วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565

"คณะสงฆ์นางรองบุรีรัมย์" สานพลัง "บวร" ทอดผ้าป่าส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์และผู้สูงอายุ

 


"คณะสงฆ์นางรองบุรีรัมย์" สานพลัง "บวร" ทอดผ้าป่าส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาสุขภาวะวิถีพุทธพระสงฆ์และผู้สูงอายุแบบบูรณาการ สานงานสาธารณสงเคราะห์ให้มั่นคงและยั่งยืน 


เมื่อวันอังคารที่ ๑๘ เดือน มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕  เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ห้องประชุมคณะสงฆ์อำเภอนางรอง วัดสิงห์วงศ์ ตำบลหนองไทร อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ มีพระสงฆ์ ประกอบด้วย เจ้าคณะ พระสังฆาธิการ ผู้บริหารกิจการคณะสงฆ์อำเภอนางรอง ได้แก่ เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลทุกตำบล รองเจ้าคณะตำบล และกองงานเลขานุการคณะสงฆ์อำเภอและเลขานุการเจ้าคณะตำบล  จำนวน  ๑๐๐ กว่ารูป เข้าประชุม      


ในที่ประชุม พระครูปริยัติภัทรคุณ เจ้าคณะอำเภอนางรอง ประธานที่ประชุม ได้ปรารภการขับเคลื่อนศาสนกิจการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในห้วงระยะเวลา หนึ่งปีที่ผ่านมา จากการปฏิบัติศาสนกิจเยี่ยมเยียนพระสงฆ์  โดยคณะสงฆ์อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่ผ่านมาซึ่งมีวัดทั้งหมด 101 วัด จำนวนพระภิกษุ สามเณร รวมทั้งสิ้น ๖๐๔ รูป จำแนกเป็นพระภิกษุ 589 รูป สามเณร 15 รูป  พระสงฆ์ที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จำนวน ๑๔๑  รูป คิดเป็นร้อยละ ๒๓.๓๔ และมีแนวโน้มเป็นพระผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นและพบประชาชนผู้สูงอายุซึ่งถือว่าเป็นหลักชัยของสังคมชุมชนประสบภาวะเป็นผู้ป่วยติดเตียงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน 



ด้วยปรารภสภาวการณ์ดังกล่าวนี้ คณะสงฆ์อำเภอนางรอง จึงได้กำหนดแผนการดำเนินศาสนกิจสาธารณสงเคราะห์ ทั้งระยะยาวและระยะเฉพาะกิจกรณีเร่งด่วน ซึ่งแผนระยะยาวเป็นการดำเนินการส่งเสริมสุขภาวะทางปัญญา เพื่อสนับสนุนพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด - อสว.) ให้เข้ารับการศึกษาอบรมตามหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐากวิถีพุทธ สำหรับพัฒนาและส่งเสริมให้พระภิกษุ สามเณร ได้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการดูแลสุขภาพอนามัยตามหลักพระธรรมวินัย สมดังพุทธพจน์ตอนหนึ่งว่า : “โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย” แปลความว่า" ผู้ใด ปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้น พึงอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด" ตลอดถึงส่งเสริมให้พระภิกษุ สามเณร มีบทบาทต่อการดูแลสุขภาพตนเอง ชุมชน สังคมและส่งเสริมการดูแลสุขภาวะพระสงฆ์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและทางสังคม ตลอดจนให้คำแนะนำ การจัดสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขอนามัย โดยก่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างวัดกับชุมชน สามารถให้บริการพระสงฆ์อาพาธภายในวัดและเกื้อกูลพุทธศาสนิกชนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่จัดทำขึ้นภายใต้มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๗/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคมพ.ศ. ๒๕๖๐ มติที่ ๑๙๑/๒๕๖๐ เรื่อง การดำเนินงานพระสงฆ์กับการพัฒนาสุขภาวะที่กำหนดให้ดำเนินการวัดส่งเสริมสุขภาพและธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เพื่อเป็นกรอบและแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะพระสงฆ์ทั่วประเทศ ตามหลักการของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ และเป้าหมายการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ๓ ประเด็นสำคัญ คือ พระสงฆ์กับการดูแลสุขภาพตนเองตามหลักพระธรรมวินัย ชุมชนและสังคมกับการดูแลอุปัฏฐากพระสงฆ์ที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย และบทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะของชุมชนและสังคม โดยยึดหลักการสำคัญ คือการใช้ทางธรรมนำทางโลก และมาตรการสำคัญในการดำเนินการ ๕ ด้าน ได้แก่ ความรู้ ข้อมูล การพัฒนา การบริการสุขภาพ และการวิจัยที่จะนำไปสู่การส่งเสริมและสนับสนุนการดูแลสุขภาวะพระสงฆ์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางปัญญาและทางสังคม ตลอดจนการจัดสิ่งแวดล้อม ที่เอื้อต่อสุขภาพโดยก่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างวัดกับชุมชน ทำให้พระแข็งแรง วัดมั่นคงชุมชนเป็นสุข 



