วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

วิเคราะห์ ทสรรณกชาดก ให้แล้วไม่เดือดร้อนภายหลังทำได้ยาก

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ ทสรรณกชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๑. กุกกุวรรค   ที่ประกอบด้วย  

 ๖. ทสรรณกชาดก

ให้แล้วไม่เดือดร้อนภายหลังทำได้ยาก

             [๑๐๐๗] บุรุษคนนี้กลืนดาบมีคมกล้า อันเป็นดาบในทสรรณกรัฐ ดื่มกินเลือดผู้

                          อื่นที่ถูกต้องแล้ว ในท่ามกลางบริษัท เหตุอย่างอื่นที่ทำยากกว่าการกลืน

                          ดาบนี้ ยังมีอีกไหม ฉันถามท่านถึงเหตุที่ทำได้ยากอย่างอื่น ขอท่านจง

                          บอกแก่ฉัน?

             [๑๐๐๘] บุรุษกลืนดาบอันดื่มกินเลือดของผู้อื่นที่ถูกต้องได้ เพราะความโลภ ก็ผู้

                          ใดพูดว่าจะให้สิ่งนั้น สิ่งนี้ คำพูดของผู้นั้นทำได้ยากกว่าการกลืนดาบ

                          นั้น เหตุอย่างอื่นทั้งหมดทำได้ง่ายนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชาว

                          มคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบอย่างนี้เถิด.

             [๑๐๐๙] อายุรบัณฑิตเป็นผู้ฉลาดในอรรถธรรม ได้แก้ปัญหาแล้ว บัดนี้ ฉันจะ

                          ถามปุกกุสบัณฑิตบ้าง เหตุอย่างอื่นที่ทำยากกว่าคำพูดนั้น ยังมีอยู่หรือ

                          ฉันถามท่านถึงเหตุที่ทำได้ยากอย่างอื่น ขอท่านจงบอกแก่ฉัน?

             [๑๐๑๐] ชนทั้งหลายย่อมไม่รักษาคำพูดไว้ คำที่พูดนั้นก็ไม่มีผล ผู้ใดให้ปฏิญญาไว้

                          ว่า จะให้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่อยากได้สิ่งนั้นคืน คำพูดของผู้นั้นทำได้ยากกว่า

                          การกลืนดาบ และกว่าคำพูดว่าจะให้สิ่งนั้น สิ่งนี้นั้นเสียอีก เหตุอย่าง

                          อื่นทั้งหมดทำได้ง่าย ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชาวมคธ ขอพระองค์

                          โปรดทรงทราบอย่างนี้เถิด.

             [๑๐๑๑] ปุกกุสบัณฑิตเป็นผู้ฉลาดในอรรถธรรม ได้แก้ปัญหาแล้ว บัดนี้ ฉันจะ

                          ถามเสนกบัณฑิตบ้าง เหตุอย่างอื่นที่ทำยากกว่านั้นยังมีอีกหรือ ฉันถาม

                          ท่านถึงเหตุที่ทำได้ยากอย่างอื่น ขอท่านจงบอกแก่ฉัน?

             [๑๐๑๒] บุรุษควรจะให้ทาน จะน้อย หรือมากก็ตาม ก็ผู้ใดให้ของรักของตน

                          แล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนภายหลัง ข้อนั้นทำได้ยากกว่าการกลืนดาบ

                          กว่าคำว่าจะให้สิ่งนั้น สิ่งนี้ และกว่าการให้ของรักนั้นเสียอีก เหตุ

                          อย่างอื่นทั้งหมดทำได้ง่าย ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชาวมคธ ขอพระ

                          องค์โปรดทรงทราบอย่างนี้เถิด.

