วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

กุมมาสปิณฑชาดก ว่าด้วยอานิสงส์ถวายขนมกุมมาส

วิเคราะห์ ๑๐. กุมมาสปิณฑชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค    ที่ประกอบด้วย  

๑๐. กุมมาสปิณฑชาดก

ว่าด้วยอานิสงส์ถวายขนมกุมมาส

             [๑๑๐๗] ได้ยินว่า การทำสามีจิกรรมในพระปัจเจกพุทธเจ้าชื่อว่าอโนมทัสสี มี

                          คุณไม่น้อยเลย เชิญดูผลแห่งก้อนขนมกุมมาสแห้ง ไม่มีรสเค็ม. ส่งผล

                          ให้เราได้ช้าง ม้า วัว ทรัพย์ ข้าวเปลือกเป็นอันมากนี้ ตลอดทั้งแผ่น

                          ดินทั้งสิ้น และนางนารีเหล่านี้เปรียบด้วยนางอัปสร เชิญดูผลแห่งก้อน

                          ขนมกุมมาส.

             [๑๑๐๘] ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ผู้มีอัธยาศัยเป็นกุศล ผู้บำรุงรัฐให้เจริญ

                          พระองค์ตรัสคาถาเพลงขับเสมอๆ ขอพระองค์ผู้มีพระทัยเปี่ยมด้วยปีติ

                          อันแรงกล้า ได้โปรดตรัสบอกใจความแห่งคาถาเพลงขับที่หม่อมฉันทูล

                          ถามนั้นเถิด.

             [๑๑๐๙] เราเกิดในตระกูลหนึ่งในนครนี้แหละ เป็นลูกจ้างทำงานให้คนอื่น ถึง

                          จะเป็นลูกจ้างทำการงานเลี้ยงชีวิต แต่เราก็มีศีลสังวร. วันนั้นเราออก

                          ไปทำงาน ได้เห็นสมณะ ๔ รูป ผู้ประกอบไปด้วยอาจาระและศีล เป็นผู้

                          เยือกเย็น ไม่มีอาสวะ.

                          เรามีจิตเลื่อมใสในสมณะเหล่านั้น จึงนิมนต์ให้ท่านนั่งบนอาสนะที่ลาด

                          ด้วยใบไม้แล้ว ได้ถวายขนมกุมมาสแก่ท่านด้วยมือของตน. ผลแห่งกุศล

                          กรรมนั้นของเราเป็นเช่นนี้ เราจึงได้เสวยราชสมบัตินี้ อันมีแผ่นดินแผ่

                          ไพศาลไปด้วยสมบัติทุกชนิด.

             [๑๑๑๐] ข้าแต่พระองค์ผู้มีอัธยาศัยเป็นกุศล พระองค์ทรงประทานเสียก่อน จึงค่อย

                          เสวยเอง พระองค์อย่าทรงประมาทในบุญทั้งหลายมีทานเป็นต้น พระองค์

                          จงทรงยังจักร ๔ มีการอยู่ในประเทศอันสมควรเป็นต้นให้เป็นไป อย่าได้

                          ทรงตั้งอยู่ในอธรรมเลย จงทรงดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมเถิด.

             [๑๑๑๑] ดูกรพระราชธิดาของพระเจ้าโกศลผู้เลอโฉม เรานั้นจักประพฤติตามทางที่

                          พระอริยเจ้าประพฤติมาแล้วนั้นแลเสมอๆ พระอรหันต์ทั้งหลายเป็นที่

                          พอใจของเราแท้ เราปรารถนาจะได้เห็นท่าน.

             [๑๑๑๒] ดูกรนางเทวีผู้เป็นพระราชธิดาที่รักของพระเจ้าโกศล เจ้างดงามอยู่ใน

                          ท่ามกลางหมู่นารี เปรียบเหมือนนางเทพอัปสรฉะนั้น เจ้าได้ทำกรรมดี

                          งามอะไรไว้ เจ้าเป็นผู้มีผิวพรรณผุดผ่องอย่างนี้ เพราะกรรมอะไร?

             [๑๑๑๓] ข้าแต่พระมหากษัตริย์ หม่อมฉันเป็นทาสีทำการรับใช้ของตระกูลกฏุมพี

                          เป็นผู้สำรวมระวัง เป็นอยู่โดยธรรม มีศีล มีความเห็นชอบธรรม.

                          คราวนั้น หม่อมฉันมีจิตโสมนัส ได้ถวายอาหารที่เป็นส่วนของหม่อม

                          ฉัน แก่พระปัจเจกพุทธเจ้าผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาตอยู่ ด้วยมือตนเอง

                          ผลแห่งกรรมนั้นของหม่อมฉัน เป็นเช่นนี้.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ ๑๐. กุมมาสปิณฑชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก

๒. คันธารวรรค

วิเคราะห์ "กุมมาสปิณฑชาดก" ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 สัตตกนิบาตชาดก