ส่วนระยะเฉพาะหน้า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบหนุนเสริมศาสนกิจด้านสาธารณสงเคราะห์ เป็นกรณีเฉพาะกิจเร่งด่วน โดยกำหนดทอดผ้าป่าสามัคคี  ณ สวนธรรมรัตนคีรี  (รร สิริภัทรคุณานุสรณ์) ในวันอาทิตย์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ในโอกาสดังกล่าวนี้เปิดโอกาสให้ทุกท่านที่ประสงค์ร่วมส่งเสริมสนับสนุนทำบุญได้ตามบัญชีบุญงานสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์อำเภอนางรอง บัญชีเลขที่ ๓๗๓-๓-๐๐๙๓๗-๑ (ธ.กรุงไทย) หรือโทรศัพท์ ๐๙๕  ๖๑๓  ๔๑๙๐ /ติดตามข่าวสารในช่องสื่อสารทาง  Facebook : วัด สิงห์วงศ์ เพื่อระดมทุนจัดซื้อรถตู้ กู้ภัย บริการพระภิกษุสามเณร อาพาธและพุทธศาสนิกชนทั่วไป


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปิยวัฒน์ คงทรัพย์ อาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาพระพุทธศาสนา วิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาสุขภาวะวิถีพุทธของพระสงฆ์ ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ระดับพื้นที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ในเบื้องต้น พบว่า เป็นการพัฒนาที่เป็นรูปแบบการมีส่วนร่วม สานพลัง บวร ส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาสุขภาวะวิถีพุทธพระสงฆ์และผู้สูงอายุแบบบูรณาการ สานงานสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ให้มั่นคงและยั่งยืน ที่มีผลการพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสุขภาวะวิถีพุทธ ให้เข้มแข็งต่อไป ตามแนวทางการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ด้านสาธารณสงเคราะห์ โดยสร้างระบบและกลไกเพื่อกํากับดูแลและบริหารภารกิจด้านการสาธารณสงเคราะห์ 



ให้เป็นรูปธรรมโดยสามารถวัดและประเมินผลได้ ส่งเสริมและสนับสนุนพระสงฆ์นักพัฒนาให้ทํางานร่วมกับเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมและสนับสนุนวัดซึ่งเป็นองค์กรทางพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาวิชาชีพสำหรับชุมชน รวมทั้งจัดตั้งกองทุนเพื่อการสาธารณะสงเคราะห์และสนับสนุนงานด้านสาธารณสงเคราะห์ เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือพระสงฆ์อาพาธ ผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งผู้ประสบภัย / ประชาชนผู้ทุกข์ร้อนเบื้องต้น 


คณะสงฆ์อำเภอนางรอง ได้ร่วมกันขับเคลื่อน สนองงานการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ตามแผนการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาภายใต้แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา  ที่มหาเถรสมาคมและมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบมอบถวายคณะสงฆ์ดำเนินการทั้งด้านการปกครอง การศึกษา ศึกษาสงเคราะห์ การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ เช่น การร่วมกันดำเนินการศูนย์พักคอย จากสถานการณ์ โควิด ๑๙ ในช่วงที่ผ่านมาและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่อ รวมทั้งสนับสนุนคณะสงฆ์จังหวัดในการดำเนินการพัฒนาพื้นที่เพื่อจัดสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัด  ซึ่งล้วนเป็นภารกิจที่มีความสำคัญในอันที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนางานคณะสงฆ์อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและโดยเฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ช่วงวัยผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ครอบคลุมทั้งด้านกาย ใจ สติปัญญาและสังคม ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม การเสริมสร้างพลังทางสังคม ที่มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญที่ให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนเป็นพลัง “บวร”  ในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อส่วนรวม และสนองงานคณะสงฆ์ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ ในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ ให้พุทธศาสน์สถาพร โลกนิกรนิรทุกข์ สังคมสันติสุข เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนำไปสู่ความมั่นคง ยั่งยืนของพระพุทธศาสนาสืบไป ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) ที่จะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืนเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน              

 


คณะสงฆ์อำเภอนางรอง อสว.พระคิลานุปัฏฐาก นางรอง ร่วมกับภาคีเครือข่าย ภาครัฐ เขตสุขภาพที่ ๙ สสจ.สสอ. รพ.รพ สต. ในพื้นที่ เหล่ากาชาดจังหวัด กิ่งกาชาด ฝ่ายปกครองส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน กู้ภัยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ มีความตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลพระสงฆ์อาพาธและผู้สูงอายุที่ภาวะพึ่งพิง จึงได้ดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุและพระสงฆ์แบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดระบบการดูแลผู้สูงอายุและพระสงฆ์อย่างเสมอภาคเท่าเทียม และยั่งยืน อันจะส่งผลให้ผู้สูงอายุมีอายุเฉลี่ยของการมีสุขภาพดีเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนให้พระสงฆ์และวัดมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพ เป็นศูนย์กลางสุขภาพชุมชน และจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ ครอบคลุมการดูแลส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์และผู้สูงอายุ การดูแลพัฒนาทักษะกาย ใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ การพัฒนาวัดส่งเสริมสุขภาพและวัดรอบรู้ด้านสุขภาพ การส่งเสริมให้พระสงฆ์และผู้สูงอายุมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ โดยดำเนินงานโครงการการพัฒนาสุขภาวะวิถีพุทธของพระสงฆ์ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงระดับพื้นที่ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการดูแลผู้สูงอายุและพัฒนาสุขภาพพระสงฆ์ในชุมชนให้เป็นรูปธรรมต่อเนื่องและยั่งยืนสืบต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...