เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 นายอุตตม สาวนายน แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ หลังจากเปิดตัวพรรคเสร้างอนาคตไทย ไปเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา มีหลายท่านได้มาแสดงความยินดีย้อนหลัง ผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง และก็มีบางท่านถามไถ่ถึงกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งพรรคด้วยความแปลกใจ ว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงยอมมาร่วมตั้งพรรคการเมือง เพราะหลายคนเท่าที่รู้จักไม่เคยมีท่าทีว่า จะสนใจทำงานการเมืองมาก่อนเลย
ผมได้อธิบายท่านเหล่านั้นไปว่า จริงอยู่ที่หลายคนไม่เคยสนใจงานการเมืองมาก่อน แต่พวกเขาก็ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองในฐานะคนไทยคนหนึ่ง พร้อมๆ กับทำหน้าที่ของพวกเอง ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักธุรกิจ กลุ่มเครือข่ายภาคสังคม หรืออื่นๆ แต่เมื่อวันหนึ่งเรามีโอกาสได้พบปะพูดคุยกัน จนตกผลึกว่า คงไม่สามารถปล่อยให้บ้านเมืองตกในภาวการณ์ที่เป็นอยู่อย่างปัจจุบันได้อีกต่อไป จึงเกิดฉันทามติมาร่วมกันทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยกัน
การเมืองที่พวกเราจะทำ จะต้องเป็นการเมืองใหม่ ที่ว่าใหม่นั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน แต่เป็นการเมืองที่อาจเคยมีความคิด ความพยายามทำมาแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ หรือไม่เกิดอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
การทำงานเมืองของพวกเรา คือต้องฟังเสียงทุกคนทุกกลุ่ม แล้วกลั่นกรองร่วมกันว่า อะไรดีที่สุดสำหรับประชาชน สำหรับประเทศ จึงเป็นที่มาของผู้ร่วมก่อตั้งที่มีความหลากหลายจากทุกกลุ่มทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง อดีตข้าราชการ นักวิชาการ นักธุรกิจภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เกษตรกร ฯลฯ ซึ่งทุกคนล้วนได้รับการยอมรับในสาขาอาชีพที่ตนเองทำงานอยู่
ยกตัวอย่างเช่น ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ ท่านเป็นอดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เป็นตัวแทนนักวิชาการนักปฏิบัติ ที่จะช่วยเราคิดช่วยทำนโยบายให้เป็นรูปธรรม โดยมีตัวแทนกลุ่มอื่นๆ นำประสบการณ์ตรงมาร่วมคิดในแต่ละด้าน เช่น กลุ่มภาคประชาสังคม ก็มี คุณแก้ว สังข์ชู ปราชญ์ชาวบ้านจากจ.พัทลุง นำเสนอแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนฐานราก ได้ประโยชน์จากนโยบายสูงสุดอย่างแท้จริง มีตัวแทนจากกลุ่ม SME อย่าง คุณณพพงศ์ ธีระวร อดีตประธานสภาเอสเอ็มอี มีคนรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี อย่าง น้องบอม โอฬาร วีระนนท์ เป็นตัวแทน มีตัวแทนจากกลุ่มผู้บริหารนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อย่างคุณนริศ เชยกลิ่น เป็นต้น
หากเราต้องการให้อนาคตประเทศ ก้าวไปข้างหน้า การเมืองก็ต้องก้าวไปข้างหน้าด้วย ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน แล้วนำมาปฏิบัติอย่างแท้จริง และอยากบอกกับทุกท่านเพิ่มเติมว่า เรายังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีกหลายคน ทั้งที่เริ่มต้นทำงานกับพวกเราแล้ว และแสดงเจตจำนงเข้ามา แต่ท่านเหล่านั้นยังไม่ขอเปิดตัวในวันนี้ เพราะยังติดภารกิจบางอย่างจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม
วันนี้ เราได้เริ่มทำงานกันอย่างเข้มข้นแล้ว ทั้งระดมความคิดเห็น เดินหน้าออกรับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนในทุกภาคส่วน ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำมาประกอบเป็นแนวนโยบาย เป็นยุทธศาสตร์สร้างอนาคตประเทศไทย ส่วนวิถีทางงานด้านการเมือง ผมคิดว่าวันนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามครรลองที่เห็นๆ กันอยู่ เพราะพรรคอนาคตไทยมีจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งหรือซ้ำเติมความขัดแย้งที่เป็นอยู่
สิ่งที่เรามุ่งเน้นคือ เร่งสร้างยุทธศาสตร์เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้ จากนี้ไปจะเห็นพรรคสร้างอนาคตไทย ทำงานอย่างเต็มที่เต็มกำลังครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น