บทนำ

"กุมมาสปิณฑชาดก" เป็นหนึ่งในเรื่องราวชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงถึงอานิสงส์ของการทำบุญ โดยเฉพาะการถวายอาหารแก่สมณะหรือผู้ปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงผลของกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตในปัจจุบันและอนาคต บทความนี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์สาระสำคัญของ "กุมมาสปิณฑชาดก" ในบริบทพุทธสันติวิธี และการประยุกต์ใช้หลักธรรมในชีวิตประจำวัน


สาระสำคัญของ "กุมมาสปิณฑชาดก"

เรื่องราวในชาดกนี้เล่าถึงชายคนหนึ่งที่เกิดในตระกูลยากจนและทำงานเป็นลูกจ้างเพื่อเลี้ยงชีวิต แม้จะอยู่ในฐานะที่ต้องทำงานหนัก แต่เขาก็มีศีลสังวรและยึดมั่นในความดี เมื่อได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าจำนวน 4 รูป ที่ประกอบไปด้วยอาจาระและศีล เขาเกิดจิตเลื่อมใสและถวายขนมกุมมาส (ขนมชนิดหนึ่ง) ด้วยมือของตนเอง ผลแห่งการทำบุญครั้งนี้ทำให้เขาได้เสวยผลแห่งบุญในภายภาคหน้า ได้ครองราชสมบัติและมีทรัพย์สมบัติมากมาย

นอกจากนี้ ชาดกยังกล่าวถึงหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งเคยเป็นทาสีในอดีตชาติ เธอได้ถวายอาหารแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยใจเลื่อมใส ผลแห่งกรรมนี้ทำให้เธอได้เกิดในตระกูลสูงส่ง มีผิวพรรณผุดผ่อง และกลายเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าโกศลในชาติปัจจุบัน


การวิเคราะห์ในบริบทพุทธสันติวิธี

พุทธสันติวิธีเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เน้นความสงบสุขและการสร้างสรรค์สังคมที่ปราศจากความขัดแย้ง ชาดกเรื่องนี้สามารถนำมาวิเคราะห์ในบริบทดังกล่าวได้ดังนี้:

1. หลักแห่งกรรมและความเมตตา

  • การถวายขนมกุมมาสและอาหารในชาดกนี้สะท้อนถึงหลักแห่งกรรมที่ว่า "การกระทำใด ๆ ก็ตาม จะส่งผลตอบแทนตามแรงแห่งการกระทำนั้น" ชายลูกจ้างและหญิงทาสีต่างก็มีจิตเลื่อมใสและเต็มใจในการทำบุญ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีทรัพย์สมบัติมากนักในขณะนั้น แต่ความบริสุทธิ์ใจในการทำทานได้ส่งผลให้พวกเขาได้รับอานิสงส์มหาศาล
  • หลักธรรมนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสังคมปัจจุบัน โดยการปลูกฝังจิตสำนึกให้ผู้คนรู้จักการให้และการแบ่งปัน แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเห็นแก่ตัวและสร้างความสามัคคีในสังคม

2. ศีลสังวรและการดำรงตนในศีลธรรม

  • ชายลูกจ้างในชาดกนี้แม้จะทำงานหนักและมีฐานะยากจน แต่เขาก็ยังคงรักษาศีลและดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ความสำรวมระวังในศีลธรรมของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของการดำรงตนอย่างมีคุณธรรม
  • ในบริบทพุทธสันติวิธี การรักษาศีลและดำเนินชีวิตอย่างมีสติจะช่วยลดความขัดแย้งและความรุนแรงในสังคม เพราะผู้ที่มีศีลธรรมจะไม่กระทำการที่เป็นโทษต่อตนเองและผู้อื่น

3. ทศพิธราชธรรมและการปกครองที่เป็นธรรม

  • ชาดกยังเน้นถึงความสำคัญของทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นหลักการปกครองที่พระราชาควรยึดถือ เช่น การให้ทาน การรักษาศีล การละเว้นจากการเบียดเบียน และการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อประชาชน
  • หากผู้นำในสังคมปัจจุบันนำหลักทศพิธราชธรรมไปปรับใช้ จะสามารถสร้างความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน

การประยุกต์ใช้หลักธรรมในชีวิตประจำวัน

  1. การให้และการแบ่งปัน: ไม่ว่าเราจะมีทรัพยากรมากหรือน้อย การให้ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์จะช่วยสร้างความสุขและความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม
  2. การรักษาศีล: การรักษาศีล 5 เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินชีวิต ช่วยให้เราเป็นคนดีและเป็นที่เคารพนับถือของผู้อื่น
  3. การดำรงตนในความไม่ประมาท: ชาดกสอนให้เราตระหนักถึงผลของกรรมและไม่ประมาทในการทำบุญหรือการกระทำใด ๆ
  4. การสร้างสังคมที่สงบสุข: การนำหลักธรรมจากชาดกไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจะช่วยสร้างสังคมที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และปราศจากความขัดแย้ง

สรุป

"กุมมาสปิณฑชาดก" เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา เช่น หลักแห่งกรรม การให้ การรักษาศีล และการปกครองที่เป็นธรรม ชาดกนี้ไม่เพียงแต่เป็นคำสอนที่เกี่ยวข้องกับอดีตชาติเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุขและมีความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...