วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

พกพรหมชาดก ว่าด้วยศีลและพรตของพกพรหม

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ กพรหมชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๑. กุกกุวรรค   ที่ประกอบด้วย  

 ๑๐. พกพรหมชาดก ว่าด้วยศีลและพรตของพกพรหม

             [๑๐๓๕] ข้าแต่พระโคดม ข้าพระองค์มีอยู่ ๗๒ คน ล้วนได้ทำบุญมาแล้ว มี

                          อำนาจแผ่ทั่วไป ล่วงชาติและชราได้แล้ว การเกิดเป็นพรหมนี้ เป็นที่

                          สุด สำเร็จได้ด้วยพระเวท ชนเป็นอันมากมุ่งหวังอยากให้เป็นอย่าง

                          พวกข้าพระองค์.

             [๑๐๓๖] ดูกรพกพรหม อายุของท่านนี้น้อย ไม่มากเลย ท่านมาสำคัญว่าอายุ

                          ของท่านมากตั้งแสนนิรัพพุทะ (ร้อยคูณแสน ๑๐ ล้านปี) ดูกร

                          พกพรหม เรารู้อายุของท่าน.

             [๑๐๓๗] ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ตรัสว่า พระองค์รู้กำหนดอายุของข้า-

                          พระองค์ และตรัสว่ารู้เห็นไม่มีที่สิ้นสุด เป็นผู้ล่วงชาติชราและความโศก

                          ได้แล้ว ขอพระองค์จงตรัสบอกการสมาทานพรต และศีลวัตร ของข้า-

                          พระองค์ ครั้งก่อนว่าเป็นอย่างไร ข้าพระองค์ขอทราบตามความเป็นจริง

                          ที่พระองค์ตรัสบอก?

             [๑๐๓๘] ท่านได้ช่วยมนุษย์เป็นอันมากผู้ถูกแดดแผดเผา กระหายน้ำจัดให้ได้ดื่ม

                          น้ำ เราระลึกถึงการสมาทานพรต และศีลวัตรครั้งก่อนของท่านนั้นได้

                          ดุจนอนหลับฝันตื่นขึ้นจำได้ ฉะนั้น.

             [๑๐๓๙] ท่านได้ช่วยมหาชน ผู้ถูกหมู่โจรจับไปจะให้เป็นเชลยให้พ้นมาได้ ที่ริม

                          ฝั่งแม่น้ำเอณิ เรายังระลึกถึงการสมาทานพรต และศีลวัตรครั้งก่อน

                          ของท่านนั้นได้ ดุจนอนหลับฝันตื่นขึ้นจำได้ ฉะนั้น.

             [๑๐๔๐] ท่านได้ทุ่มเทกำลังเข้าช่วยพวกมนุษย์ ผู้ไปเรือในกระแสแม่น้ำคงคา ให้

                          พ้นจากนาคราชผู้ตัวดุร้าย มักทำมนุษย์ให้พินาศ เรายังระลึกถึงการ

                          สมาทานพรตและศีลวัตรครั้งก่อน ของท่านนั้นได้ ดุจนอนหลับฝันตื่น

                          ขึ้นจำได้ ฉะนั้น.

             [๑๐๔๑] อนึ่ง เราเองมีชื่อว่ากัปปะ ได้เคยเป็นอันเตวาสิกของท่าน ได้รู้แล้วว่า

                          ท่านเป็นดาบสที่มีปัญญาและวัตรดีผู้หนึ่ง เรายังระลึกถึงการสมาทานพรต

                          และศีลวัตรครั้งก่อนของท่านนั้นได้ ดุจนอนหลับฝันตื่นขึ้นจำได้ ฉะนั้น.

