วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565

กมธ.สธ.สภาฯ เรียก ป.ป.ส.-ตร.-สธ.แจงด่วน ปมตีความกัญชาตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

 


ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข เรียกเลขาฯ ป.ป.ส. ตำรวจ ปลัด สธ. เข้าชี้แจงด่วน !!! พฤหัสบดี 20 มกราคม 65 ปมตีความ กัญชาตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เผย น้าแอ๊ด คาราบาว อาจารย์ไข่ มาลีฮวนนา ติดต่อขอเข้าร่วมรับฟังการประชุม  ชี้ จนท.รัฐต้องตามกฎหมายให้ทัน แนะกัญชา ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และพืชเศรษฐกิจ จะหวงอำนาจไว้ทำไม

 

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565  นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาเปิดเผยในประเด็นการถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ตามเจตนารมณ์ ของกฎหมาย พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มีผลใช้บังคับวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ซึ่งมีการถกเถียง เห็นแย้ง ทั้งผู้ใช้กฎหมาย และผู้ออกกฎหมาย ซึ่งนายปกรณ์ เปิดเผยว่า 

.

“ในฐานะประธานกรรมาธิการสาธารณสุข เห็นข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงล่าสุดว่าเรายังตามไม่ทันเรื่องกฎหมายและถือปฏิบัติตามไม่ทัน นี่คือข้อเสีย ของผู้ที่ปฏิบัติยึดกฎหมายตามปฏิบัติและตัวเองตามไม่ทันกฎหมาย เราในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ผมว่าเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสังคมมากๆ หลายท่านเข้าใจผิด หลายท่านก็เข้าใจถูก นี่ไงครับกระแสของสังคมก็ยังถกเถียงชั่งใจอยู่ว่าจะเดินหน้าต่อไปยังไง ผมคิดถึงพี่น้องประชาชนนะครับผมว่า วันนี้เศรษฐกิจไทย เราต้องเปลี่ยนแนวคิด การคมนาคมพัฒนาไปมาก สินค้าเกษตรจากเมืองจีนผ่านรถไฟความเร็วสูงมาทางลาว ผลกระทบแน่นอน ชาวสวนชาวไร่ที่ปลูกพืชปลูกผัก ผลไม้ เราส่งออกไม่ได้ ราคากระทบแน่นอนสินค้าปศุสัตว์เจอไวรัสเหมือนคนเจอนี่ล่ะครับวัวควายเจอ lumpy Skin หมูเจอไวรัสเหมือนกัน ผลกระทบหมด ผมมองว่าวันนี้โอกาสที่คนไทยจะฟื้นเศรษฐกิจได้ง่ายโดยการแก้กฎหมายหรือทำความเข้าใจให้ตรงกันก็คือสมุนไพรไทยคือ กัญชา คือสมุนไพร ยาหม่องกัญชา ผมอยากให้เทียบเคียงบุหรี่ เบียร์ ไวน์ เหล้า เหล้าขาว เหล้าสี เทียบกับกัญชา ผมเองนั่งพิจารณานึกดูย้อนดูหลายครั้งหลายหน ผมมองว่ากัญชาก็คือสมุนไพร ผมจึงได้หารือกับทางเพื่อนๆ ในคณะกรรมาธิการ วันพฤหัสที่ 20 ม.ค. 65 เชิญชวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการป.ป.ส. ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท่านผบ.ตร. และอีกหลายๆ ท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้กฎหมายบังคับใช้กฎหมายมาหารือกัน” นายปกรณ์ กล่าว

 

ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จริงๆ แล้วผมคิดว่าคงจะเป็นทางออกที่ดี สร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน  วันนี้พี่น้องหลายท่านโทรศัพท์มาหาผมให้กำลังใจกับผม อยากเห็นพืชตัวนี้ ซึ่งเคยซุกอยู่ใต้ดิน ใต้พรมวันนี้มาอยู่บนดิน ถ้าเราในภูมิภาคเอเชีย ถ้าเราสามารถแก้กฎหมายให้พืชกัญชาเป็นพืชสมุนไพรได้อย่างถูกต้อง ผมว่าประเทศไทยจะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจที่รับผลกระทบจากโควิดได้เร็วที่สุดในโลกด้วยครับ นี่คือสิ่งที่ผมยืนยันเลยครับ”

 

