วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565

ชุมชนข้างวัดสุทัศน์ ร้อง กมธ.ศาสนาฯสภาฯ วอนช่วยป้องถูกไล่ที่หลังอยู่นานกว่า 100 ปี


เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. ที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการฯ นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ นายทองแดง เบ็ญจะปัก กรรมาธิการฯ และคณะ ได้ลงพื้นที่ในกรณีประชาชนในชุมชนข้างวัดสุทัศน์ได้รับความเดือดร้อนจากการขอคืนพื้นที่ของวัดสุทัศนเทพวรารามฯ โดยได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่และได้เข้าร่วมประชุมกับ ตัวแทนกรมศิลปากร  ตัวแทนกรุงเทพมหานคร ตัวแทนสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ตัวแทนของวัดสุทัศน์  ตัวแทนของประชาชนในชุมชน

จากการที่ได้สัมภาษณ์ประชาชนที่อยู่ในชุมชน ได้กล่าวว่า สำหรับการต้องการคืนที่ของวัด โดยมีการให้ประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งประชาชนได้อยู่ร่วมกันมาเป็นชุมชนกว่า 100 ปี ตั้งแต่สมัยรัฐกาลที่ 5 ผ่านสงครามโลก ฝ่าความยากลำบากมาเป็นเวลานาน จากเมื่อก่อนไม่มีอะไรจนปัจจุบันพื้นที่เจริญขึ้นมาก พวกเรามีความผูกพันในชุมชนหลายครอบครัวประชาชนเกิดที่นี่  ซึ่งวัดควรให้ความสำคัญกับคำว่า “บวร” หรือ บ้านวัดโรงเรียน ที่ทราบมาคือจะมีการลงทุนเพื่อสร้างอาคารที่จอดรถโดยมีกลุ่มทุนอาจสนับสนุน โดยตั้งชื่อโครงการจัดสร้างอาคารปฏิบัติธรรมประจำวัดสุทัศนวราราม ซึ่งตนก็มีความเสียใจที่มีความผูกพันกับบ้านเกิด แต่ก็ต้องถูกขับไล่ ก็คงเป็นกรรมเก่าที่อาจไปไล่ที่เขาไว้ แล้วเขามาไล่ที่บ้าง อย่างไรก็ตาม ตนและเพื่อนบ้านจะร้องขอความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเจ้าอาวาสวัดสุทัศนวราราม องค์ใหม่ ที่อาจจะอยากให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่  ที่ผ่านมาตนก็ยังไม่เคยเห็นเจ้าคณะชั้นปกครองที่ไหน มาตั้งคณะทีมงานทนายเพื่อขับไล่ชาวบ้านอย่างนี้มาก่อน รู้สึกเสียดายข้าวแดงแกงร้อน ที่เคยใส่บาตร และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา  ทำให้พระหลายองค์จากเป็นพระบ้านนอก มาบวชในกรุงเทพฯและได้ดิบได้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางคณะกรรมาธิการฯ ให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งจะติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ทางวัดและชาวบ้าน ลองคุยกันอีกครั้งเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ควรให้การเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะกำหนดเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปหารือในชั้นกรรมาธิการฯ ที่รัฐสภา อีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น