนื่องจากประชาชนบางส่วนไม่มีโทรศัพท์ หรือ มีโทรศัพท์ที่ไม่สามารถโหลดแอพ หมอชนะ ได้
ท่านนายกรัฐมตรี เห็นด้วยตามที่ผมนำเรียน และจะให้มีการแก้ไขคำสั่ง ให้เป็นการใช้เอกสารแทน ซึ่งจะให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งอีกครั้งหนึ่ง
จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งผู้ป่วย และไม่ป่วย รวมถึงญาติผู้ป่วยทราบว่า การไม่โหลดแอพ หมอชนะ ไม่มีความผิดแต่อย่างใด
คำสั่งดังกล่าวมีเจตนาจะดำเนินคดีกับผู้ปกปิดข้อมูล ในการสอบสวนโรค เท่านั้น
ขอความกรุณาแจ้งต่อๆ ไปด้วย
ขอบคุณครับ
อนุทิน ชาญวีรกูล
#ไม่โหลดไม่ผิด
ศบค.เตือนประชาชนต้องมีแอปฯ'หมอชนะ' หากติดโควิดและไม่มีถือว่าผิดกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด19 ประจำวัน โดยชี้แจงถึงสาระสำคัญของ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 17) ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.64
โดย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสาระสำคัญของข้อกำหนดฉบับนี้มี 3 ข้อคือ
ข้อ 1.การยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค เน้นย้ำว่าประชาชน้องมีแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามตัว เดิมเราใช้ไทยชนะอยู่ แต่หลังจากนี้ต้องมีการติดตั้งแอพพลิเคชั่น หมอชนะด้วย
โดยให้ประชาชนติดตั้งแอพพลิเคชั่น "หมอชนะ" ควบคู่การใช้แอพพลิเคชั่น "ไทยชนะ" โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็น "พื้นที่ควบคุมสูงสุด"
"มีการพูดคุยในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กว่า ต่อไปนี้หากพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด ไม่มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นหมอชนะก็จะถือว่าละเมิดกฎหมายตามข้อกำหนดนี้ นี่คือสิ่งที่จะค่อยๆเข้มข้นขึ้น เพราะมีหลายครั้งไม่สามารถติดตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยออกมาได้ ฉะนั้นหมอชนะจะเป็นคำตอบของการระบาดในระลอกนี้"โฆษกศบค.กล่าว
ข้อ 2. คือยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่ง โดยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางคมนาคมและยานพาหนะของประชาชนเดินทางเข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง และสมุทรสาคร เพื่อสกัดคัดกรองคนเข้าออกพื้นที่
ให้ตั้งจุดตรวจหรือจุดสกัดเพื่อคัดกรองการเดินทางเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มข้น และให้ผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดติดตั้งและใช้ระบบแอพพลิเคชันหมอชนะ โดยบุคคลที่จะออกนอกพื้นที่ ต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น บัตรประชาชน บัตรแสดงตนอื่นๆ ควบคู่กับเอกสารรับรอง ต่อเจ้าหน้าที่
ข้อ 3.ปราบปรามลงโทษผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาด ดำเนินการกับผู้ปล่อยปละละลเย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้ออำนวยหรือสมรู้ร่วมคิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานเถื่อนและบ่อนพนันอันเป็นต้นตอของการระบาด
สำหรับโทษของผู้ฝ่าฝืน จำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้จงใจปกปิดข้อมูลเดินทาง ถือว่ามีความผิดด้วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.2564 เป็นต้นไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น