นายปกรณ์ กล่าวว่า ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งต้องขอชื่นชม นายศุภชัย ใจสมุทร รองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่ออกมายืนเคียงข้างประชาชน ทำให้ผมต้องนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องกัญชามาตีความ  ส่วนตัวเห็นด้วยกับนายศุภชัย  แต่จริงๆ ฝ่ายการเมือง พูดอะไรไปมันก็ 2 มุม มีคนเห็นด้วยก็ว่าดี แต่คนไม่เห็นด้วยก็หาว่านักการเมืองพูดหาเสียง 

 

“จริงๆ ต้องชื่นชมท่านศุภชัยเป็นอย่างมาก ที่กล้าหาญออกมาพูดแล้วเอาเรื่องจริงออกมาพูด ผมยกย่องและชื่นชมท่านศุภชัย มาก ถือว่าเป็นฮีโร่ เป็นวีรบุรุษ ของคนที่อยากให้สมุนไพรตัวนี้ถูกต้องตามกฎหมาย ผมคิดว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เป็นฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย แต่คนออกกฎหมายในฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้รู้กฎหมายก็ไปแย้งกัน วันนี้มันแย้งกันระหว่างผู้ปฏิบัติกับผู้ออกกฎหมาย  ท่านอยากจะยึดอำนาจเหมือนเก่า รักษาอำนาจไว้เหมือนเก่า ไว้ทำไม ในเมื่อประเทศไทย แก้ไปแล้ว มันแก้แล้วกฎหมายเหล่านี้มันไม่มีแล้ว มันมีแต่ฝิ่น ไม่มีแล้วกัญชา” นายปกรณ์ กล่าว

 

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เรื่องกัญชาเสรี จริงๆ มันเป็นของทุกพรรคการเมืองนะครับ เป็นนโยบายเป็นความคิดความฝันของนักการเมืองทุกคน ที่อยากเห็นประชาชนมีความอยู่ดี มีเศรษฐกิจดีไม่มีอะไรที่วันนี้จะใช้ทดแทนยาปฏิชีวนะ ได้ก็คือตัวนี้ สมุนไพรกัญชาที่บอกว่าเป็นพืชที่วิเศษที่สุด ผมเรียนว่าคนที่ใกล้ตัวผมที่สุดคนที่ใกล้ตัวผมป่วยเป็นโรคเก๊า กินยาปฏิชีวนะมาโดยตลอดหลายสิบปี วันนี้ลองใช้ตามที่แพทย์แนะนำ โรคเก๊ามันหาย นี่คือสิ่งที่ผมเห็นประจักษ์กับตัวเอง และคิดว่าหลายท่านที่ได้ใช้สมุนไพรตัวนี้รักษาบำบัดตัวเอง ยังไม่มีโอกาสที่จะเปิดตัวให้สังคมได้รู้ว่าสมุนไพรตัวนี้มันดีอย่างไร แต่สำหรับผมแล้ว แม้ผมไม่ใช่คนเสพ คนสูบ คนใช้ยาเสพติด แต่ใช้วิจารณญาณของตัวเอง ที่อยากเห็นพืชสมุนไพรตัวนี้สร้างเศรษฐกิจให้คนไทย โดยเฉพาะภูมิภาคนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเอเชียยังไม่มีประเทศไหนที่จะกล้าเป็นผู้นำผมอยากให้ประเทศไทยของเราเป็นผู้นำด้านนี้ในอเมริกาหลายๆ ประเทศทางยุโรปเขาแก้กฎหมายไปแล้วครับบางเมืองสร้างรายได้เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านแสนล้าน เราจะรอช้าทำไม 

 

นายปกรณ์ กล่าวด้วยว่า การหาประชุมคณะกรรมาธิการสาธารณสุข ในวันที่ 20 มกราคม จะเป็นเวทีที่จะให้เวลากับทุกคนได้แสดงความคิดเห็นสรุปว่ามันจะเป็นอย่างไร มีหลายท่านที่จะขอผมเข้าร่วมประชุมด้วย เช่นศิลปิน ซึ่งผมได้พูดถึงก็คือน้าแอ๊ด คาราบาว ตอนนี้กำลังประสานกันอยู่ แต่น้าไข่ มาลีฮวนน่า ยืนยันตอบรับที่จะมาเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน ซึ่งเสียงสะท้อน ประชุมวันนั้น จะเป็นสิ่งที่ กรรมาธิการ สาธารณสุข จะสรุปผลการ ประชุม ส่งต่อไปยังท่านนายกรัฐมนตรีส่งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่าความหวังของพี่น้องประชาชนชาวไทยในบทบาทของคณะกรรมาธิการสาธารณสุขเราจะทำให้เรื่องนี้ ให้เป็นจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์

  วิเคราะห์ ‎“จาลวรรค” ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 15 อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ บทนำ “จาล...