เรื่องวิเคราะห์ อาทิตตชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ๑. กัจจานิวรรค ที่ประกอบด้วย
๘. อาทิตตชาดก ว่าด้วยการให้ทานกับการรบ
[๑๑๘๐] เมื่อเรือนถูกไฟไหม้ บุคคลผู้เป็นเจ้าของขนเอาสิ่งของอันใดออกได้ สิ่ง
ของอันนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เจ้าของนั้น แต่ของที่ถูกไฟไหม้ย่อมไม่
เป็นประโยชน์แก่เขา.
[๑๑๘๑] โลกถูกชราและมรณะเผาแล้วอย่างนี้ บุคคลพึงนำออกเสียด้วยการให้ทาน
ทานที่ให้แล้วจะน้อยก็ตามมากก็ตาม ชื่อว่าเป็นอันนำออกดีแล้ว.
[๑๑๘๒] คนใดให้ทานแก่ท่านผู้มีธรรมอันได้แล้ว ผู้บรรลุธรรมด้วยความเพียรและ
ความหมั่น คนนั้นล่วงเลยเวตรณีนรกของพระยายมไปได้แล้ว จะเข้า
ถึงทิพยสถาน.
[๑๑๘๓] ท่านผู้รู้กล่าวทานกับการรบว่ามีสภาพเสมอกัน นักรบแม้จะมีน้อยก็ชำนะ
คนมากได้ เจตนาเครื่องบริจาคก็เหมือนกัน แม้จะน้อย ย่อมชำนะหมู่
กิเลสแม้มากได้ ถ้าบุคคลเชื่อกรรมและผลแห่งกรรม ย่อมให้ทานแม้
น้อย เขาก็เป็นสุขในโลกหน้า เพราะการบริจาคมีประมาณน้อยนั้น.
[๑๑๘๔] การเลือกทักขิณาทานและพระทักขิไณยบุคคลแล้วจึงให้ทาน พระสุคต
ทรงสรรเสริญ ทานที่บุคคลถวายในพระทักขิไณยบุคคล มีพระพุทธเจ้า
เป็นต้น ซึ่งมีอยู่ในสัตว์โลกนี้ ย่อมมีผลมาก เหมือนพืชที่หว่านลงใน
นาดี ฉะนั้น.
[๑๑๘๕] บุคคลใดไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายเที่ยวไปอยู่ ไม่ทำบาป เพราะกลัวคน
อื่นจะติเตียน บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญบุคคลผู้กลัวบาปนั้น ย่อม
ไม่สรรเสริญบุคคลผู้กล้าในการทำบาป เพราะว่าสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่
ทำบาป เพราะความกลัวถูกติเตียน.
[๑๑๘๖] บุคคลย่อมเกิดในสกุลกษัตริย์เพราะพรหมจรรย์อย่างต่ำ เกิดในเทวโลก
เพราะพรหมจรรย์อย่างกลาง และบริสุทธิ์ได้เพราะพรหมจรรย์อย่างสูง.
[๑๑๘๗] ทานท่านผู้รู้สรรเสริญโดยส่วนมากก็จริง แต่ว่าบทแห่งธรรมแลประเสริฐ
กว่าทาน เพราะว่าสัตบุรุษทั้งหลายในครั้งก่อน หรือว่าก่อนกว่านั้นอีก
ผู้มีปัญญาเจริญสมถวิปัสสนาแล้วได้บรรลุนิพพานนั่นเทียว.
ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ อาทิตตชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ๑. กัจจานิวรรค
วิเคราะห์อาทิตตชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้
บทนำ อาทิตตชาดก ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ๑. กัจจานิวรรค เป็นชาดกที่กล่าวถึงความสำคัญของการให้ทานและการรบ ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ในแง่ของพุทธสันติวิธี เพื่อแสดงให้เห็นถึงหลักธรรมที่สามารถประยุกต์ใช้ในการสร้างสันติสุขในสังคมปัจจุบัน
1. หลักธรรมสำคัญในอาทิตตชาดก อาทิตตชาดกสื่อสารหลักธรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพุทธสันติวิธี ได้แก่:
1.1 หลักอนิจจังและการปล่อยวาง
อุปมาการถูกไฟไหม้สะท้อนให้เห็นว่าโลกนี้ถูกเผาด้วยความชรามรณะ สิ่งใดที่สามารถนำออกจากเพลิงนี้ได้ย่อมเป็นประโยชน์ เปรียบเทียบได้กับการให้ทานซึ่งเป็นการละวางและนำตนออกจากทุกข์
1.2 หลักทานบารมีและอานิสงส์ของทาน
การให้ทานแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังมีอานิสงส์ โดยเฉพาะเมื่อให้แก่ผู้มีศีล ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ย่อมเป็นการสร้างสังคมที่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของสันติภาพ
1.3 หลักการเปรียบเทียบการให้ทานกับการรบ
การให้ทานเปรียบได้กับการรบกับกิเลสในจิตใจ ผู้ที่มีศรัทธาและตั้งใจบริจาค แม้มีทรัพย์น้อยก็สามารถชนะกิเลสได้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสันติวิธีในการใช้ปัญญาและเมตตาเพื่อเอาชนะความขัดแย้ง
1.4 หลักการเลือกทานให้ถูกบุคคล
การให้ทานในพระทักขิไณยบุคคล เช่น พระพุทธเจ้า หรือพระอริยบุคคล ย่อมให้ผลบุญมาก เหมือนการหว่านพืชในนาดี เป็นแนวคิดที่สะท้อนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างสันติสุข
1.5 หลักการเว้นจากการเบียดเบียน
ผู้ที่หลีกเลี่ยงการเบียดเบียนและความรุนแรง ย่อมได้รับการยกย่อง ซึ่งเป็นแนวทางของพุทธสันติวิธีที่เน้นการไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
1.6 หลักกรรมและผลของกรรม
ความเชื่อในผลของกรรมส่งเสริมให้บุคคลกระทำความดี และหลีกเลี่ยงความชั่ว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมที่สงบสุข
1.7 หลักพรหมจรรย์และความบริสุทธิ์ทางจิตใจ
การปฏิบัติพรหมจรรย์นำไปสู่การเกิดในภูมิที่สูงขึ้น หรือแม้แต่การบรรลุนิพพาน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาตนเองให้พ้นจากความขัดแย้งและความทุกข์
1.8 การให้ทานกับปัญญาวิมุตติ
แม้ว่าการให้ทานจะมีคุณค่า แต่การเข้าถึงธรรมะและปฏิบัติสมถวิปัสสนาย่อมประเสริฐกว่า เพราะเป็นหนทางสู่การดับทุกข์โดยสิ้นเชิง
2. การประยุกต์ใช้หลักธรรมในบริบทพุทธสันติวิธี จากหลักธรรมในอาทิตตชาดก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในพุทธสันติวิธีได้ดังนี้:
2.1 การส่งเสริมจิตสำนึกในการให้ทาน
การปลูกฝังวัฒนธรรมการให้และความเมตตาในสังคมจะช่วยลดความขัดแย้งและความเห็นแก่ตัว
2.2 การใช้สติและปัญญาในการแก้ไขความขัดแย้ง
การเปรียบเทียบการให้ทานกับการรบสื่อให้เห็นว่า สติและปัญญาสามารถเอาชนะกิเลสและความขัดแย้งได้ เช่นเดียวกับการใช้แนวทางสันติในการระงับข้อพิพาท
2.3 การเลือกสนับสนุนผู้มีศีลธรรม
การให้ความสนับสนุนแก่ผู้นำที่มีศีลธรรมและมีความมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ของสังคม ย่อมนำไปสู่ความสงบสุขและความมั่นคง
2.4 การส่งเสริมแนวคิดอหิงสาและการไม่เบียดเบียน
การละเว้นจากความรุนแรงในทุกระดับ ตั้งแต่บุคคล ครอบครัว ไปจนถึงระดับชาติและนานาชาติ จะช่วยลดความรุนแรงและส่งเสริมสันติสุข
2.5 การสร้างความเข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรม
การทำให้สังคมตระหนักว่าการกระทำทุกอย่างมีผลตามมา จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนเลือกทำความดีมากกว่าการกระทำที่นำไปสู่ความขัดแย้ง
2.6 การให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิตใจและปัญญา
นอกจากการให้ทานทางวัตถุแล้ว การให้ธรรมะและการศึกษาเพื่อพัฒนาจิตใจ จะช่วยให้สังคมมีพื้นฐานทางจริยธรรมที่เข้มแข็ง
บทสรุป อาทิตตชาดกแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ทานและการใช้ปัญญาในการเผชิญกับความทุกข์และความขัดแย้ง ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทของพุทธสันติวิธี การส่งเสริมคุณค่าของการให้ การใช้สติปัญญา และการหลีกเลี่ยงความรุนแรง ล้วนเป็นแนวทางที่นำไปสู่การสร้างสังคมที่สงบสุขและยั่งยืน.
เอกสารอ้างอิง
พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
งานวิจัยและบทความทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น