วันพุธที่ 22 พฤษภาคม นายนคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า ถามพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ที่รัก
ผมสนิทสนมกับหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งสองพรรค และ สนิทกับสมาชิกทั้งสองพรรคมานานพอสมควรเกือบ 20 ปี ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่สามารถผ่าด่านกฎ กติกา ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ไม่เป็นสากล ล้าหลัง ผิดปกติไปจากชาวโลกที่เขาเจริญแล้วเขาเป็นกัน ได้ส.ส. 51 , 52 คน ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองฉุดลากประเทศไทยของเราถอยหลังย้อนยุคไปอย่างสุดกู่ แกนนำทั้งสองขั้วคือฝ่ายเพื่อไทย อนาคตใหม่กับแนวร่วม กับ แกนนำฝ่ายพลังประชารัฐ กับแนวร่วม ยื้อยุดจนไม่สามารถมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ผ่านมา2 เดือนซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเป็นเช่นนี่ นอกจากประเทศที่เกิดสงครามกลางเมือง
ทำให้อำนาจการต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาลไปอยู่ที่ทั้งสองพรรคของท่าน ฝ่ายเพื่อไทยกับอนาคตใหม่ก็ยินดียกทุกตำแหน่งให้พวกท่าน ส่วนอีกฝ่ายเขาลือกันว่า มีการเจรจาต่อรองกันอย่างเข้มข้น ว่า ภูมิใจไทย ขอมหาดไทย กับ คมนาคม ประชาธิปัตย์ ขอประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งจะควบประธานรัฐสภาอีกตำแหน่ง มหาดไทย คมนาคมและ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเจรจาต่อรองยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงอ้างสารพัดเหตุผลเพื่อยื้อเวลาจนกว่าจะได้ประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องมากที่สุด จริงหรือไม่
ทั้งสองพรรค ควรที่จะบอกกับสังคมตรงๆ ไม่ใช่อ้างโน่นนี่นั่นสารพัดเหตุผล สังคมเบื่อหน่าย รำคาญ จะทำให้ภาพรวมของนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเสียหายไปด้วยว่า ต่อรอง แสวงหาผลประโยชน์มากกว่าทำเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย
คนไทย ตอนนี้ต้องการความชัดเจนทางการเมือง แบ่งฝ่ายชัดเจน เผด็จการ กับ ประชาธิปไตย ถ้าจริงก็กรุณาอย่ากั๊ก อย่าต่อรอง แล้วสร้างวาทกรรมมาสนับสนุนสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถ้าไม่จริงก็ให้ท่านตอบสังคมได้แล้ว หมดเวลาที่จะเอาเสียงของประชาชนมาเป็นเครื่องมือการต่อรองเพื่อตัวเองและพรรคของตนได้แล้ว คนไทยและประเทศไทยต้องเดินหน้า ประชาธิปไตยและเผด็จการเดินไปด้วยกันไม่ได้ หรือท่านจะรอให้เกิดเหตุการณ์กลียุค ทางการเมืองต่อประเทศไทยของเราเหมือนกับ 22 พฤษภาคม 2557 ซ้ำรอยเดิมเมื่อ 5 ปีที่แล้วก่อน จึงตัดสินใจหรือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น