เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 เวลา 13.15 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย แถลงข่าวผลการประชุมของพรรคร่วมฝ่ายค้านในประเด็น ดังนี้
1. ที่ประชุมมีมติยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 ในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน 1 ญัตติ 2.เนื้อหาสาระภายในญัตติ ประกอบด้วย 1)วิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ และภาวะหนี้สินของพี่น้องประชาชน 2)วิกฤตโรคระบาดในคน และสัตว์ อาทิ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) 3)วิกฤตทางด้านการเมือง การปฏิรูปทางการเมือง และการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น 4)ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ สิ่งแวดล้อม การทุจริตคอร์รัปชัน เหมืองทองอัครา และปัญหาของพี่น้องชาวประมง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดการอภิปรายในประเด็นต่าง ๆ นั้นถือเป็นสิทธิของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการนำเสนอ โดยกำหนดยื่นญัตติดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 21 ม.ค. 65 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการเข้าชื่อของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคาดว่าจะมีการเปิดอภิปรายในช่วงกลางเดือน ก.พ. 65 ทั้งนี้ จะหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลขอใช้เวลาในการอภิปรายไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง
สำหรับการอภิปรายนั้น จะเป็นไปในลักษณะการสอบถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาต่อรัฐบาล หากรัฐบาลสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางการบริหารงานได้ย่อมจะเป็นประโยชน์และถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า จะใช้การอภิปรายตามมาตรา 152 ในการตั้งคำถามไปยังรัฐบาล และเป็นการเสนอแนะเพื่อให้รัฐบาลเปลี่ยนการทำงานจากเชิงรับ เป็นเชิงรุกให้ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นรอยต่อเศรษฐกิจแบบนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถทำงานในเชิงรุก หรือควบคุมราคา การแก้ไขปัญหาจะทำได้ยากมาก
ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้สร้างปัญหาสังคมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการปรับลดงบประมาณด้านการศึกษาจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา ตลอดจนการดำเนินการทางการเมืองโดยมุ่งผลประโยชน์ของตนเองมากจนเกินไป การอภิปรายครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านจึงเตรียมข้อมูลที่จะเสนอแนะต่อรัฐบาล และการอภิปรายครั้งนี้ยังถือเป็นวาระของประชาชนอย่างแท้จริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น