วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จว.เหนือ ขอบคุณ "บิ๊กตู่" ช่วยเยียวยาสำเร็จ

เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือขอพบนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความขอบคุณที่ช่วยผลักดันเงินช่วยเหลือโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยผลสำเร็จ “พีระพันธุ์”ย้ำเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566   เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ นำตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ นำโดย จ่าสิบเอกนิกร บุญชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ นำเกษตรกรจากภาคเหนือขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อขอบคุณที่ช่วยผลักดันให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จ่ายเงินโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนใกล้เป็นผลสำเร็จ โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดการปฏิบัติงานราชการ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีมาพบรับมอบดอกไม้ และกระเช้าลำไยอบแห้ง พร้อมพูดคุยกับตัวแทนเกษตรกรชาวสวนลำไยที่เดินทางมาในครั้งนี้

นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ปัญหาของชาวสวนลำไยหลังจากนายกรัฐมนตรีทราบเรื่องก็ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยมีการตรวจสอบไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า สาเหตุที่มีความล่าช้าเกิดจากมีขั้นตอนบางอย่างที่ผิดระเบียบจนไม่สามารถนำเข้า ครม. ได้ เมื่อตรวจสอบแล้วก็ได้ให้มีการแก้ไข และขณะนี้ทราบว่าได้มีการดำเนินการไปตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่า จะสำเร็จเสร็จสิ้นภายในเร็วๆ นี้

“ก่อนหน้านี้ท่านนายกฯ ยังไม่ทราบเรื่อง แต่เมื่อท่านทราบถึงปัญหาแล้วก็ได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบแก้ไขอย่างเร่งด่วน มาถึงเวลานี้น่าจะเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ จึงอยากให้ทุกคนสบายใจว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อทราบปัญหาของเกษตรกรแล้วก็เร่งดำเนินการให้ทันที เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วที่จะต้องดูแลประชาชน” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับ ความเดือดร้อนดังกล่าวเป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 กลุ่มตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือได้ยื่นหนังสือขอเยียวยาจากปัญหาลำไยราคาตกต่ำต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ติดตาม เรื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แม้ว่าจะเกิดปัญหาความล่าช้าในขั้นตอนการตรวจสอบจนกระทั่งกระทรวงเกษตรฯ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กษ 1011/90 ลงวันที่ 6 มกราคม 2566 แจ้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ปรับปรุงรายละเอียดโครงการตามข้อแนะนำเรียบร้อยแล้ว โดยมีงบประมาณค่าใช้จ่ายตามโครงการ รวมทั้งสิ้น 3,806,631,678 บาท โดยใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยขอให้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และในปีถัดไปตามเกิดขึ้นจริงให้แก่ ธ.ก.ส.ชำระคืนไม่เกิน 5 ปี

อย่างไรก็ตาม แต่เนื่องจากหนังสือจากกระทรวงเกษตรฯ ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไม่เป็นไปตามขั้นตอนการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล กระทรวงเกษตรฯ และเรื่องเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย จึงได้ส่งคืนกระทรวงเกษตรฯ กลับไปดำเนินการให้ถูกต้องใหม่อีกครั้ง กระทั่งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานายจุรินทร์จึงได้ลงนามหนังสือขออนุมัติโครงการเยียวยาชาวสวนลำไยในที่สุด

จากนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้อนุมัติเงินงบประมาณกว่า 3.8 พันล้านเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือมองว่าเป็นการผลักดันของนายกรัฐมนตรีที่สั่งการให้นายพีระพันธุ์ติดตามเรื่องจนสำเร็จ แม้จะมีปัญหาติดขัดระหว่างทางก็ตาม จึงได้นัดรวมตัวกันมาพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อแสดงความขอบคุณที่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งเรื่องราคาลำไยตกต่ำ พร้อมกับช่วยเร่งผลักดันเงินเยียวยาลำไย ให้กับเกษตรกร ชาวสวนลำไย จนมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

"ณพลเดช" ปิ๊งไอเดีย! เชียงรายศูนย์กลางการเงินโลก-โมเดลสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย หลังออกกฎหมาย เขต ศก.พิเศษ

วันที่ 19 เมษายน 2567     เวลา 11.00 น. ที่ประเทศลาว  ดร.ณพลเดช มณีลังกา คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำส...