วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

ปรันตปชาดก ลางบอกความชั่วและภัยที่จะมาถึง

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ ปรันตปชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค    ที่ประกอบด้วย  

 ๑๑. ปรันตปชาดก

ลางบอกความชั่วและภัยที่จะมาถึง

             [๑๑๑๔] ความชั่วและภัยจักมาถึงเรา เพราะกิ่งไม้ไหวคราวนั้น จะเป็นด้วยมนุษย์

                          หรือเนื้อทำให้ไหว ก็ไม่ปรากฏ.

             [๑๑๑๕] ความกระสันถึงนางพราหมณีผู้หวาดกลัวซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก จักทำให้เรา

                          ผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้ทำนายปรันตปะให้ผอมเหลือง ฉะนั้น.

             [๑๑๑๖] ภรรยาที่รักของเราอยู่ในบ้านเมืองพาราณสี มีรูปงาม จักเศร้าโศกถึงเรา

                          ความเศร้าโศกจักทำให้นางผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้ทำนายปรันตปะให้

                          ผอมเหลือง ฉะนั้น.

             [๑๑๑๗] หางตาที่เจ้าชำเลืองมาก็ดี การที่เจ้ายิ้มแย้มก็ดี เสียงที่เจ้าพูดก็ดี จักทำ

                          เราให้ผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้ทำนายปรันตปะให้ผอมเหลือง ฉะนั้น.

             [๑๑๑๘] เสียงกิ่งไม้นั้นได้มาปรากฏแก่ท่านแล้ว เสียงนั้นชะรอยจะมาบอกท่านได้

                          แน่แล้ว ผู้ใดสั่นกิ่งไม้นั้น ผู้นั้นได้มาบอกเหตุนั้นแน่แล้ว.

             [๑๑๑๙] การที่เราผู้โง่เขลาคิดไว้ว่า กิ่งไม้ที่มนุษย์ หรือเนื้อทำให้ไหวในคราวนั้น

                          ได้มาถึงเราเข้าแล้ว ฯ

             [๑๑๒๐] ท่านได้รู้ด้วยประการนั้นแล้ว ยังลวงฆ่าพระชนกของเราแล้ว เอากิ่งไม้

                          ปกปิดไว้ บัดนี้ ภัยจักตกมาถึงท่านบ้างละ.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ปรันตปชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๒. คันธารวรรค

 วิเคราะห์ "ปรันตปชาดก" ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27
ในบริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมประยุกต์ใช้


บทนำ

ปรันตปชาดก เป็นหนึ่งในชาดกที่ปรากฏใน พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก โดยเฉพาะในหมวดคันธารวรรค (เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองคันธาระ) ชาดกนี้มีเนื้อหาสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์และคำสอนทางศีลธรรม ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ในแง่ของพุทธสันติวิธี (Buddhist Peace Principles) และการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลึกซึ้ง

ชาดกนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำนายภัยผ่าน "กิ่งไม้ไหว" ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงความชั่วร้ายและการทำลายล้างที่จะเกิดขึ้นแก่บุคคลหรือสังคม การศึกษาปรันตปชาดกจึงไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้เรื่องราวในอดีตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราเข้าใจหลักธรรมสำคัญที่สามารถนำไปใช้ในการสร้างความสงบสุขและความสามัคคีในสังคมปัจจุบัน


สาระสำคัญของปรันตปชาดก

ชาดกเรื่องนี้เล่าถึงบุคคลที่ได้ยินเสียงกิ่งไม้ไหว และมองว่าเป็นลางบอกเหตุแห่งภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึงตนเองและคนรอบข้าง ตัวอย่างเช่น:

  1. [๑๑๑๔] กิ่งไม้ไหวอาจเป็นสัญญาณของภัยที่มาจากมนุษย์หรือสัตว์ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใครหรืออะไรเป็นต้นเหตุ
  2. [๑๑๑๕] ความกระสันหรือความอยากที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ อาจทำให้บุคคลผอมเหลืองและเสื่อมโทรมลง
  3. [๑๑๑๖] ความเศร้าโศกจากการพลัดพรากจากคนรัก อาจทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังรู้สึกทุกข์ทรมานจนสภาพจิตใจเสียหาย
  4. [๑๑๑๗] การแสดงออก เช่น หางตาชำเลือง รอยยิ้ม หรือเสียงพูด อาจกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเจ็บปวดในใจ
  5. [๑๑๑๘] กิ่งไม้อาจเป็นสื่อกลางที่บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น และบุคคลที่ทำให้กิ่งไม้ไหวอาจเป็นผู้ที่พยายามส่งสารเตือนภัย
  6. [๑๑๑๙-๑๑๒๐] เมื่อบุคคลไม่ใส่ใจต่อสัญญาณเตือน ผลลัพธ์คือการทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม เช่น การลวงฆ่าบิดาของตน ซึ่งจะนำมาซึ่งผลกรรมที่ตามมาในภายหลัง

