วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565

"บิ๊กตู่" แถลงสำเร็จ! ฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตซาอุดีอาระเบีย

 


วันพุธที่ 26 มกราคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ และเข้าเฝ้าเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ว่า วันที่ 25 มกราคม 2565 ได้เดินทางมาเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี


โดยในวันนี้ ได้เข้าเฝ้าฯ และพบหารือกับมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่าย ได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์แล้ว และพร้อมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อจากนี้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความพยายามในหลายระดับของทั้งสองฝ่ายที่มีมาในช่วงที่ผ่านมา


ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งในระยะแรกจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี เพื่อรื้อฟื้นและส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การค้าและการลงทุน ความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน สาธารณสุข และการท่องเที่ยว รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ สิ่งแวดล้อม พลังงานหมุนเวียน และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบพหุภาคีต่าง ๆ อาทิ องค์การ OIC (โอไอซี) อาเซียน GCC (จีซีซี) รวมถึงการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ด้วย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเดินทางมาเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะมาด้วย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป


โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกหารือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ เพื่อวางแผนและกำหนดสาขาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศอย่างเป็นระบบและมีการบูรณาการ ซึ่งจะเป็นกลไก การติดตาม ประเมิน และทบทวนผลการดำเนินความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายให้เป็นรูปธรรมต่อไป ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับการอนุญาตให้แรงงานไทยกลับเข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียได้ รวมถึงการส่งเสริมแรงงานฝีมือและเฉพาะทางของไทย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศทั้งในมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม โดยไทยและซาอุดีอาระเบียสามารถช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการพัฒนาของกันและกัน โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของไทย และวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ. 2030 ซึ่งการฟื้นฟูความสัมพันธ์ยังจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ และจะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนสำหรับไทยและซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอาหรับ โดยเฉพาะการเสริมสร้างบทบาทของไทยในฐานะ “ครัวโลก” เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของซาอุดีอาระเบีย และในฐานะ “ศูนย์กลางทางการแพทย์และการท่องเที่ยว” ของไทย โดยคาดว่า นักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบียที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้ไทยไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท อีกทั้งจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานของไทย ในฐานะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอันดับต้นของโลก


นอกจากนี้ เมื่อการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันกลับมาเป็นปกติ ก็จะสามารถรื้อฟื้นการกลับเข้าไปทำงานในซาอุดีอาระเบียของแรงงานฝีมือ แรงงานภาคบริการ และแรงงานเฉพาะทางของไทย ซึ่งก่อนการลดความสัมพันธ์ระหว่างกัน เคยมีแรงงานไทยในซาอุดีอาระเบียกว่า 300,000 คน และสร้างรายได้ส่งกลับประเทศไทยมากกว่า 9,000 ล้านบาทต่อปี


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ได้มีโอกาสพบปะและสอบถามความเป็นอยู่ของชุมชนไทยในซาอุดีอาระเบีย และได้ยืนยันกับพี่น้องคนไทยทุกคนว่า รัฐบาลไทยจะให้ความดูแลคนไทยในซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างดีอย่างเช่นที่ผ่านมาแน่นอน


อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความยินดีกับการเริ่มต้นศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทย – ซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง การเยือนครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์และเป็นการเปิดโอกาสสำหรับทั้งสองประเทศในการแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันต่อจากนี้ ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์ร่วมกันของพี่น้องคนไทยและชาวซาอุดีอาระเบียอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รวม 4 สุดยอดเหรียญเจ้าสัวมนต์นาคราช หลวงปู่คีบ ธีรปัญโญ วัดป่าสุทธาวาส จ.นครพนม อายุ109 ปี

เหรียญเจ้าสัวมนต์นาคราช  หลวงปู่คีบ ธีรปัญโญ วัดป่าสุทธาวาส อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม อายุ 109 ปี รวมความเป็นสุดยอดดังนี้ สุดยอดพุทธศิลป์ สุดยอดม...