วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2568

กัจจานิชาดก ลูกสะใภ้กับแม่ผัว

    ช่วยเขียนบทความทางวิชาการ  เรื่องวิเคราะห์ กัจจานิชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก  อัฏฐกนิบาตชาดก ๑.  กัจจานิวรรค     ที่ประกอบด้วย  

 ๑. กัจจานิชาดก

ในกาลไหนๆ ธรรมย่อมไม่ตาย

             [๑๑๒๑] ดูกรแม่กัจจานี เธอสระผม นุ่งห่มผ้าขาวสะอาด ยกถาดสำรับขึ้นสู่

                          เตากะโหลกหัวผี ยีแป้ง ล้างงา ซาวข้าวสารทำไม ข้าวสุกคลุกงา

                          จักมีไว้เพราะเหตุอะไร?

             [๑๑๒๒] ดูกรพราหมณ์ ข้าวสุกคลุกงาซึ่งทำให้สุกดีนี้ มีไว้เพื่อจะบริโภค ก็หาไม่

                          ธรรม คือ ความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ และสุจริตธรรม ๓ ประการได้

                          สูญไปเสียแล้ว วันนี้ ดิฉันจักกระทำการบูชาแก่ธรรมนั้น ในท่ามกลาง

                          ป่าช้า.

             [๑๑๒๓] ดูกรแม่กัจจานี เธอจงใคร่ครวญเสียก่อนแล้ว จึงทำการงาน ใครบอก

                          แก่เธอว่า ธรรมสูญเสียแล้ว ธรรมอันประเสริฐเหมือนท้าวสหัสนัย

                          เทวราชผู้มีอาณุภาพหาผู้เปรียบมิได้ ย่อมไม่ตายในกาลไหนๆ.

             [๑๑๒๔] ข้าแต่ท่านผู้ประเสริฐ ในข้อที่ว่าธรรมสูญนี้ ดิฉันมั่นใจเอาเอง ในข้อ

                          ที่ว่า ธรรมไม่มี ดิฉันยังสงสัย เดี๋ยวนี้คนผู้ชั่วช้าย่อมมีความสุข เช่น

                          ลูกสะใภ้ของดิฉันเป็นหมัน เขาทุบตีขับไล่ดิฉันแล้วคลอดลูก บัดนี้ เขา

                          เป็นใหญ่ในตระกูลทั้งหมด ดิฉันถูกทอดทิ้ง ไม่มีที่พึ่ง อยู่แต่ลำพังผู้

                          เดียว.

             [๑๑๒๕] เรายังเป็นอยู่ ยังไม่ตาย มา ณ ที่นี้เพื่อประโยชน์แก่เธอโดยตรง ลูก

                          สะใภ้คนใดทุบตีขับไล่เธอออกแล้วคลอดลูก เราจะกระทำลูกสะใภ้คน

                          นั้นพร้อมกับลูก ให้ละเอียดเป็นเถ้าธุลี.

             [๑๑๒๖] ข้าแต่ท้าวเทวราช พระองค์ทรงยินดีเสด็จมาในที่นี้ เพื่อประโยชน์แก่

                          หม่อมฉันโดยตรงอย่างนี้ ขอให้หม่อมฉัน บุตร ลูกสะใภ้ และหลานจง

                          ยินดีสมัครสมานอยู่เรือนร่วมกันเถิด.

             [๑๑๒๗] ดูกรแม่กาติยานี เธอยินดีอย่างนั้นก็ตามใจเธอ ถึงจะถูกทุบตีขับไล่ก็ไม่

                          ละธรรม คือเมตตาในพวกเด็กๆ ขอให้เธอ บุตร ลูกสะใภ้ และ

                          หลาน จงยินดีสมัครสมานอยู่เรือนร่วมกันเถิด.

             [๑๑๒๘] นางกาติยานี ยินดีสมัครสมานกับลูกสะใภ้ อยู่เรือนร่วมกันแล้ว ลูก

                          และหลานต่างช่วยกันบำรุง เพราะท้าวสักกเทวราชทรงอนุเคราะห์.

ในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรม ประยุกต์ใช้" โดยใช้สาระสำคัญของ กัจจานิชาดก   ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่  19  ขุททกนิกาย  ชาดก    อัฏฐกนิบาตชาดก ๑.  กัจจานิวรรค 

วิเคราะห์กัจจานิชาดกในปริบทพุทธสันติวิธี: หลักธรรมและการประยุกต์ใช้

บทนำ

กัจจานิชาดกเป็นหนึ่งในชาดกที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 19 ขุททกนิกาย ชาดก อัฏฐกนิบาตชาดก ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของนางกัจจานีและปัญหาทางสังคมที่เธอเผชิญ โดยมีท้าวสักกเทวราชเป็นผู้ชี้แนะหลักธรรมให้กับนางกัจจานี ความสำคัญของชาดกนี้อยู่ที่การเน้นถึงความเมตตา การให้อภัย และความสามัคคีในครอบครัว ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการพุทธสันติวิธีได้

สาระสำคัญของกัจจานิชาดก

กัจจานิชาดกกล่าวถึงนางกัจจานีที่ถูกลูกสะใภ้ขับไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากลูกสะใภ้คลอดบุตรและได้รับการยอมรับในครอบครัวมากขึ้น นางกัจจานีรู้สึกว่าหลักธรรมได้สูญสิ้นไปจากโลกนี้แล้ว จึงตั้งใจบูชาธรรมในป่าช้า ท้าวสักกเทวราชทรงลงมาเพื่อปลอบโยนนาง และเสนอความช่วยเหลือในการลงโทษลูกสะใภ้ แต่แทนที่นางกัจจานีจะใช้โอกาสนี้ในการแก้แค้น นางกลับเลือกให้อภัยและขอให้ครอบครัวกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

หลักพุทธสันติวิธีในกัจจานิชาดก

1. หลักความเมตตาและการให้อภัย

  • นางกัจจานีเลือกที่จะให้อภัยลูกสะใภ้แทนการแก้แค้น ซึ่งสะท้อนถึงหลักเมตตาธรรม (Mettā) และการปล่อยวางจากความโกรธแค้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพุทธสันติวิธี

2. การสร้างสันติผ่านการปรองดอง

  • เมื่อเผชิญกับความขัดแย้งในครอบครัว นางกัจจานีไม่เลือกใช้ความรุนแรงหรือตอบโต้ แต่เลือกที่จะส่งเสริมความสมัครสมานสามัคคี ซึ่งเป็นแนวทางของสันติวิธีในพระพุทธศาสนา

3. หลักธรรมสุจริตธรรม 3 ประการ

  • สุจริตธรรม 3 ประการ ได้แก่ การไม่ประพฤติผิดทางกาย วาจา และใจ เป็นหลักสำคัญที่ช่วยให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติ นางกัจจานีตระหนักว่าถึงแม้เธอจะถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม แต่เธอเลือกที่จะปฏิบัติตามหลักธรรมนี้

การประยุกต์ใช้ในบริบทปัจจุบัน

  1. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในครอบครัว

    • การให้อภัยและความเมตตาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสันติในครอบครัว ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทครอบครัวได้

  2. การจัดการความขัดแย้งในสังคม

    • หลักการปรองดองและการให้อภัยสามารถนำมาใช้ในการสร้างสังคมที่สงบสุข เช่น การเจรจาและสมานฉันท์ระหว่างกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน

  3. การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งสันติ

    • การเน้นความเมตตาและการไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงสามารถช่วยลดปัญหาความขัดแย้งในชุมชนและสังคมโดยรวม

สรุป

กัจจานิชาดกเป็นชาดกที่สะท้อนถึงหลักพุทธสันติวิธีอย่างลึกซึ้ง ผ่านเรื่องราวของนางกัจจานีที่เลือกการให้อภัยและความสมัครสมานสามัคคีแทนการแก้แค้น บทเรียนจากชาดกนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลายบริบทของสังคมปัจจุบัน เพื่อสร้างความสงบสุขและลดความขัดแย้งผ่านหลักธรรมในพระพุทธศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พุทธการทูต และ Soft Power ของ ดร.นิยม เวชกามา

วิเคราะห์บทบาทด้านต่างประเทศของดร.นิยม เวชกามา: พุทธนาวาแห่งการทูตและยุทธศาสตร์ Soft Power ในศตวรรษที่ 21 บทคัดย่อ รายงานการวิจัยฉบับนี้มุ่ง...