วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

อัฏฐิเสนชาดก ว่าด้วยการขอ

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ อัฏฐิเสนชาดก  ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๑. กุกกุวรรค   ที่ประกอบด้วย  

 ๘. อัฏฐิเสนชาดก

ว่าด้วยการขอ

             [๑๐๒๑] ข้าแต่ท่านอัฏฐิเสนะ วณิพกเหล่าใดที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก วณิพกเหล่านั้นมา

                          หาข้าพเจ้าแล้วเป็นต้องขอ เหตุไรพระผู้เป็นเจ้า จึงไม่ขออะไรๆ

                          ข้าพเจ้า?

             [๑๐๒๒] ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ถูกขอ ผู้ถูกขอเมื่อไม่ให้ก็ไม่เป็นที่รักของผู้ขอ

                          เพราะเหตุนั้น อาตมภาพจึงไม่ทูลขออะไรพระองค์ โดยคิดเห็นว่า

                          อาตมภาพอย่าหมางใจกับพระองค์เสียเลย.

             [๑๐๒๓] ผู้ใดเป็นอยู่ด้วยการขอ ย่อมไม่ขอสิ่งที่ควรขอ ในเวลาที่ควรขอ ผู้นั้น

                          ย่อมทำให้ผู้อื่นเสื่อมจากบุญ แม้ตัวเองก็หาเลี้ยงชีพไม่สะดวก.

             [๑๐๒๔] ส่วนผู้ใดเป็นอยู่ด้วยการขอ ย่อมขอสิ่งที่ควรขอในเวลาที่ควรขอ ผู้นั้น

                          ย่อมทำให้ผู้อื่นได้บุญ แม้ตัวเองก็หาเลี้ยงชีพสะดวกด้วย.

             [๑๐๒๕] ผู้มีปัญญาเห็นยาจกมาแล้ว ย่อมไม่โกรธเลย ท่านผู้ประพฤติพรหมจรรย์

                          เป็นที่พอใจของข้าพเจ้า ท่านต้องการอะไร เชิญบอกมาเถิด ข้าพเจ้าจะให้

                          ทุกอย่าง.

             [๑๐๒๖] ผู้มีปัญญาย่อมไม่ออกปากขอเลย ส่วนผู้ที่ฉลาดควรจะรู้ความต้องการได้

                          เอง พระอริยะทั้งหลาย ย่อมไม่ออกปากขอ มีแต่ยืนนิ่งอยู่ ด้วย

                          ภิกขาจารวัตรเท่านั้น นี่เป็นอาการขอของพระอริยะทั้งหลาย.

             [๑๐๒๗] ข้าแต่ท่านพราหมณ์ ข้าพเจ้าขอถวายโคนมสีแดงพันตัว พร้อมทั้งโคผู้พัน

                          ตัวแก่ท่าน เพราะว่า ผู้ที่มีมารยาทดังพระอริยะ ได้ฟังคาถาอันประกอบ

                          ไปด้วยธรรมของท่านแล้ว จะไม่ถวายแก่ท่านผู้มีมารยาทดังพระอริยะ

                          อย่างไรได้.

จบ อัฏฐิเสนชาดกที่ ๘.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ อัฏฐิเสนชาดก    ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๑. กุกกุวรรค 

วิเคราะห์อัฏฐิเสนชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทคัดย่อ อัฏฐิเสนชาดกเป็นชาดกหนึ่งในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกายชาดก สัตตกนิบาตชาดก กุกกุวรรค ที่กล่าวถึงหลักธรรมเกี่ยวกับการขอและการให้ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการวางตนที่เหมาะสมในบริบททางสังคมและจริยธรรม บทความนี้วิเคราะห์อัฏฐิเสนชาดกผ่านมุมมองพุทธสันติวิธี โดยมุ่งเน้นที่การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข หลักแห่งการให้ที่เป็นกุศล และการวางตนของผู้ขอในฐานะนักบวชหรือผู้ทรงศีล ตลอดจนการนำหลักธรรมเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน

1. บทนำ อัฏฐิเสนชาดกนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการขอและการให้ ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคม หลักธรรมในชาดกนี้ไม่เพียงแสดงถึงการให้ทานและการขอทานในแง่ของการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดเชิงจริยธรรมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้และผู้รับ ตลอดจนการใช้ปัญญาและเมตตาในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะในบริบทของพุทธสันติวิธีที่เน้นการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

2. การวิเคราะห์อัฏฐิเสนชาดก อัฏฐิเสนชาดกบรรยายถึงบทสนทนาระหว่างอัฏฐิเสนะผู้เป็นสมณะกับผู้ครองเรือน โดยมีสาระสำคัญดังนี้:

2.1 แนวคิดเรื่องการขอและการให้ อัฏฐิเสนชาดกชี้ให้เห็นว่า การขออาจทำให้เกิดความไม่พอใจระหว่างผู้ให้และผู้รับ ดังคำกล่าวที่ว่า "ผู้ขอย่อมไม่เป็นที่รักของผู้ถูกขอ" และ "ผู้ถูกขอเมื่อไม่ให้ก็ไม่เป็นที่รักของผู้ขอ" แสดงให้เห็นว่าการขอโดยปราศจากความเหมาะสมอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งและความไม่เข้าใจกัน

2.2 หลักธรรมของผู้ทรงศีลในการขอ สมณะผู้ทรงศีลมีวิธีการขอที่แตกต่างจากคนทั่วไป คือไม่ขอโดยตรง แต่ใช้วิธีแสดงออกทางพฤติกรรมที่เรียบร้อยและสำรวม ดังที่ปรากฏในคำกล่าวของอัฏฐิเสนะว่า "พระอริยะทั้งหลายย่อมไม่ออกปากขอ มีแต่ยืนนิ่งอยู่ด้วยภิกขาจารวัตรเท่านั้น นี่เป็นอาการขอของพระอริยะทั้งหลาย" แสดงถึงความสำรวมของนักบวชที่ไม่แสดงความโลภหรือความต้องการโดยตรง

2.3 คุณค่าทางศีลธรรมและสังคมของการให้ทาน เมื่อผู้ให้เข้าใจถึงเจตนาของผู้ขอและให้ด้วยศรัทธา ผลที่ได้รับคือการเพิ่มพูนบุญกุศล ดังที่กล่าวไว้ว่า "ผู้ที่ฉลาดควรจะรู้ความต้องการได้เอง" ซึ่งสะท้อนถึงการให้ที่มีปัญญาและความเมตตา การให้ในบริบทของชาดกนี้ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือทางวัตถุ แต่ยังเป็นการส่งเสริมคุณธรรมและความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม

3. การประยุกต์ใช้หลักธรรมของอัฏฐิเสนชาดกในพุทธสันติวิธี พุทธสันติวิธีหมายถึงแนวทางการสร้างสันติภาพโดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งอัฏฐิเสนชาดกสามารถนำมาใช้ในหลายบริบท เช่น:

3.1 การส่งเสริมการให้ที่มีปัญญา หลักธรรมจากชาดกนี้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนานโยบายการสงเคราะห์ทางสังคม โดยเน้นการให้ที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้รับ และช่วยให้เกิดความยั่งยืนในการดำรงชีวิต

3.2 การเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ให้และผู้รับ ในสังคมปัจจุบัน การให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของผู้รับอาจทำให้เกิดความไม่พอใจ การให้ควรดำเนินไปด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน

3.3 การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขโดยใช้เมตตาและขันติ อัฏฐิเสนชาดกสอนให้เห็นถึงความสำคัญของการไม่เรียกร้องและการเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในระดับบุคคลและสังคม

4. บทสรุป อัฏฐิเสนชาดกเป็นชาดกที่ให้ข้อคิดสำคัญเกี่ยวกับการขอและการให้ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทของพุทธสันติวิธีเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุข หลักธรรมที่กล่าวถึงในชาดกนี้เน้นการให้ที่มีปัญญา การขอที่เหมาะสม และการสร้างความเข้าใจระหว่างกัน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...