             [๑๐๔๒] พระองค์ทรงทราบชัดอายุของข้าพระองค์ ได้แน่นอน แม้สิ่งอื่นพระองค์

                          ก็ทรงทราบ พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง เพราะเหตุนั้นแล

                          พระรัศมีอันรุ่งเรืองของพระองค์นี้ จึงได้ส่องพรหมโลกให้สว่างไสวอยู่.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ กพรหมชาดก    ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๑. กุกกุวรรค

วิเคราะห์ กพรหมชาดก ในบริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

กพรหมชาดก ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก กุกกุวรรค ว่าด้วยศีลและพรตของพกพรหม ชาดกนี้มีสาระสำคัญเกี่ยวกับศีล ความเมตตา และการกระทำความดีที่ส่งผลให้เกิดภาวะอันประเสริฐในพรหมโลก ทั้งนี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแนวคิดพุทธสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวทางในการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนผ่านหลักธรรมทางพุทธศาสนา

สาระสำคัญของกพรหมชาดก

กพรหมชาดกกล่าวถึงพกพรหม ผู้ซึ่งสำคัญตนว่ามีอายุยืนยาวและได้ถึงภาวะพรหมด้วยผลแห่งพระเวท พระพุทธเจ้าได้ทรงชี้ให้เห็นว่าความดีและบุญกุศลที่พกพรหมได้กระทำเป็นเหตุให้ได้เกิดในพรหมโลก ไม่ใช่เพียงเพราะการท่องพระเวทเท่านั้น ตัวอย่างการกระทำของพกพรหมที่ถูกกล่าวถึง ได้แก่:

  1. การช่วยเหลือผู้กระหายน้ำ

  2. การช่วยเหลือผู้ที่ถูกโจรจับเป็นเชลย

  3. การช่วยเหลือผู้เดินทางที่ตกอยู่ในอันตรายจากนาคราช

  4. การเป็นอาจารย์ผู้มีปัญญาและวัตรดี

กพรหมชาดกในบริบทพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธีเป็นแนวทางในการสร้างสันติภาพที่อาศัยหลักธรรมทางพุทธศาสนา โดยมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับกพรหมชาดกได้ดังนี้:

  1. เมตตา (ความรักและปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์) – การช่วยเหลือผู้ที่ประสบความทุกข์ในชาดกสะท้อนถึงการมีเมตตาอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นรากฐานของสันติวิธี

  2. กรุณา (ความสงสารและช่วยเหลือผู้ตกทุกข์) – พกพรหมช่วยเหลือผู้ตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าจะเป็นผู้กระหายน้ำ ผู้ถูกโจรจับ หรือผู้ประสบภัยจากนาคราช ซึ่งเป็นการแสดงออกของกรุณา

  3. มุทิตา (ความยินดีในความดีของผู้อื่น) – พกพรหมได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าในฐานะผู้มีวัตรดี และท่านเองก็ยินดีที่ได้รับคำยืนยันถึงผลแห่งกรรมดี

  4. อุเบกขา (การวางใจเป็นกลางด้วยปัญญา) – พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่าอายุของพกพรหมนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับกาลอันยาวนาน ซึ่งเป็นการเตือนให้ละทิ้งอัตตาและมุ่งสู่ปัญญาแท้จริง

การประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน

กพรหมชาดกสามารถนำมาปรับใช้ในสังคมสมัยใหม่ได้โดยเน้นที่หลักเมตตาธรรมและการช่วยเหลือกัน เช่น:

  1. การส่งเสริมการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ – การดำเนินชีวิตตามหลักเมตตากรุณา เช่น การอาสาสมัคร การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ และการแบ่งปันทรัพยากร

  2. การใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง – การนำแนวคิดพุทธสันติวิธีมาใช้ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งระดับบุคคลและสังคม

  3. การปลูกฝังศีลและวัตรที่ดีในระบบการศึกษา – การส่งเสริมศีลธรรมในระบบการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองที่มีคุณธรรมและจริยธรรม

บทสรุป

กพรหมชาดกสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศีลและพรตในฐานะเครื่องนำพาไปสู่ภาวะอันประเสริฐ และสามารถเชื่อมโยงกับแนวคิดพุทธสันติวิธี ซึ่งเป็นแนวทางในการสร้างสันติภาพผ่านเมตตาธรรมและการช่วยเหลือกัน การประยุกต์ใช้ชาดกนี้ในสังคมปัจจุบันจะช่วยเสริมสร้างความสงบสุขและความร่วมมือระหว่างมนุษย์ในระดับต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...