             [๑๐๑๓] อายุรบัณฑิตได้แก้ปัญหาแก่ฉันแล้ว อนึ่ง ปุกกุสบัณฑิตก็ได้แก้ปัญหา

                          แก่ฉันแล้ว เสนกบัณฑิตแก้ปัญหาครอบงำปัญหาเสียทั้งหมด ฉันใด

                          ฉันก็ให้ทานนั้นแล้ว หาควรจะเดือดร้อนภายหลังไม่ ฉันนั้น.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ  ทสรรณกชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๑. กุกกุวรรค 

วิเคราะห์ทสรรณกชาดกในบริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

ทสรรณกชาดกปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก กุกกุวรรค ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยหลักการให้ทานและการรักษาคำพูด ในบริบทของพุทธสันติวิธี ชาดกนี้สะท้อนถึงหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับความเสียสละ ความจริงใจ และการรักษาสัญญา ซึ่งเป็นรากฐานของสันติภาพทั้งในระดับบุคคลและสังคม

เนื้อหาของทสรรณกชาดก

ในทสรรณกชาดก มีการอภิปรายถึงการกระทำที่ยากที่สุดผ่านการตั้งคำถามของพระราชาผู้ต้องการหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดในการดำเนินชีวิต มีสามบัณฑิตที่ให้คำตอบที่มีลำดับขั้นของความยากในการปฏิบัติ ดังนี้:

  1. อายุรบัณฑิตระบุว่าการรักษาคำพูดเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่าการกลืนดาบ

  2. ปุกกุสบัณฑิตเสริมว่าการรักษาคำพูดพร้อมทั้งไม่เรียกร้องสิ่งที่ให้ไปกลับคืน เป็นสิ่งที่ยากยิ่งขึ้นไปอีก

  3. เสนกบัณฑิตกล่าวว่าการให้โดยไม่เดือดร้อนภายหลังเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

หลักธรรมที่เกี่ยวข้อง

ทสรรณกชาดกสะท้อนหลักธรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพุทธสันติวิธี ได้แก่:

  1. สัจจะ (ความจริงใจ) – ความสามารถในการรักษาคำพูดเป็นรากฐานของความเชื่อถือและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

  2. ทาน (การให้) – ไม่เพียงแต่เป็นการสละทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงการให้โดยไม่มีความยึดติด

  3. อธิษฐานบารมี (ความตั้งมั่นในสัจจะ) – การรักษาคำมั่นสัญญาเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่มีเสถียรภาพและสันติสุข

การประยุกต์ใช้ในบริบทพุทธสันติวิธี

การสื่อความหมายของทสรรณกชาดกสามารถนำมาใช้ในการสร้างสันติภาพในสังคมได้ในหลายมิติ:

  1. การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคม – การรักษาคำพูดและคำมั่นสัญญาสามารถสร้างสังคมที่มีความมั่นคงและลดความขัดแย้ง

  2. การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน – เป็นแนวทางในการส่งเสริมความเมตตาและลดทัศนคติที่นำไปสู่ความขัดแย้ง

  3. การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม – สามารถนำไปใช้ในกระบวนการสร้างสันติภาพ เช่น การเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง โดยยึดหลักของการให้และการเสียสละ

สรุป

ทสรรณกชาดกให้แนวคิดเชิงปรัชญาเกี่ยวกับความท้าทายของการให้และการรักษาคำพูด ซึ่งเป็นหลักสำคัญของพุทธสันติวิธี การประยุกต์ใช้หลักธรรมดังกล่าวสามารถช่วยเสริมสร้างสังคมที่สงบสุข มีความร่วมมือ และลดความขัดแย้งในระดับบุคคลและสังคมโดยรวม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สูตรลับพลับพลา ซีฟู๊ดไชยา พลวัตเศรษฐกิจฐานราก

วิเคราะห์ความพิเศษของร้านพลับพลา ซีฟู๊ด อำเภอไชยา สุราษฎร์ธานี: มิติทางนิเวศวิทยาวัฒนธรรม พลวัตเศรษฐกิจฐานราก และสุนทรียศาสตร์แห่งรสชาติ บทค...