วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2565

“นภาพร”เสรีรวมไทย ชี้ปัญหาหมูและข้าวของขึ้นราคามหาโหดที่อาจนำไปสู่จุดจบรัฐบาลได้



 “นภาพร”เสรีรวมไทย ชี้ปัญหาหมูและข้าวของขึ้นราคามหาโหดที่อาจนำไปสู่จุดจบรัฐบาลได้ โดยไม่ต้องรอให้อยู่ครบ 8 ปี เผยชาวบ้านแซว “ฝากฝัง” ให้ช่วยดูแลลุงตู่ด้วย

วันพุธที่ 12 มกราคม 2565  น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการออกมายอมรับของอธิบดีกรมปศุสัตว์ถึงสาเหตุการตายของหมูทั่วประเทศว่าเกิดจากเชื้อ ASF ไม่ใช่ไวรัสเพิร์สตามที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้คือตัวอย่างการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลวในทุกๆเรื่องของรัฐบาลชุดนี้ เพราะมักจะปล่อยให้ปัญหาต่างๆ บานปลายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจนถึงที่สุด จนชาวบ้านทนไม่ไหวออกมาส่งเสียงด่าทอรัฐบาลจึงจะขยับตามแก้ปัญหา อย่างเช่นกรณีหมูแพงมหาโหดที่ฝ่ายค้านได้ออกมาส่งเสียงเตือนให้รัฐบาลกลับไปดูที่ต้นเหตุ แต่ทั้งกรมปศุสัตว์และโฆษกรัฐบาลต่างออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่โรค ASF ก่อนจะออกมายอมรับในภายหลังเพราะจำนนด้วยหลักฐาน

“โรคนี้ระบาดอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2563 ผู้ประกอบการหลายรายหมูตายยกฟาร์ม แต่รัฐบาลกลับทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน สะท้อนว่าระบอบประยุทธ์ ไม่เคยเห็นหัวชาวบ้าน ไม่เข้าถึงประชาชน ที่ยอมรับตอนนี้ก็เพราะจำนนด้วยหลักฐาน ปัญหาคือแล้วหมูที่ตายก่อนหน้านี้ล่ะจะทำอย่างไร แค่ ครม.อนุมัติงบก้อนหนึ่งแล้วปล่อยไปตามยถากรรมอย่างนั้นหรือ ตอนนี้มีปัญหาใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้านั่นก็คือการล้มละลายอย่างถาวรของเกษตรกรผุ้เลี้ยงหมูตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนรักษา ขณะเดียวกันจะเกิดการไม่ยอมรับหมูไทยไปทั่วโลกซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างคาดไม่ถึงทางด้านอาหารตามมา อย่างนี้แล้วใครจะรับผิดชอบ แค่อธิบดีคนเดียวหรือ” น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพรกล่าวต่อว่า นอกจากหมูจะราคาแพงมหาโหดเพราะการปกปิดเรื่องโรคระบาดของรัฐบาลแล้ว ตอนนี้ราคาสินค้าข้าวของเครื่องใช้อื่นๆก็ขึ้นราคาไม่หยุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่คนจะต้องจับจ่ายใช้สอย จึงไม่แปลกที่กองเชียร์รุ่นสุดท้ายอย่างป๋าเทพ โพธิ์งาม ยังต้องออกมาตั้งคำถามถึงความสามารถของลุงตู่ว่าทำได้แค่นี้เองหรือ คือปล่อยให้สินค้าทุกชนิดขึ้นราคามหาโหด แต่รัฐบาลกลับทำได้แค่ส่งให้โฆษกรัฐบาลออกมานั่งแก้ตัวแทนนายกฯที่เน้นเวิร์คฟอร์มโฮมอยู่กับบ้าน ปัญหาหมูเห็ดเป็ดไก่รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคามหาโหดจึงอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่กองเชียร์ที่เหลือน้อยเต็มทีจะไม่ทนอีกต่อไป

“ จากการลงพื้นที่ฟังเสียงสะท้อนชาวบ้าน ได้ฟังข้อมูลบางแง่มุมที่น่าตกใจว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์หมดเงินแจกก็คงหมดประโยชน์ไปนานแล้ว ที่ชาวบ้านเขายังยอมทนอยู่ได้เพราะยังมีเงินเยียวยาจากภาครัฐช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ถ้าไม่มีเงินส่วนนี้มาแจกอีกก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปอีกทำไม ดังนั้นชาวบ้านเขาจึงพูดแซวมาว่า”ฝากฝัง” ให้ดูแลลุงตู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นการฝากฝังให้ดูแลลุงตู่เพื่อให้อยู่แจกเงินต่อไป หรือฝากฝังเหมือนกับหมูที่ติดเชื้อ ASF ตาย จนชาวบ้านต้องเอาไปฝังทิ้ง ยิ่งมาเจอสถานการณ์ข้าวยากหมากแพงซ้ำเติมเข้าอีก เขาคงจะไม่ต้องรอให้ลุงตู่อยู่ครบ 8 ปี แต่ควรจะไปได้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วเพราะยิ่งอยู่นานชาวบ้านยิ่งยากจน” น.ส.นภาพรกล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ดร.มหานิยม" พาไปไหว้ พระวัดงามตามรอยพระอริยะ วัดป่าโสมพนัสสกลนคร

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ดร.นิยม เวชกามา อดีต สส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย  หรือ "ดร.มหานิยม" ในฐานะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีคนที...