วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

กุมภการชาดก เหตุให้ประพฤติภิกขาจาริยวัตร

     ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ กุมภการชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค    ที่ประกอบด้วย  

 ๓. กุมภการชาดก

เหตุให้ประพฤติภิกขาจาริยวัตร

             [๑๐๕๗] อาตมภาพได้เห็นมะม่วงอันงอกงามออกช่อและผลเขียวไปทั้งต้น ใน

                          ระหว่างป่ามะม่วง เวลากลับ อาตมภาพได้เห็นมะม่วงต้นนั้นหักย่อยยับ

                          เพราะผลเป็นเหตุ จึงได้เที่ยวประพฤติภิกขาจาริยวัตร.

             [๑๐๕๘] นางนารีคนหนึ่งสวมกำไรมือหินคู่หนึ่ง เกลี้ยงกลม อันนายช่างผู้

                          ชำนาญทำแล้วไม่มีเสียงดัง เพราะอาศัยข้างที่สอง จึงเกิดมีเสียงดังขึ้น

                          ได้ อาตมภาพได้เห็นอย่างนี้ จึงได้เที่ยวประพฤติภิกขาจาริยวัตร.

             [๑๐๕๙] นกจำนวนมากพากันล้อมลุมตามจิก ตีนกตัวหนึ่งซึ่งกำลังคาบก้อนเนื้ออยู่

                          ได้ก้อนเนื้อแล้วบินไป เพราะอาหารเป็นเหตุ อาตมภาพได้เห็นอย่างนี้

                          จึงได้เที่ยวประพฤติภิกขาจาริยวัตร.

             [๑๐๖๐] อาตมภาพได้เห็นวัวหนึ่งตัวอยู่ในท่ามกลางฝูง มีวลัยเป็นเครื่องประดับ

                          ประกอบด้วยสีสรรและกำลังมาก ได้ขวิดเอาวัวตัวหนึ่งตาย เพราะกาม

                          เป็นเหตุ อาตมภาพได้เห็นอย่างนี้ จึงได้เที่ยวประพฤติภิกขาจาริยวัตร.

             [๑๐๖๑] พระเจ้ากรันฑกะของชาวกลิงครัฐ พระเจ้านัคคชิของชาวคันธารรัฐ

                          พระเจ้าเนมิราชของชาววิเทหรัฐ และพระเจ้าทุมมุขะของชาวปัญจาลรัฐ

                          ทั้งสี่พระองค์นี้ต่างพากันทรงละรัฐออกผนวช หาความห่วงใยมิได้.

             [๑๐๖๒] แม้พระราชาเหล่านั้นทุกๆ พระองค์ เปรียบด้วยเทพเจ้า มาพร้อมหน้ากัน

                          ย่อมสง่างามไปด้วยคุณ เหมือนไฟอันงามสว่างไสวฉะนั้น ดูกรนางภัควิ

                          แม้เราเองจะสละกามทั้งหลายตามส่วนของตนๆ แล้วจะออกบวชเที่ยว

                          ไปแต่ผู้เดียว.

             [๑๐๖๓] เวลานี้เท่านั้น เวลาอื่นจากนี้เป็นไม่มี ภายหลังบุคคลผู้สอนดิฉันจะไม่มี

                          ข้าแต่ท่านผู้มีส่วนความดี แม้ดิฉันก็จะขอพ้นจากมือของบุรุษเที่ยวไป

                          ผู้เดียว ดังนางนกที่พ้นจากมือของบุรุษ ฉะนั้น.

             [๑๐๖๔] เด็กสองคนนั้นย่อมรู้จักว่านี่ข้าวดิบ นี่ข้าวสุก และรู้จักว่านี่เค็ม นี่ไม่

                          เค็ม ฉันเห็นอย่างนี้แล้วจึงออกบวช ท่านจงประพฤติภิกขาจาริยวัตร

                          เถิด ถึงฉันก็จะประพฤติภิกขาจาริยวัตรเช่นเดียวกัน.


ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ กุมภการชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก   สัตตกนิบาตชาดก


๒. คันธารวรรค


วิเคราะห์ กุมภการชาดก ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ๒. คันธารวรรค

บทนำ

กุมภการชาดกเป็นหนึ่งในชาดกที่บรรจุอยู่ในพระไตรปิฎก เล่มที่ 27 ภายใต้พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก สัตตกนิบาตชาดก ในคันธารวรรค ชาดกเรื่องนี้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติภิกขาจาริยวัตร (การดำรงชีวิตโดยความเรียบง่ายและสันโดษ) ผ่านเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ที่ได้รับข้อคิดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในธรรมชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางการดำรงชีวิตด้วยปัญญา และการปล่อยวางกิเลสเพื่อแสวงหาความสงบทางจิตใจ

เนื้อหาของกุมภการชาดก

กุมภการชาดกเล่าเรื่องของพระโพธิสัตว์ที่เห็นเหตุการณ์ในธรรมชาติและได้นำมาวิเคราะห์เป็นข้อคิดสำคัญ ได้แก่:

  1. มะม่วงที่งอกงามและถูกทำลาย – มะม่วงที่ออกผลดกและงดงามถูกทำลายเนื่องจากผลของมันเอง เปรียบได้กับความยึดมั่นในสิ่งที่เป็นวัตถุและกามสุขที่นำมาซึ่งความทุกข์

  2. กำไรมือของหญิงสาว – กำไรมือที่ไม่มีเสียงเมื่ออยู่เดี่ยว ๆ แต่เมื่ออยู่คู่กันกลับเกิดเสียง เปรียบถึงความสงบของผู้ที่อยู่ลำพังและความขัดแย้งเมื่ออยู่ร่วมกัน

  3. นกที่คาบเนื้อ – นกที่มีอาหารถูกนกตัวอื่นไล่จิก เปรียบกับความทุกข์ที่เกิดจากความโลภและการยึดติดในทรัพย์สิน

  4. วัวที่ถูกฆ่าเพราะความทะนงตน – วัวที่มีพลังมากแต่ถูกฆ่าเพราะอำนาจแห่งกิเลส เปรียบถึงภัยของกามและความหลงตัวเอง

  5. พระราชาที่สละราชสมบัติออกบวช – พระราชาผู้ยิ่งใหญ่หลายพระองค์เลือกละทิ้งอำนาจเพื่อแสวงหาสัจธรรม

การประยุกต์ใช้ในพุทธสันติวิธี

หลักธรรมจากกุมภการชาดกสามารถนำมาใช้ในพุทธสันติวิธีเพื่อการดำเนินชีวิตและการอยู่ร่วมกันในสังคมได้ดังนี้:

  1. การปล่อยวางความโลภและกิเลส – การเข้าใจว่าสิ่งของและอำนาจเป็นเหตุแห่งทุกข์ ทำให้สามารถใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไม่เบียดเบียนผู้อื่น

  2. การอยู่สันโดษและการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง – ความสงบสามารถเกิดขึ้นจากการลดการยึดติดและลดความขัดแย้งในสังคม

  3. การพิจารณาเหตุและผลในธรรมชาติ – ธรรมชาติมอบบทเรียนมากมายในการดำรงชีวิต เช่น การไม่ยึดมั่นถือมั่น และการเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว

  4. แนวคิดการออกบวชเพื่อแสวงหาสัจธรรม – พระราชาผู้ละทิ้งอำนาจเปรียบเป็นแบบอย่างของการเสียสละเพื่อสัจธรรม

สรุป

กุมภการชาดกเป็นชาดกที่ให้ข้อคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตโดยไม่ยึดติดในวัตถุและอำนาจ ความสงบทางจิตใจสามารถบรรลุได้ด้วยการลดละกิเลสและใช้ปัญญาพิจารณาเหตุการณ์รอบตัว เรื่องราวในชาดกนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้มนุษย์พิจารณาถึงความสำคัญของความเรียบง่าย สันติ และปัญญาในการดำรงชีวิต ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและแนวทางพุทธสันติวิธีได้อย่างลึกซึ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...