รัฐบาล “แพทองธาร” ส่องแสงในเอเปคหลังประชุมทวิภาคี “สี จิ้นผิง” ยืนยันสนับสนุนไทยในเวทีระดับโลกทุกมิติ พร้อมแชร์ประสบการณ์อุตสาหกรรมสมัยใหม่ ระหว่างกันเพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโต เตรียมเปิดการนำเข้าสินค้าไทยเพิ่ม ส่วน “แพนด้ายักษ์” มาไทยแน่นอนปีหน้า พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่ง ประดิษฐานท้องสนามหลวง 4 ธ.ค. นี้ ขณะที่นายกฯ เชิญ ปธน. สี ของจีน ร่วมเฉลิมฉลองปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีนในปีหน้า ที่ไทยด้วย
วันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงลิมา ประเทศเปรู ซึ่งช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โรงแรม Delfines Hotel Lima นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง (H.E. Mr. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับจีน ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบเอเปค ซึ่งไทยยินดีสนับสนุนจีนเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี พ.ศ. 2569 และพร้อมให้การต้อนรับประธานาธิบดีและภริยา ในโอกาสงานเฉลิมฉลองความสัมพันธ์จีน-ไทย ครบรอบ 50 ปี ในปีหน้านี้ซึ่งถือเป็นปีทองของมิตรภาพไทย-จีนอีกด้วย
ขณะที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และกล่าวต่อไปว่า "จีน-ไทยมีมิตรภาพที่มีความพิเศษยิ่ง เรามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกระดับ มาอย่างยาวนาน ซึ่งเชื่อว่าความสัมพันธ์ จีน-ไทย ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่ลึกซึ้ง และจะยิ่งมากขึ้นไปอีก 50 ปี โดยจีนและไทยจะขยายความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และการศึกษา รวมทั้งวิทยาการใหม่ๆ ทั้งด้าน วิทยาศาสตร์ อวกาศ นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรือง ให้กับทั้งสองประเทศและภูมิภาคได้"
ด้านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร กล่าวชี่นชมการพัฒนาด้านต่างๆของจีน รวมทั้ง นโยบายกำลังผลิตคุณภาพใหม่ (new quality productive force) ที่ทำให้จีนรุดหน้าอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพัฒนาด้านต่างๆของประเทศไทย ที่มุ่งส่งเสริมโลกาภิวัฒน์ ด้วยการค้าเสรีที่เปิดกว้างขึ้นโดยยึดมั่นในกฎกติกาของโลก
"ประเทศไทยพร้อมที่จะแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ประสบการณ์การแก้ปัญหาความยากจนที่ประเทศจีนเคยประสบมาในอดีต รวมไปถึงนโยบายในการต่อสู้กับภัยธรรมชาติ เทคโนโลยีการผลิตคุณภาพใหม่ เทคโนโลยีอวกาศ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต รถยนต์ EV รวมไปถึงพลังสะอาดด้านอื่นๆ นอกจากนี้ ไทยยังพร้อมที่จะร่วมมือภายใต้แนวคิด Global Civilization Initiative (GCI) ที่จะส่งเสริม softpower เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างกัน และขอขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่หรือ “BRICS” อีกด้วย" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ได้กล่าวยืนยันสนับสนุนไทยให้ไทยเป็นสมาชิก "BRICS" รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในทุกระดับทั้ง การประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) การประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) รวมทั้งพร้อมร่วมมือสาขาใหม่ๆ ระหว่างกัน เช่น พลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ จีนยังยินดี นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย และพร้อมขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือด้านการศึกษา เยาวชน และการเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาอาญชญากรรมข้ามแดน และภัยออนไลน์ ต่างๆ ด้วย
นายจิรายุกล่าวอีกว่านายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ได้ขอบคุณประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้วจากกรุงปักกิ่ง มาประดิษฐานในไทยที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ ถือเป็นสิริมงคลยิ่งของคนไทยที่มีโอกาสได้สักการะ และวันนี้คนไทยยังตี่นเต้นที่จีนจะมอบ แพนด้ายักษ์ มาประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งเพี่อเป็นสัญลักษณ์ในโอกาส ครบรอบความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีนในปีหน้านี้ด้วย"
คณะทำงานฝ่ายไทยหารือรายละเอียดกับฝ่ายจีนเพื่อเตรียมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว
ความคืบหน้าการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 คณะทำงายฝ่ายไทย ประกอบด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาการแทน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพอากาศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สำนักงานผู้ช่วยทูตทหารอากาศ เข้าร่วมการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ กับหน่วยงานฝ่ายจีน ได้แก่ สำนักงานกิจการศาสนาฯ วัดหลิงกวง สำนักงานการบินพลเรือน และสายการบินแอร์ไชน่า เพื่อหารือรายละเอียด ซักซ้อมความเข้าใจ เกี่ยวกับขั้นตอนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ในประเด็น อาทิ การจัดอากาศยาน สถานที่ประกอบพิธีรับ – ส่ง พระเขี้ยวแก้ว แผนการดูแลรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
การเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 14 - 16 พฤศจิกายน 2567 ครั้งนี้ นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย เดินทางมาร่วมประชุมกับหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายจีน เพื่อร่วมเตรียมการ พร้อมทั้งขอรับทราบผลสรุปและความคืบหน้าการจัดทำร่างความตกลงและติดตามข้อมูลจากการประชุมร่วมกันของคณะทำงานทั้งสองฝ่ายที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 - 12 ตุลาคม 2567 ณ กรุงเทพฯ เพื่อฝ่ายไทย จะได้ประสานงานและดำเนินการเตรียมการที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับวาระโอกาสสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะร่วมกันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเฉลิมฉลองในโอกาสการครบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น