ชาดกนี้จึงสะท้อนถึงแนวคิดเรื่อง "การรู้จักฟังสัญญาณเตือน" และ "การดำเนินชีวิตด้วยปัญญา" เพื่อหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่ผิดพลาด


วิเคราะห์ในบริบทพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธีมุ่งเน้นการสร้างสันติภาพภายในจิตใจของแต่ละบุคคล และขยายออกไปสู่สังคมโดยรวม ปรันตปชาดกสามารถนำมาวิเคราะห์ในแง่ของพุทธสันติวิธีได้ดังนี้:

1. การรู้จักฟังสัญญาณเตือน

ในชาดกนี้ กิ่งไม้ไหวเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนภัยที่โลกธรรม (โลกาธิปไตย) หรือสถานการณ์รอบตัวส่งมา หากบุคคลมีสติและปัญญาที่จะรับรู้และวิเคราะห์สัญญาณเหล่านี้ จะสามารถหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดศีลธรรมได้ นี่คือการปฏิบัติตามหลัก สติปัฏฐาน (การระลึกรู้ในกาย เวทนา จิต และธรรม)

2. การควบคุมอารมณ์และความอยาก

ความกระสันและความเศร้าโศกที่กล่าวถึงในชาดก เป็นตัวอย่างของการปล่อยให้กิเลสครอบงำจิตใจ เมื่อใดที่บุคคลไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ก็จะนำไปสู่การกระทำที่ขาดปัญญา เช่น การลวงฆ่าบิดาในชาดกนี้ การฝึกฝน สมาธิ และ วิปัสสนา จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสันติภาพภายในจิตใจ

3. ผลกระทบของการกระทำที่ผิดศีลธรรม

การลวงฆ่าบิดาในชาดกนี้แสดงให้เห็นถึงผลกรรมที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การกระทำที่ผิดศีลธรรมไม่เพียงแต่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเท่านั้น แต่ยังสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้กระทำเองด้วย หลัก กรรมวิปาก (ผลของการกระทำ) จึงเป็นเครื่องเตือนใจว่าทุกการกระทำย่อมมีผลตอบแทน

4. การเคารพต่อผู้อาวุโส

ชาดกนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของการเคารพต่อผู้อาวุโส การลวงฆ่าบิดาในเรื่องนี้เป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมและธรรมชาติของมนุษย์ การเคารพต่อผู้อาวุโสจึงเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสันติสุขในครอบครัวและสังคม


การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

  1. การพัฒนาสติและปัญญา : เราควรฝึกฝนตนเองให้มีสติในการรับรู้สิ่งรอบตัว และใช้ปัญญาในการวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่ผิดพลาด
  2. การควบคุมอารมณ์ : การฝึกฝนตนเองให้มีความสงบเยือกเย็น และไม่ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ จะช่วยลดความขัดแย้งในชีวิตประจำวัน
  3. การเคารพผู้อื่น : การเคารพต่อผู้อาวุโสและผู้ที่มีบุญคุณต่อเรา เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม
  4. การยอมรับผลกรรม : การยอมรับว่าทุกการกระทำย่อมมีผลตอบแทน จะช่วยให้เรามีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นโทษ

บทสรุป

ปรันตปชาดกในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 เป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยคติธรรมและคำสอนที่ลึกซึ้ง การศึกษาและวิเคราะห์ชาดกนี้ในบริบทพุทธสันติวิธีช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของการรู้จักฟังสัญญาณเตือน การควบคุมอารมณ์ และการเคารพต่อผู้อื่น ตลอดจนการยอมรับผลกรรมจากการกระทำของเราเอง หลักธรรมเหล่านี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างความสงบสุขและความสามัคคีในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...